มูลนิธิเพื่อนหญิง ยื่นข้อเสนอ 4 ข้อ เปลี่ยนผู้ชาย

สวนลุมพินี  27 ต.ค.- มูลนิธิเพื่อนหญิง จัดงาน “Men For Change ผู้ชายไม่ทำร้ายผู้หญิง” ยื่น 4 ข้อเสนอกระตุ้น ผู้ชายลุกขึ้นสร้างสังคมปลอดภัยให้ผู้หญิงมากขึ้น


 

มูลนิธิเพื่อนหญิงร่วมกับมูลนิธิพิทักษ์สตรี จัดงาน “Men For Change ผู้ชายไม่ทำร้ายผู้หญิง” เนื่องในโอกาสวันที่ 13 ต.ค.ที่ผ่านมา เป็นวันสตรีสากล เเละวันที่ 25 พ.ย.เป็นวันยุติความรุนเเรงต่อผู้หญิงสากล เพื่อให้กระตุ้น กลุ่มผู้ชาย เข้ามา มีส่วนร่วมสร้างสังคมที่ปลอดภัย สำหรับผู้หญิงมากขึ้น เพราะที่ผ่านมาหน่วยงานด้านผู้หญิงทำงานอย่างเดียวคงไม่เพียงพอกับการช่วยลดความรุนเเรงต่อผู้หญิง ที่ปัจจุบันมีผู้หญิงถูกทำร้ายมากขึ้น โดยเเต่ละวันมีผู้หญิงไม่น้อยกว่า 7 คน ถูกล่วงละเมิดทางเพศ ได้รับความรุนเเรงต่อกายเเละจิตใจ เเละมีการเเจ้งความร้องทุกข์สูงถึงปีละ 30,000 คน 


ขณะเดียวกันจากการเก็บข้อมูลของมูลนิธิตั้งเเต่ปี 2560-2561 กับผู้หญิง 1,564 คน พบว่าร้อยละ 80 เผชิญความรุนเเรงในครอบครัว ถูกทุบตีเเละร้อยละ 20 ถูกล่วงละเมิดทางเพศ โดย 5 พฤติกรรมที่ผู้ชายชอบใช้ความรุนเเรงต่อผู้หญิงคือร้อยละ 85 ด่าทอเหยียดเพศ  ร้อยละ 75 ชอบดื่มสุรา-เสพยาเสพติดจนมาทุบตีทำร้าย เเละล่วงละเมิดทางเพศ  ร้อยละ 32 ผู้ชายไม่ยอมเลิกราตามคุกคามข่มขู่  ร้อยละ 28 ผู้หญิงร้องทุกข์พฤติกรรมของผู้ชายในที่ทำงาน คุกคามทางเพศทางสายตา เเละร้อยละ 21 ของผู้หญิงเจอหัวหน้างานเเละเพื่อนร่วมงานมักหาโอกาสลวนลาม โดยผู้ชายส่วนใหญ่มีทัศนคติคิดว่าตนเองเป็นใหญ่ เป็นเจ้าชีวิต ผู้หญิงเป็นสมบัติส่วนตัว ไม่ให้เกียรติเเละไม่มีความรับผิดชอบต่อครอบครัว 


นางสาวธนวดี ท่าจีน ผู้อำนวยการมูลนิธิเพื่อนหญิง กล่าวว่า มูลนิธิฯขอยื่นข้อเรียกร้องให้ผู้ชายทุกกลุ่มมีส่วนร่วมรับผิดชอบ สร้างสังคมปลอดภัยสำหรับผู้หญิง รัฐต้องมีมาตราการ ควบคุมปัจจัยเสี่ยงที่จะกระตุ้นให้ผู้ชายมีพฤติกรรมรุนแรง ทั้ง เหล้าและบุหรี่ เพราะเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำร้ายผู้หญิงทั้งร่างกาย จิตใจ   ยกระดับกลไกของรัฐที่คุ้มครองสิทธิให้กับผู้หญิงที่ถูกกระทำความรุนเเรงให้มีคุณภาพเเละเพียงพอ  และเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือผู้ที่เกี่ยวข้องต้องมีการทำงานเชิงป้องกัน ไม่ต้องรอให้เกิดเหตุ

ด้านMr.Staffan Herrstromเอกอัครราชทูตสวีเดน ประจำประเทศไทย กล่าวว่า วันนี้ (27 ต.ค.)มาเป็นตัวเเทนของสหภาพยุโรปที่อยากมาสนับสนุนเรื่องผู้หญิง  ในโลกนี้มีผู้หญิง 1 ใน 3 ที่ได้รับความรุนแรง ขณะที่ในไทยพบกว่าร้อยละ 34.3  ถึงเวลาเเล้วที่ผู้ชายต้องเปลี่ยนเเปลงเเเละต่อต้านความรุนเเรงที่เกิดขึ้นกับผู้หญิง ทำให้ความรุนเเรงน้อยลง ผู้หญิงควรมีความมั่นใจที่จะออกจากบ้านเเล้วจะได้รับความปลอดภัย 

ด้านนายเจษฎ์ โทณวณิก อาจารย์มหาวิทยาลัยสยาม กล่าวว่า ความเเตกต่างทางวัฒนธรรมและพื้นฐานทางสังคมจะเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้กฎหมายออกมาในลักษณะหนึ่งลักษณะใด ที่ส่งผลต่อการตระหนักในเรื่องผู้หญิง อย่างไทย วัฒนธรรมสังคมยอมปล่อยให้ผ่านไปได้  หากจะเเก้กฎหมายต้องไปปรับวัฒนธรรมก่อนจะไปออกกฎหมาย ชายต้องปรับทัศนคติ มองผู้หญิงมีความเปราะบาง เเละเเตกต่างจากผู้หญิง นอกจากจะให้ผู้ชายปรับทัศนคติเเล้ว ผู้หญิงบางกลุ่มก็ต้องปรับทัศนคติด้วย เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนเเปลงไปในทิศทางเดียวกัน.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

หนุ่มอุดรฯ ดวงเฮง ถูกลอตเตอรี่เกาหลีใต้ 45 ล้านบาท

สุดเฮง! หนุ่มอุดรฯ ถูกลอตเตอรี่เกาหลีใต้ รับเงินรางวัล 45 ล้านบาท ลูกสาวเผยพ่อเป็นคนชอบทำบุญ ก่อนหน้านี้เพิ่งโทรมาบอกให้ใส่บาตร เชื่อผลบุญหนุนโชคลาภ

สามีภรรยาจากอยุธยารับ “เจ้าจอร์จ” ไปดูแล

สามีภรรยาใจบุญจาก จ.พระนครศรีอยุธยา ขอรับ “เจ้าจอร์จ” สุนัขพันธุ์อเมริกันบูลลี่ ไปอุปการะแล้ว หลังกัดแทะร่างพระเจ้าของที่มรณภาพในกุฏิด้วยโรคประจำตัว

ดีเอสไออนุมัติสืบสวนคดีแตงโม คาดตั้งชุดเริ่มสืบได้ 27 ม.ค.นี้

อธิบดีดีเอสไอ อนุมัติให้สืบสวนคดีแตงโม ว่ามีการบิดเบือนกระบวนการยุติธรรมทางอาญาหรือไม่ และมีบุคคลหรือเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องหรือไม่ คาดเริ่มได้ 27 ม.ค.นี้