ผู้ป่วยจิตเวชล้น!สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ขอรับบริจาค

สำนักข่าวไทย 26 ตค..- สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข  เผยประชาชนมีปัญหาสุขภาพจิตและจิตเวชเพิ่มขึ้น กำลังต้องการการช่วยเหลือดูแลจิตใจ  พื้นที่และสิ่งแวดล้อมที่โล่ง สงบ ปลอดภัย จะช่วยบำบัดด้านจิตใจ กดแชร์ และสละทรัพย์เพียงเล็กน้อยสนับสนุนการสร้างอาคารและกิจกรรมผู้ป่วย 


นายแพทย์ศรุตพันธุ์ จักรพันธุ์ ณ อยุธยา ผู้อำนวยสถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ กล่าวว่าสถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ เดิมชื่อโรงพยาบาลนิติจิตเวช  เปิดครั้งแรกเมื่อวันที่  24 กันยายน 2514  เพื่อตรวจวินิจฉัยผู้ป่วยจิตเวชที่ก่อคดี  รวมถึงตรวจประเมินผู้ต้องขังที่ถูกพิพากษาประหารชีวิต  บนเนื้อที่ 50 ไร่ ร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่ เป็นสถานที่ศึกษาดูงานทั้งระบบสาธารณสุขและระบบยุติธรรม เมื่อปัญหาสุขภาพจิตเพิ่มขึ้น ต้องเปิดบริการผู้ป่วยจิตเวชที่ไม่มีคดีด้วยตามนโยบาย แต่ชื่อของโรงพยาบาลเป็นตราบาปที่ประชาชนไม่กล้าเข้ามารับการรักษา จึงขอประทานนามใหม่เพื่อลดความวิตกกังวลและเอื้อต่อการเข้าถึงบริการด้านสุขภาพจิตของประชาชน ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ประทานนามให้ใหม่ว่า “สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์” และปรับบทบาทเป็นสถาบันวิชาการที่มีหน้าที่ความรับผิดชอบในการพัฒนาด้านวิชาการ การวิจัย นวัตกรรม พัฒนาเทคโนโลยี การตรวจวินิจฉัย การบำบัดรักษา การฟื้นฟูสมรรถภาพทางจิตใจผู้ป่วยจิตเวชที่มีคดี ด้วยทีมสหวิชาชีพ ที่มีความรู้ สมรรถนะ และประสบการณ์เฉพาะทาง ปัจจุบันเป็นองค์กรที่ให้บริการตามมาตรฐานคุณภาพการดูแลผู้ป่วยและสร้างเสริมสุขภาพ    

ด้วยบริบทและปัญหาของสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปมาก  ในปี  2560  คณะผู้บริหารทบทวนบทบาทงานด้านนิติจิตเวช (forensic psychiatry) พบว่ายังไม่ครอบคลุมปัญหาที่เกิดขึ้น จึงปรับขอบเขตการทำงานเป็น “นิติสุขภาพจิต” (forensic mental health) เพื่อให้ครอบคลุมการป้องกันการเกิดปัญหา มุ่งเน้นการพัฒนาความเป็นเลิศเฉพาะทางด้านนิติสุขภาพจิต พัฒนาความรู้ เทคโนโลยีให้สอดคล้องกับทิศทางการแก้ไขปัญหา เป็นศูนย์ฝึกอบรมด้านนิติสุขภาพจิต เพื่อให้บุคลากรด้านสุขภาพ ด้านยุติธรรมเรียนรู้ และนำไปดูแลผู้ป่วย  


 

นายแพทย์ศรุตพันธุ์ จักรพันธุ์ ณ อยุธยา กล่าวว่าผู้ป่วยที่สร้างความเดือดร้อนรำคาญใจมีจำนวนน้อย เป็นผู้ที่ขาดโอกาส ถูกตีตราว่าเป็นคนไม่ดี ความจริงแล้วปัญหาสุขภาพจิต สามารถรักษาได้ จากการติดตามดูแลผู้ป่วยหลังจากที่บำบัดรักษา ฟื้นฟู และกลับไปอยู่ในชุมชนพบว่าผู้ป่วยหายและกลับไปใช้ชีวิต สร้างคุณค่าให้ตนเองและชุมชนได้มากมาย ครอบครัว ชุมชน มีส่วนสำคัญในการสนับสนุนกการดำรงชีวิตของพวกเขา การได้รับรักษาต่อเนื่อง และการดูแลที่เหมาะสมกับสภาพปัญหาก็ลดปัญหาได้ เพียงขอพื้นที่ให้พวกเขามีโอกาสกลับไปยืนอยู่โดยไม่โดดเดี่ยว

ขณะที่ปัญหาสุขภาพจิตของประชาชนเพิ่มขึ้นมาก ปี 2561 มีผู้ป่วยใน วันละเกือบ 200 คน มีเพียง 185 เตียง แต่มีผู้ป่วยที่ต้องรับไว้รักษาล้นตึกและแออัด ผู้ป่วยนอก จำนวน  6.5 หมื่นกว่าคน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 17.4 เฉลี่ยวันละเกือบ 300 คน เป็นโรคจิตเภทมากที่สุดร้อยละ 24 โรคจิตจากสารเสพติดรองลงมา ร้อยละ 7.6  มีผู้ป่วยทุกกลุ่มวัยที่ต้องการการบำบัดรักษาเพิ่มขึ้นเท่าตัว แต่อาคารเก่าชำรุดทรุดโทรมมาก และขาดงบประมาณในการปรับสิ่งแวดล้อม ผู้ป่วยที่มีปัญหาสุขภาพจิตและจิตเวชต้องการพื้นที่เป็นสัดส่วนเฉพาะที่ออกแบบเพื่อการเยียวยาจิตใจ การให้การปรึกษาทั้งรายกลุ่มและบุคคล  


จึงมีความจำเป็นต้องหางบประมาณเพื่อปรับปรุงอาคารหลังเก่า สร้างอาคารผู้ป่วยนอกหลังใหม่ จัดซื้ออุปกรณ์ เทคโนโลยีด้านสุขภาพจิต และจัดหาวัสดุ ครุภัณฑ์ที่จำเป็น ปรับสิ่งแวดล้อมที่ผ่อนคลาย และการบริการผู้ป่วยจิตเวช ให้มีศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ นอกจากนี้ 6 ปี ที่ผ่านมาสามารถเรียกเก็บค่าบริการได้เพียงบางส่วนเนื่องจากผู้ป่วยจิตเวชฐานะยากจน ไม่มีรายได้และเป็นผู้ป่วยเร่ร่อน ทำให้สถาบัน ฯ มีหนี้สูญ ปีละ 10-32 ล้านบาท จึงขอเรียนเชิญชวนท่านที่มีจิตใจเมตตา และมีความปรารถนาที่จะสร้างกุศลครั้งยิ่งใหญ่ ด้วยการยกระดับคุณภาพชีวิตผู้ที่ด้อยโอกาสในสังคมให้มีพื้นที่รับบริการที่ดี เท่ากับให้ที่ยืนอย่างเท่าเทียมในสังคม ท่านสามารถร่วมบริจาคได้โดยโอนเงินผ่านธนาคารกรุงไทย เลขที่บัญชี 479-0-12282-4  ชื่อบัญชี “เงินบริจาคของสถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์” และการเข้าไปกดแชร์ได้ที่  facebook เติมสบายพลัส เพียงกดแชร์ 1 ครั้ง  เท่ากับท่านได้บริจาค 1 บาท เพื่อคืนคุณค่า ให้ผู้ป่วยจิตมีชีวิตที่ดีขึ้น  .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย