รองนายกฯจีน พร้อมหนุนนโยบายเศรษฐกิจไทย

กรุงปักกิ่ง 7 พ.ย.-รองนายกฯสมคิด หารือ 2 แกนนำรัฐบาลจีน หนุนนโยบายเศรษฐกิจไทย มุ่งส่งเสริมเขตอีอีซี เป็นศูนย์กลางภูมิภาค ขณะที่  ททท. เร่งเครื่องบุกตลาดจีน  


นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะเข้าหารือกับ นายหาน เจิ้ง รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจของจีน สาธารณรัฐประชาชนจีน ณ ทำเนียบรัฐบาล จงหนานไห่  นายหาน เจิ้ง ได้กล่าวชื่นชมนายสมคิดในการปาฐกพิเศษในงาน China International Import Expo (CIIE) งานมหกรรมนานาชาติการนำเข้า  โดยเห็นด้วยกับข้อเสนอของไทยในเวทีสัมมนา  เพื่อร่วมมือทั้งแบบทวิภาคี และความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจในหลายมิติ ทั้งกลุ่มยุทธาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ (ACMEC) อิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง  และกลุ่มอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงทั้ง (CLMVT) เพื่อเชื่อมต่อไปยังภูมมิภาคเอเชียใต้  หลังจากรัฐบาลจีน ญี่ปุ่นส่งเสริมภาคเอกชนทั้งจีนและญี่ปุ่นออกไปขยายการลงทุนในประเทศที่ 3 หลังจากนายสมคิด ได้เสนอต่อเวทีสัมมนา ว่าไทยเป็นยุทธศาสตร์สำคัญ โดยเฉพาะเขตอีอีซี เพื่อรองรับนโยบาย One Belt One Road  พาดผ่านจากจีนมาไทยกระจายสินค้าออกไปยังภูมิภาคอื่น 


จากนั้น นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะเข้าหารือกับ นายหวัง หย่ง มนตรีแห่งรัฐ สาธารณรัฐประชาชนจีน ณ เรือนรับรองรัฐบาลเตี้ยวหยูไถ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางการค้าและการลงทุน  โดยทั้งสองฝ่ายได้เห็นชอบเอกสารยกระดับกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจไทย-จีน (Comprehensive Framework on Enhancing Trade and Economic Partnership between the Thailand and China) มอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของสองประเทศเป็นผู้ลงนาม   มุ่งเน้นการยกระดับความร่วมมือ 7 ด้าน ได้แก่ 1) ด้านการค้า ร่วมมือเพื่อขยายการค้าให้บรรลุเป้าหมาย 140,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ภายในปี 2564 รวมถึงสนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทยเข้าร่วมงาน China International Import Expo เป็นประจำทุกปี ส่งเสริมความร่วมมือการค้าสินค้าเกษตร และให้จัดประชุม JC เศรษฐกิจไทย-จีน และคณะทำงานสนับสนุนการค้าอย่างไร้อุปสรรคเป็นประจำ 2) ด้านอุตสาหกรรมและการลงทุน ส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย อาทิ ยานยนต์สมัยใหม่ หุ่นยนต์ อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เทคโนโลยีชีวภาพทางการเกษตร อาหารเพื่ออนาคต และการบินและโลจิสติกส์

3) ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม เสริมสร้างความร่วมมือผ่านการพัฒนาศักยภาพบุคลากร การถ่ายทอดเทคโนโลยี การพัฒนาอุตสาหกรรมอาหาร โดยใช้เมืองนวัตกรรมอาหารของไทย (Food Innopolis) เป็นพื้นที่ในการทำวิจัยและพัฒนา เข้าร่วมโครงการสำรวจความร่วมมือด้านอวกาศของจีน  4) ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ส่งเสริมความร่วมมือด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-commerce) เทคโนโลยี 5G และการลงทุนในอุทยานดิจิทัลในไทย โครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล ทั้งเคเบิ้ลใต้น้ำ และโครงข่ายใยแก้วนำแสง  5) ด้านการเงิน ส่งเสริมการใช้เงินบาทและเงินหยวนในการทำธุรกรรมทางการค้าและการลงทุนระหว่างกัน 

