สทนช. เตือนใต้ตอนล่าง11 – 14 พ.ย.เฝ้าระวังฝนตกหนัก

กรุงเทพฯ 10 พ.ย.- สทนช.ห่วงน้ำท่วมภาคใต้ ประชุมคณะทำงานอำนวยการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 12 พ.ย.นี้ประเมินสถานการณ์ พร้อมเฝ้าระวัง 3 จังหวัดใต้ตอนบน 


นายสมเกียรติ  ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ เปิดเผยว่า ในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมาอิทธิพลจากหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง ซึ่งขณะนี้ปกคลุมทะเลอันดามัน ส่งผลให้เกิดฝนหนักมากบริเวณโดยเฉพาะภาคใต้ฝั่งตะวันออก และมีฝนตกหนักมากในพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และเพชรบุรี ปริมาณฝนสะสมย้อนหลัง 3 วัน ได้แก่ ชุมพร  462 มม. ประจวบคีรีขันธ์ 406 มม. และเพชรบุรี 124.5 มม. ซึ่งปริมาณฝนสะสมต่อเนื่องส่งผลให้เกิดสถานการณ์น้ำล้นตลิ่งต่ำบริเวณปากแม่น้ำเนื่องจากน้ำทะเลหนุนสูงและน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่ ได้แก่ จ.เพชรบุรี น้ำท่วมขัง บริเวณ 2 อำเภอ 2 ตำบล 2 หมู่บ้าน ได้แก่ อ.เมืองฯ และชะอำ ถนนหลายสายในเขตเทศบาลเมืองเพชรบุรีถูกน้ำท่วมขัง  ขณะนี้เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว จ.ประจวบคีรีขันธ์  น้ำล้นตลิ่ง จากคลองขนาน แม่น้ำบางสะพาน ส่งผลเกิดน้ำท่วมขัง ในพื้นที่  3 อำเภอ 12 ตำบล 78 หมู่บ้าน ได้แก่ อ.บางสะพาน บางสะพานน้อย  และ อ.ทับสะแก ประชาชนได้รับผลกระทบจำนวน 3,500 ครัวเรือน 10,000 คน อ.บางสะพานประกาศ ปิดโรงเรียน จำนวน 11 แห่ง ขณะที่ จ.ชุมพร เกิดน้ำท่วมขังบริเวณ 7 อำเภอ 45 ตำบล 267 หมู่บ้าน ได้แก่ อ.ปะทิว สวี ท่าตะโก รับร่อ ละแม หลังสวน และ อ.เมืองชุมพร ประชาชนได้รับผลกระทบ 2,427 ครัวเรือน 5,210 คน เสียชีวิต 1 ราย สูญหาย 1 ราย โรงเรือน 1 หลัง ถนน 260 สาย สะพาน 10 แห่ง ฝาย 10 แห่ง ประปา 3 แห่ง อ่างเก็บน้ำ 3 แห่ง ท่อระบายน้ำ 20 แห่ง นา 170 ไร่สวน 1,958 ไร่ พืชไร่ 107 ไร่ บ่อปลา 8 บ่อ 

สำหรับปริมาณฝน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมามีฝนตกหนักมากในพื้นที่ 4 จังหวัด สูงสุดที่ อ.บางสะพาน ประจวบคีรีขันธ์ 182 มม. อ.นบพิตำ นครศรีธรรมราช 173 มม. อ.ปะทิว จ.ชุมพร 145 มม. และ อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี 144 มม. ตามลำดับ ซึ่งในวันนี้ (10 พ.ย.) จะยังคงมีฝนตกหนักบางพื้นที่ บริเวณ จ.เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี ระนอง พังงา และภูเก็ต โดยเฉพาะในพื้นที่เดิมที่มีน้ำท่วมขัง และต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด  ซึ่งจากการติดตามระดับน้ำในแม่น้ำสำคัญๆ ใน 3 จังหวัดที่มีปริมาณฝนตกต่อเนื่องและประสบปัญหาน้ำท่วมขณะนี้ ได้แก่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ในพื้นที่ลุ่มต่ำใกล้ปากอ่าวไทย บริเวณบ้านท่ามะนาว บ้านล่าง (กลางนา) พบว่า ระดับน้ำเริ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง จ.นครศรีธรรมราช คลองท่าดี บ้านนาป่า อ.เมืองนครศรีธรรมราช ปัจจุบันระดับน้ำอยู่ที่ 10.66 ม. ต่ำกว่าตลิ่ง 0.14 ม. โดยระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องชั่วโมงละ 4 ซม. ขณะที่ จ.ชุมพร สถานีสะพานเทศบาล 2 คลองท่าตะเภา อ.เมืองชุมพร ปัจจุบันระดับน้ำอยู่ที่ 3.54 ม. ต่ำกว่าตลิ่ง 0.26 ม. ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องชั่วโมงละ 4 ซม.เช่นเดียวกัน 


อย่างไรก็ตาม ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมชลประทาน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หน่วยทหาร 

ได้เร่งการระบายน้ำ ผลักดันออกสู่ทะเลโดยเร็วอย่างต่อเนื่องแล้ว ตามข้อสั่งการของพลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี ที่ได้ลงพื้นที่ติดตามแผนการป้องกันและบรรเทาอุทกภัยภาคใต้ ณ จ.นครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 31 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเน้นย้ำแผนงานมาตรการของทุกหน่วยงานในการตามแผนเตรียมการรับสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ที่เสี่ยงน้ำท่วมเป็นประจำ 16 จังหวัดของภาคใต้ ทั้งเครื่องสูบน้ำ เครื่องผลักดันน้ำ เรือ รถแทรกเตอร์ รถขุด และเครื่องจักรกลสนับสนุนอื่นๆ เพื่อระบายน้ำ การอพยพประชาชน และอำนวยความสะดวกด้านการจราจรเป็นการเร่งด่วน แต่ทั้งนี้กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่าในช่วงวันที่ 11-14 พ.ย. 61 ประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ภาคใต้มีฝนกระจายทั่วไป แต่จะมีฝนหนักบางแห่งในบริเวณภาคใต้ตอนล่าง ซึ่ง สทนช.ยังคงติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์อากาศ และปริมาณฝนจาก กรมอุตุนิยมวิทยา และสสนก. เพื่อประสานหน่วยงานในพื้นที่แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยง รวมถึงกำชับทุกหน่วยงานเร่งสำรวจสิ่งกีดขวางทางน้ำระยะที่สองโดยเร่งด่วนเพื่อให้การระบายน้ำในพื้นที่ออกสู่ทะเลรวดเร็วขึ้น

นายสมเกียรติ กล่าวเพิ่มเติมถึงสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ในพื้นที่ดังกล่าว พบว่า อ่างเก็บน้ำแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ปริมาตรน้ำในอ่างฯ 90% ปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯ วันละ 2.70 ล้าน ลบ.ม. ปริมาณน้ำระบายวันละ 3.46 ล้าน ลบ.ม. ปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯ ในช่วง 1-2 วัน มีแนวโน้มคงเดิม ขณะที่อ่างเก็บน้ำปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ปริมาตรน้ำในอ่างฯ 83% ปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯ วันละ 3.83 ล้าน ลบ.ม. ปริมาณน้ำระบายวันละ 2.36 ล้าน ลบ.ม. ปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯ ในช่วง 1-2 วัน มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเล็กน้อยแต่อยู่ในเกณฑ์ที่ควบคุมได้ และยังรองรับปริมาณฝนที่ตกมาในพื้นที่ในช่วงนี้ได้อยู่


ทั้งนี้ ในส่วนของการแก้ไขปัญหาระยะสั้นเฉพาะหน้าขณะนี้ สทนช.ได้กำหนดจัดให้มีการประชุมคณะทำงานอำนวยการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำครั้งที่ 10/2561 ในวันจันทร์ที่ 12 พฤศจิกายน 2561  ณ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ อาคารจุฑามาศ ถนนวิภาวดีรังสิต เพื่อหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์น้ำในภาคใต้ การบรรเทาผลกระทบในพื้นที่เป็นการเร่งด่วน ซึ่งรองนายกฯ พลเอกฉัตรชัย มีข้อห่วงใยต่อสถานการ์อุทกภัยทางภาคใต้ รวมถึงแผนเตรียมการบริหารจัดการน้ำในฤดูแล้งปี 2561/2562 ด้วย สำหรับการแก้ไขปัญหาในระยะยาว สทนช ได้เร่งบูรณาการแผนงานเชิงพื้นที่ทั้งระบบ (Area Based) เนื่องจากพื้นที่ อ.บางสะพาน ประจวบคีรีขันธ์ จ.เพชรบุรี และ จ.ชุมพร อยู่ในร่างแผนแม่บทน้ำที่กำหนดเป็นพื้นที่เป้าหมายเร่งด่วนแล้ว -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ภูมิธรรม” เรียกประชุม ครม. วาระพิเศษ

