กรุงเทพฯ 10 ต.ค. – อัยการสั่งฟ้อง “พานทองแท้ ชินวัตร” คดีฟอกเงิน ธ.กรุงไทย และอนุญาตให้ประกันตัว วงเงินประกัน 1 ล้านบาท ห้ามเดินทางออกนอกประเทศ เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากศาล
เช้าวันนี้ (10 ต.ค.) นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายนายทักษิณ ชินวัตร ผู้ต้องหาคดีร่วมกันฟอกเงิน ปล่อยกู้ธนาคารกรุงไทย กับกลุ่มกฤษดามหานคร เดินทางมาที่สำนักงานอัยการสูงสุด พร้อมพี่สาว น้องสาว และมีแกนนำพรรคเพื่อไทยมาให้กำลังใจ
นายธรัมพ์ ชาลีจันทร์ และนายประยุทธ เพชรคุณ แถลงผลการสั่งคดีที่ดีเอสไอส่งสำนวนเมื่อปี 2561 กล่าวหานางเกศินี จิปิภพ นางกาญจนาภา หงษ์เหิน นายวันชัย หงษ์เหิน และนายพานทองแท้ ชินวัตร ร่วมกันฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน โดยคดีแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ รับโอนเช็ค 26 ล้านบาท ซึ่งอัยการสั่งฟ้องนางกาญจนาภา และนายวันชัย มีความผิดฐานสมคบและร่วมกันฟอกเงิน กรณีเช็ค 26 ล้านบาท ส่วนการรับโอนเช็ค 10 ล้านบาท อัยการสำนักงานคดีพิเศษ 4 สั่งฟ้องนายพานทองแท้ เพียงคนเดียว ฐานร่วมกันฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
เหตุผลที่ไม่ฟ้องนางเกศินี และนายพานทองแท้ กรณีเช็ค 26 ล้านบาท ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุรายละเอียด เนื่องจากกระบวนการสั่งคดียังไม่ถึงที่สุด และอัยการต้องส่งสำนวนพร้อมความเห็นไม่ฟ้องกลับไปให้ดีเอสไอพิจารณาว่าจะเห็นแย้งหรือไม่ สำหรับกลุ่มผู้ต้องหาที่มารับฟังวันนี้ (10 ต.ค.) มีนายพานทองแท้ มาเพียงคนเดียว
หลังมีคำสั่งอัยการควบคุมตัวไปยื่นฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เพื่อส่งฟ้องต่อศาล โดยมีคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร มารดา เดินทางมาที่ศาลด้วย ที่สุดศาลอนุญาตให้ประกันตัว โดยตีราคาประกัน 1 ล้านบาท กำหนดเงื่อนไขห้ามออกนอกประเทศ เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากศาล และศาลนัดสอบคำให้การอีกครั้ง วันที่ 5 พฤศจิกายนนี้ สำหรับความผิดฐานฟอกเงิน มีโทษจำคุก 1-10 ปี อายุความไม่เกิน 15 ปี ซึ่งคดีเกิดขึ้นระหว่างปี 2547-2548 เหลือเวลาดำเนินคดีอีก 1 ปีเศษ ซึ่งผู้ต้องหาในกลุ่มรับโอนเงินอีก 159 คน คดีอยู่ระหว่างการพิจารณา. – สำนักข่าวไทย