6) ด้านการท่องเที่ยว ส่งเสริมการท่องเที่ยว  เช่น การถ่ายทำภาพยนตร์ การบริการเรือข้ามฟาก และธุรกิจบริการน้ำพุร้อน 7) ความร่วมมือทางเศรษฐกิจในระดับภูมิภาค  หนุนภาคเอกชนใช้ประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรี อาเซียน-จีน ส่งเสริมความเชื่อมโยงในภูมิภาคผ่านความร่วมมือภายใต้เขตเศรษฐกิจปากแม่น้ำจูเจียง (PPRD) กรอบความร่วมมือระหว่างมณฑลกวางตุ้ง – ฮ่องกง – มาเก๊า (GBA) กรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง (MLC) โครงการพัฒนาความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (GMS) และกรอบยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี – เจ้าพระยา – แม่โขง (ACMECS)


จีนนับว่ามีความสำคัญในฐานะเป็นคู่ค้าอันดับ 1 และนักลงทุนอันดับ 3 ของไทย มีประชากรเกือบ 1,400 ล้านคน ทำให้จีนเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจของโลกที่มีบทบาทนำในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของภูมิภาคเอเชียและโลกอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะการดำเนินการตามข้อริเริ่ม “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” (Belt and Road Initiative: BRI) ไทยได้พัฒนาความเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจกับจีนมาอย่างต่อเนื่อง  ปัจจุบัน จีนเป็นคู่ค้าอันดับ 1 ของไทย โดยจีนเป็นทั้งตลาดส่งออกและแหล่งนำเข้าอันดับ 1 ในขณะที่ไทย เป็นตลาดส่งออกลำดับที่ 15 และเป็นตลาดนำเข้าลำดับที่ 10 ของจีน ในปี 2560 การค้าสองฝ่ายมีมูลค่ารวม 73,670.43 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากปี 2559 ร้อยละ 11.9 และในช่วง  เดือนแรกของปี 2561การค้าระหว่างไทยกับจีนมีมูลค่า 45,710.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 11.6 โดยสินค้าส่งออกสำคัญของไทย ได้แก่ ยางพารา ผลิตภัณฑ์ยาง เม็ดพลาสติก เครื่องคอมพิวเตอร์/อุปกรณ์ 

นายสุพันธุ์  มงคงสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การหารือกับระดับผู้นำจีนในครั้งนี้เพิ่มความเชื่อมั่นให้กับเอกชนของจีนอย่างมาก อย่างเช่น บริษัท Prinx Chengshan กลุ่มล้อยางรถยนต์ และบริษัท Mebvii Tecnology ประกอบธุรกิจเมืองอัจฉริยะ ระบบความปลอดภัย เพราะมองเห็นความคืบหน้าการพัฒนาเขตอีอีซีอย่างต่อเนื่อง ทั้งการมี พ.ร.บ.อีอีซีเข้ามากำกับดูแลมีผลบังคับใช้  การตั้งสำนักงานอีอีซี   ครม.เห็นชอบ TOR โครงการขนาดใหญ่ 5 โครงการ จึงทำให้ต่างชาตินัดเข้าหารือทีมเศรษฐกิจ แจ้งความประสงค์ขยายการลงทุนในภูมิภาค เพราะได้จัดหาที่ดินรองรับการลงทุน ไทยจึงต้องเตรียมพร้อมบุคคลากรด้านอาชีวะ วิศวกรรม รองรับกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย 

นายฉัททันต์ กุญชร ณ อยุธยา รองผู้ว่าการตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.ได้หารือกับผู้บริหารบริษัท ไชน่า ทราเวล เซอร์วิส (CTS) ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจด้านการท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดของจีน โดยทาง CTS ต้องการให้ไทยเร่งประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวในจีน   ภายหลังจากที่ประชุมครม.ได้เห็นชอบการยกเว้นการเก็บค่าธรรมเนียมวีซ่า  21 ประเทศ  คาดว่าเป้าหมายนักท่องเที่ยวของจีนไม่ต่ำกว่า 10.5 ล้านคนต่อปี  ขณะนี้ ททท. เร่งสรุปรายละเอียด เพื่อนำบริษัททัวร์นำเที่ยว และสายการบิน ร่วมจัดโปรโมชั่น ลดราคา โดยมีทั้งสายการบินเที่ยวบินประจำ และเช่าเหมาลำ  ร่วมนำนักท่องเที่ยวจีนกลับไทย  โดยเฉพาะสายการบินสปริงแอร์ สายการบินโลว์คอสต์ขนาดใหญ่ของจีน  ได้ประสานความร่วมมือ กับสำนักงานททท.เมืองกว่างโจว และคุนหมิง  ร่วมทำโปรโมชั่นส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย 

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการททท. ยอมรับว่า จากที่ ครม.อนุมัติยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่า On arrival  จะทำให้นักท่องเที่ยวจีนช่วงสองเดือนสุดท้าย คือเดือนพ.ย.-ธ.ค.61 ปรับเคยติดลบ ขยับมาเพิ่มขึ้น คาดว่า นักท่องเที่ยวในภาพรวมของสองเดือนสุดท้ายสูงถึง 1.65 ล้านคน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 2  ส่งผลให้ภาพรวมนักท่องเที่ยวจีนตลอดทั้งปีทำยอดได้ 10.77 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 8 จากปีก่อนหน้า -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นร.หญิง ม.1 จมทะเลดับ หลังโรงเรียนพาไปทัศนศึกษาที่ระยอง

โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งใน จ.นครราชสีมา พานักเรียนไปทัศนศึกษาที่ จ.ระยอง นักเรียนหญิง ม.1 ถูกคลื่นดูดลงทะเลขณะเล่นน้ำ เสียชีวิต พ่อแม่สุดเศร้าสูญเสียลูกสาวคนเดียวของครอบครัว

น้ำท่วมเชียงใหม่

เชียงใหม่จมบาดาล น้ำท่วมครั้งประวัติศาสตร์

น้ำท่วมในตัวเมืองเชียงใหม่ ยังวิกฤติ หลังน้ำในลำน้ำปิงขึ้นสูงสุดทรงตัวสูงกว่า 5.30 เมตร ซึ่งสูงที่สุดตั้งแต่มีการวัดระดับน้ำปิง

น้ำท่วมขนส่งเชียงใหม่กระทบผู้โดยสาร เปิดจุดจอดรับ-ส่งชั่วคราว

น้ำขยายวงกว้างเข้าท่วมสถานีขนส่งเชียงใหม่แห่งที่ 2 และ 3 เต็มพื้นที่ ระดับน้ำสูงเกือบ 50 ซม. ผู้ประกอบการขนส่งต้องนำรถทัวร์โดยสารออกมาจอดรับ-ส่งบนถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ ยืนยันผู้ประกอบการยังให้บริการตามปกติ

ระทึก! แท็กซี่พลิกคว่ำเกิดเพลิงไหม้ 5 ชีวิตรอดหวุดหวิด

รถแท็กซี่พลิกคว่ำและเกิดเพลิงลุกไหม้กลางถนนพระราม 9 ผู้โดยสารหญิงสติดีถีบประตูช่วยตัวเองและคนอื่นออกมาจากตัวรถรวม 5 ชีวิตได้ทัน แต่ในจำนวนนี้บาดเจ็บสาหัส 1 คน เป็นคนขับแท็กซี่ ตำรวจเร่งสอบสวนหาสาเหตุ

ข่าวแนะนำ

กต.ย้ำมีแผนพร้อมอพยพคนไทยในอิสราเอล-เลบานอน

กต.ประชุมประเมินสถานการณ์อิสราเอล-ฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน ย้ำมีแผนอพยพพร้อม เผย 5 แรงงานไทยเตรียมเดินทางกลับ แนะประชาชนตัดสินใจก่อนน่านฟ้าปิด

เตรียมตั้ง 7 เตาไฟฟ้า พิธีพระราชทานเพลิงศพ นร.-ครู 23 คน

เตรียมพื้นที่ตั้ง 7 เตาไฟฟ้า กลางสนามโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม จ.อุทัยธานี ในพิธีพระราชทานเพลิงศพ นักเรียน-ครู 23 คน เหยื่อไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษา วันที่ 8 ต.ค.นี้

เชียงใหม่ยังอ่วม เจอน้ำท่วมครั้งประวัติศาสตร์

แม้ระดับน้ำปิงที่ทะลักท่วมตัวเมืองเชียงใหม่เริ่มลดลง จากที่เคยขึ้นสูงสุดถึง 5.30 เมตร ซึ่งถือว่าสูงที่สุดเท่าที่เคยวัดระดับมา จนทำให้เชียงใหม่เผชิญกับน้ำท่วมครั้งใหญ่สุดเป็นประวัติการณ์ บ้านเรือนหลายพันหลังและย่านการค้ายังจมน้ำ บางจุดยังท่วมสูงกว่า 2 เมตร ยังต้องเร่งอพยพผู้คนออกจากพื้นที่น้ำท่วม หลายคนต้องใช้ชีวิตอยู่ในรถที่จอดบนสะพาน

ภาคกลางเริ่มกระทบ น้ำเจ้าพระยาเอ่อท่วมบ้านประชาชน

น้ำเจ้าพระยาล้นข้ามถนนเข้าท่วมบ้านกว่า 30 หลังคาเรือน ต.ชีน้ำร้าย อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี ส่วนชุมชุนริมท่าน้ำปากเกร็ด เริ่มกระทบ