ก.อุตฯ 1 พ.ย. – รองนายกรัฐมนตรีเตรียมนำคณะโรดโชว์ดึงจีนลงทุนอีอีซี กระทรวงอุตฯ เดินหน้าผลักดันแผนลงทุน เตรียมเสนอบอร์ดอีอีซี 9 พ.ย.นี้ หลังจาก ครม.เห็นชอบทีโออาร์ 5 โครงการลงทุนขนาดใหญ่ คาดต่างชาติยื่นขอบีโอไอลงทุน 3 แสนล้านบาท เตรียมใช้กองทุนอีอีซีดูแลชาวบ้านในพื้นที่พันล้านบาท คาดแผนลงทุนอีอีซีช่วยดันจีดีพีโตร้อยละ 5
นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการเฉพาะกิจเพื่อบริหารการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กบอ.) ครั้งที่ 3/2561 รับทราบความก้าวหน้าและแผนส่งเสริมการลงทุนอุตสาหกรรมเป้าหมายปี 2562 เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ 5 โครงการ หลังผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี คาดสรรหาเอกชนผู้ร่วมลงทุนกุมภาพันธ์ 2562 ขณะนี้แผนสร้างรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน เตรียมยื่นประมูล 12 พฤศจิกายนนี้ จึงเร่งรัดสำนักงานอีอีซีออกโรดโชว์ดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) 3-8 พฤศจิกายนนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะทั้งกระทรวงเศรษฐกิจ และภาคเอกชน กำหนดเดินทางเยือนจีน เพื่อชักจูงการลงทุนที่กรุงปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้ เพราะจีนมีศักยภาพด้านเทคโนโลยีชั้นสูง พร้อมเข้ามาลงทุนในประเทศไทย
นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการ คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) กล่าวว่า แผนดึงดูดการลงทุนในประเทศเป้าหมายต้องโรดโชว์แบบเจาะจง เพื่อเข้ามาขยายการลงทุนใน 10 อุตสหากรรมกลุ่มเป้าหมาย เช่น อังกฤษ ฝรั่งเศส ต้องการลงทุนด้านอากาศยาน ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ชั้นสูงกลุ่มไฮเทค เพราะแอร์บัสสนใจเข้ามาลงทุนแล้ว กลุ่มยุโรปยังมีผู้ประกอบการสตาร์ทอัพอีกจำนวนมากที่มีศักยภาพและยังมีสหรัฐต้องดึงเข้ามาลงทุน เพราะมีศักยภาพหลายด้าน ด้านหุ่นยนต์ และ AI ญี่ปุ่นจะมีความเชี่ยวชาญมาก
ส่วนแผนดึงการลงทุนจากจีนของรองนายกรัฐมนตรี เพราะหางโจวเป็นที่ตั้งของอาลีบาบามีกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์กว่า 40,000 ราย จึงต้องการนำเข้ามาลงทุน ช่วงปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมาภาคเอกชนรายใหญ่ของจีนและญี่ปุ่นลงนามเอ็มโอยูประกาศจับมือลงทุนร่วมกัน เพื่อร่วมออกไปขยายการลงทุนในประเทศที่ 3 โดยเฉพาะเขตอีอีซีของไทย ด้านหุ่นยนต์ การแพทย์ สมาร์ทซิตี้ ด้านโครงสร้างพื้นฐาน คือ สนามบินอู่ตะเภา รถไฟความเร็วสูง ท่าเรือมาบตาพุดและแหลมฉบัง เนื่องจากจีนมีความสามารถด้านการก่อสร้าง ขณะที่ญี่ปุ่นเชี่ยวชาญด้านแผนลงทุน การติดตามตรวจสอบความโปร่งใส แผนงาน ดูแลสิ่งแวดล้อม จึงต้องนำจุดเด่นมาร่วมกันบุกตลาดประเทศที่ 3
ที่ประชุมยังรับทราบแผนผังการใช้พื้นที่ เพื่อให้เกิดประโยชน์ครอบคลุม อาทิ ด้านสาธารณสุข โครงสร้างพื้นฐาน สุขอนามัย ขณะนี้สำนักงานอีอีซีอยู่ระหว่างร่วมกับกรมโยธาธิการและผังเมืองเร่งจัดงานผังเมือง รองรับการเติบโตของเมืองใหม่ คาดว่าร่างกฎหมายผังการใช้พื้นที่ยกร่างแรกได้ต้นเดือนธันวาคมนี้ จากนั้นจะมีกระบวนการรับฟังความคิดเห็น คาดเดือนกุมภาพันธ์ปี 2562 เสนอ ครม.พิจารณาประกาศบังคับใช้
นอกจากนี้ ที่ประชุมรับทราบแผนการจัดตั้งกองทุนพัฒนาอีอีซีตาม พ.ร.บ.อีอีซี เพื่อดูแลสภาพพื้นที่และสภาพแวดล้อม กองทุนจะเริ่มดำเนินการเป็นรูปธรรมปี 2562 หลังจากรัฐบาลอุดหนุนเงินในกองทุน 100 ล้านบาท จากนั้นจะหารายได้เข้ากองทุนในรูปแบบกิจกรรมและค่าธรรมเนียมรูปแบบต่างจากเอกชนที่ลงทุนในเขตอีอีซี เป้าหมาย 1,000 ล้านบาท เพื่อใช้พัฒนาชุมชนโดยรอบต่อไป รวมทั้งยังเร่งแผนประชาสัมพันธ์เขตอีอีซีเข้มข้นมากขึ้น เพื่อสร้างการรับรู้ทั้งประชาชนทั่วไป กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย นอกจากนี้ ที่ประชุมยังวางแผนขยายโครงการอีอีซีที่ปัจจุบันครอบคลุม 3 จังหวัด ไปสู่จังหวัดอื่น ๆ ซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษาความเหมาะสม อย่างไรก็ตาม รายละเอียดและแผนการดำเนินงานทั้งหมดจะเสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายอีอีซีที่มีนายกรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้งวันที่ 9 พฤศจิกายนนี้
สำหรับการขอรับส่งเสริมการลงทุนในเขตอีอีซีตั้งแต่ปี 2559-2561 ภาคเอกชนได้เสนอขอรับส่งเสริมการลงทุน 720,000 ล้านบาท ล่าสุดปี 2561 ขอรับส่งเสริมบีโอไอ 230,000 ล้านบาท มองว่าอีก 2 เดือนที่เหลือยอดจะถึง 300,000 ล้านบาทตามเป้าหมาย เมื่อภาคเอกชนทยอยลงทุนในเขตอีอีซีจะผลักดันจีดีพีเติบโตได้เต็มศักยภาพร้อยละ 5 หลังการลงทุนทั้งภาครัฐและเอกชนในพื้นที่ภาคตะวันออก.-สำนักข่าวไทย