ทำเนียบ 1 ส.ค.-“ภูมิธรรม” เรียกประชุม ครม. วาระพิเศษ เร่งพิจารณารับรองร่างถ้อยแถลงภาษีสหรัฐ 19% ให้มีผลอย่างเป็นทางการ พร้อมหารือหลักเกณฑ์งบฯ ฉุกเฉินเยียวยาเพิ่มเติมให้เจ้าหน้าที่รัฐ-ประชาชน เหตุชายแดนไทย-กัมพูชา นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ (1 ส.ค.) สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้เชิญประชุม ครม. นัดพิเศษ เพื่อพิจารณาเรื่องของอัตราภาษีตอบโต้จากสหรัฐอเมริกา โดย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม ที่ ห้อง 301 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล และการประชุมทางสื่ออิเลคทรอนิกส์ นายภูมิธรรม กล่าวว่า “เมื่อเช้านี้ประเทศไทยได้รับแจ้งจาก สหรัฐฯว่า สินค้าจากไทยที่ส่งไปจำหน่ายในสหรัฐฯจะถูกเรียกเก็บภาษี 19% ซึ่งเท่ากับหลายๆประเทศในภูมิภาค ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ที่จะพอทำให้เรายังคงแข่งขันได้ โดยในกระบวนการเจรจานี้ มีขั้นตอนสำคัญคือรัฐบาลไทยต้อง ออกถ้อยแถลงร่วมไทย-สหรัฐฯ ซึ่งคณะทำงาน โดยนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง […]

คณะทูต-ผู้ช่วยทูตทหาร-สื่อ ถึงอุบลฯ ลุยพิสูจน์ข้อเท็จจริงชายแดน

ทำเนียบ 1 ส.ค.- โฆษกรัฐบาล เผยคณะทูต-ผู้ช่วยทูตทหาร-สื่อมวลชนไทยและต่างประเทศ เดินทางถึงอุบลราชธานี เตรียมลงพื้นที่พิสูจน์ข้อเท็จจริงชายแดนไทย–กัมพูชา เมื่อเวลา 09.25 น. นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา (ศบ.ทก.) เปิดเผยว่า คณะผู้แทนทางการทูต ผู้ช่วยทูตทหารจาก 23 ประเทศ พร้อมด้วยสื่อมวลชนไทยและต่างประเทศรวมกว่า 100 คน ได้เดินทางถึงจังหวัดอุบลราชธานีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อเตรียมลงพื้นที่แนวชายแดนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบชายแดนไทย–กัมพูชา การเดินทางในครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นและ ความโปร่งใสของรัฐบาลไทย ที่พร้อมเปิดพื้นที่ให้คณะทูตต่างประเทศและสื่อมวลชนได้เห็น ข้อเท็จจริงด้วยตนเอง และรายงานต่อประชาคมโลกอย่างเป็นธรรม โดยไม่ปิดบังหรือบิดเบือน คณะทูตต่างประเทศที่ลงพื้นที่ในวันนี้ ประกอบด้วย เอกอัครราชทูต 3 ประเทศ ได้แก่ บรูไน ญี่ปุ่น และเมียนมา อุปทูต 3 ประเทศ ได้แก่ มาเลเซีย สปป.ลาว และอินโดนีเซีย ผู้แทนทางการทูตระดับต่าง ๆ จาก 5 ประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ […]

สหรัฐประกาศเก็บภาษีต่างตอบแทนไทย 19%

1 ส.ค. – ประธานาธิบดีสหรัฐ ประกาศเก็บภาษีต่างตอบแทนไทย 19% กัมพูชา 19% และมาเลเซีย 19% มีผลวันนี้ (1 ส.ค. 68) นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ประกาศเก็บภาษีต่างตอบแทนไทย 19% กัมพูชา 19% มาเลเซีย 19% มีผลวันนี้ (1 ส.ค. 68) ขณะที่ก่อนหน้านี้ นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ทีมไทยแลนด์ ได้ทำงานอย่างเต็มที่และรอบคอบในทุกมิติ มุ่งมั่นเสนอเงื่อนไขและข้อแลกเปลี่ยนของไทยสามารถยอมรับได้ โดยพยายามรักษาผลประโยชน์ของประเทศไว้ให้มากที่สุด โดยทุกประเด็นการเจรจาล้วนผ่านกระบวนการวิเคราะห์อย่างลึกซึ้ง และเป็นไปเพื่อประโยชน์สูงสุดของชาติ หากผลการเจรจาออกมาดีเกินคาด เราทุกคนคงจะดีใจไปด้วยกันแต่หากผลออกมาน้อยกว่าที่หวังไว้ ตนหวังว่าทุกท่านจะเข้าใจว่ารัฐบาลและทีมเจรจาได้พยายามอย่างถึงที่สุดแล้ว ตนในฐานะรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ขอขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจ และหวังว่าเราจะก้าวผ่านความท้าทายนี้ด้วยความร่วมมือและพลังใจของพวกเราทุกคน.-สำนักข่าวไทย

อุตุฯ เผยไทยฝนน้อย-เหนือตอนบนฝนตกหนักบางแห่ง

กรุงเทพฯ 1 ส.ค. – กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยมีฝนน้อย แต่ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคอีสานตอนบน ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 20% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยมีฝนน้อย แต่ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ทั้งนี้ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังอ่อน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังอ่อน โดยบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่าง มีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 […]