ผู้บริหาร รร.ย่านบึงกุ่ม ร้องกองปราบถูกหลอกร่วมลงทุน

กทม.13 พ.ย.- รอง ผอ. โรงเรียนชื่อดัง ย่านบึงกุ่ม ร้องกองปราบถูกอดีตอาจารย์ มหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดัง หลอกให้ร่วมลงทุน


ความคืบหน้ากรณีมีกลุ่มผู้เสียหายแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีอดีตอาจารย์คณะมนุษย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดัง หลอกให้ร่วมลงทุนธุรกิจขายคอร์สเรียนพิเศษภาคฤดูร้อนที่ประเทศอังกฤษ


วันนี้ นายกิตติภพ ภวณัฐกุลธร รองผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการ โรงเรียนชื่อดัง ย่านบึงกุ่ม ที่ได้รับความเสียหายจากการทำสัญญากับบริษัท ของนางสาวอัสมา ดำรงค์ผล อดีตอาจารย์คณะมนุษยศาสตร์ หัวหน้าภาควิชาภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดัง เพื่อพานักเรียนไปทัศนศึกษาที่ประเทศอังกฤษ ระยะเวลา 15 วัน ตั้งแต่วันที่ 13 – 27 ตุลาคม 2561 นำหลักฐานเอกสารสัญญาที่ได้ทำไว้ร่วมกัน เข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน กองปราบปราม เพื่อให้ดำเนินคดีในข้อหาฉ้อโกง

นายกิตติภพ เปิดเผยว่า นางสาวอัสมา ได้ยื่นประมูลโครงการทัศนศึกษากับทางโรงเรียน เมื่อเดือนพฤษภาคม ที่ผ่านมา ซึ่งจากการพิจารณารายละเอียดโครงการ ความน่าเชื่อถือของอาจารย์ และบริษัท ทำให้โรงเรียนตกลงทำสัญญา ในการพานักเรียนไปทัศนศึกษา ในราคาคนละ 9 หมื่นบาท จำนวน 30 คน มูลค่าเกือบ 3 ล้านบาท ซึ่งมีการส่งเอกสารสำคัญในการยื่นขอวีซ่าจนได้รับการอนุมัติ แต่เมื่อถึงเวลาต้องเดินทาง นางสาวอัสมากลับขอเลื่อนการเดินทางออกไปก่อน โดยอ้างว่ามีปัญหาเรื่องที่พักในประเทศอังกฤษ ซึ่งทางโรงเรียนได้ตรวจสอบไปยังประเทศอังกฤษ ทราบว่า นางสาวอัสมามีการติดต่อไปจริง แต่ไม่ได้จ่ายเงินตามที่ตกลงไว้ ทางโรงเรียนจึงติดตามเรื่องโดยประสานทั้งทางมหาวิทยาลัยกรุงเทพ กลับพบว่านางสาวอัสมาถูกถอนชื่อออกจากการเป็นบุคลากรของมหาวิทยาลัย และเมื่อติดตามไปที่บริษัท ซึ่งเป็นบ้านพักของนางสาวอัสมา ก็ไม่มีใครอยู่ แต่พบว่ามีหมายเรียกจากตำรวจ และเอกสารติดตามหนี้เป็นจำนวนมาก ขณะเดียวกัน ยังพบว่านางสาวอัสมานำเอกสารสำคัญของนักเรียนคนหนึ่ง ไปยื่นค้ำประกันเงินกู้นอกระบบ จำนวน 1 ล้านบาท จนนักเรียนรายดังกล่าวถูกน่ยทุนเงินกู้โทรศัพท์มาติดตามในฐานะผู้ค้ำประกัน ซึ่งเป็น เรื่องน่ากลัวและขาดศีลธรรมอย่างมากที่ทำกับเด็กได้ขนาดนี้


        ผู้ถูกกล่าวหายังนำสัญญาที่ทำไว้กับโรงเรียน ไปทำสำเนาเอกสารสัญญาปลอมอ้าง เพื่อยื่นขอกู้เงินโดยอ้างว่าบริษัทมีปัญหาการเงินเพราะโรงเรียนไม่ชำระเงินตามสัญญาโครงการทัศนศึกษา ซึ่งเรื่องนี้ทำให้ชื่อเสียงโรงเรียนได้รับความเสียหาย ทั้งนี้ จากการตรวจสอบประวัติบริษัทของนางสาวอัสมา พบว่ามีชื่ออาจารย์ของโรงเรียน 2 คน เป็นผู้ก่อตั้งบริษัท แต่นางสาวอัสมาเป็นกรรมการผู้มีอำนาจลงนามเพียงคนเดียว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เหล้าเถื่อนลาว

เสียชีวิตรายที่ 6 คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว

คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเสียชีวิตเพิ่มรายที่ 6 เป็นหญิงชาวออสเตรเลีย เสียชีวิตขณะรักษาตัวในไทย

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษา ทบ.

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ช่วยปฏิบัติราชการที่กองบัญชาการกองทัพบก หลังถูกร้องทำร้ายร่างกายผู้ใต้บังคับบัญชา พร้อมช่วยเจ้าทุกข์ย้ายหน่วยตามร้องขอ

ไฟไหม้โรงงานพัดลม เผาวอดเสียหายกว่า 50 ล้าน

ไฟไหม้โรงงานผลิตพัดลมรายใหญ่ จ.สมุทรสาคร ระดมรถดับเพลิงระงับเหตุ กว่า 5 ชม. จึงควบคุมไว้ได้ในวงจำกัด เบื้องต้นเสียหายกว่า 50 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

“ทนายสายหยุด” จ่อถอนตัวคดีตั้ม หวั่นติดร่างแห

“ทนายสายหยุด” เตรียมถอนตัวเป็นทนายให้ “ตั้ม” เผยในมือมีแต่พยานเท็จ ปิดบังข้อเท็จจริง เสี่ยงเป็นผู้ร่วมกระทำผิด

ศึกชิงนายก อบจ.สุรินทร์ “ธัญพร มุ่งเจริญพร” เข้าป้าย

ศึกชิงนายก อบจ.สุรินทร์ ลุ้นกันจนนาทีสุดท้าย “ธัญพร มุ่งเจริญพร” พลิกชนะ “พรชัย มุ่งเจริญพร” แชมป์เก่าแบบขาดลอย คว้าเก้าอี้มาครอง นั่งนายก อบจ.หญิงคนแรกของจังหวัด

เลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี ครึ่งวันเช้าคึกคัก

ภาพรวมการใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี ครึ่งวันเช้าค่อนข้างคึกคัก มีประชาชนทยอยใช้สิทธิต่อเนื่อง ยังไม่มีรายงานการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง

ปชช.ตื่นตัวใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ท่ามกลางสายฝน

ชาวนครศรีธรรมราช ตื่นตัวออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ. ท่ามกลางสายฝน กกต.เผยภาพรวมครึ่งวันเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ยังไม่มีรายงานการทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง