อนาคตใหม่รับเงินบริจาคส่อผิดกฎหมาย

กรุงเทพฯ 10 ต.ค.-   อนาคตใหม่ รับเงินบริจาคส่อผิดกฎหมาย   รองเลขาฯ กกต.แจง ต้องคืนผู้บริจาค   อ้างคำสั่ง  คสช.57/2557 ห้าม  ระบุ รับได้แค่ของ  กก.บห.พรรค เท่าที่จำเป็น    ส่วน  “สุเทพ” ขอเงินสมาชิกวันละบาททำได้หรือไม่  ชี้ ข้อมูลยังไม่ชัด 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 14.00 น. วันนี้ (10 ต.ค.)   น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ ได้แจ้งในกลุ่มไลน์พรรคอนาคตใหม่   ว่า  พรรคอนาคตใหม่ได้รับโทรศัพท์จากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่า ห้ามพรรครับบริจาคเงิน เนื่องจากถือเป็นกิจกรรมทางการเมือง   ขัดคำสั่ง คสช. ซึ่งพรรคอนาคตใหม่จะมีการแถลงข่าวเรื่องดังกล่าวต่อไป

ด้าน นายแสวง บุญมี รองเลขาธิการ กกต. ไม่ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ กกต.ได้โทรศัพท์แจ้งเรื่องดังกล่าวกับพรรคอนาคตใหม่จริงหรือไม่ อย่างไรก็ตาม  กรณีพรรคการเมืองรับบริจาคเงิน  มีการห้ามไว้ในประกาศ คสช.ที่ 57/2557     ซึ่งในครั้งนั้น กกต. ได้ออกหนังสือเวียนแจ้งให้พรรคการเมืองทราบว่า ให้รับเงินบริจาคได้แค่จากกรรมการบริหารพรรค ในจำนวนเงินเท่าที่จำเป็นที่จะต้องใช้จ่าย  ซึ่งเป็นการบังคับใช้กับพรรคการเมืองเดิม แต่ก็ใช้กับพรรคที่ตั้งขึ้นใหม่เช่นกัน  

“ขณะนี้แม้จะมี พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 แล้ว  แต่ประกาศดังกล่าวก็ยังมีผลใช้บังคับอยู่  ซึ่งพรรคอนาคตใหม่เป็นพรรคที่เพิ่งตั้งขึ้นใหม่ อาจไม่ได้รับหนังสือดังกล่าว  จึงไม่ทราบการดำเนินการเกี่ยวกับการรับเงินบริจาค ซึ่งทุกพรรคจะต้องปฏิบัติตาม เพราะ กกต.เคยวินิจฉัยไว้แล้ว ทุกพรรคต้องทำอย่างนี้” นายแสวง กล่าว

เมื่อถามว่า หลังจากนี้พรรคอนาคตใหม่จะต้องคืนเงินบริจาคที่รับมาหรือไม่    นายแสวง กล่าวว่า ถ้าเขาห้ามไม่ให้รับบริจาคก็คงต้องคืน   อย่างไรก็ตาม 

เมื่อถามต่อว่า นายสุเทพ   เทือกสุบรรณ ที่ปรึกษาพรรครวมพลังประชาชาติไทย ประกาศว่า จะขอบริจาคจากสมาชิกพรรค วันละ 1 บาท   เข้าข่ายต้องห้ามเช่นเดียวกันหรือไม่ นายแสวง กล่าวว่า ต้องถามว่าเงินจำนวนนั้น เป็นเงินบริจาค หรือเป็นเงินค่าบำรุงพรรค หากเป็นการชำระค่าบำรุงพรรค ก็สามารถทำได้   แต่หากเป็นเงินบริจาค จากนาย ก. นาย ข. ซึ่งไม่เกี่ยวกับพรรค ไม่สามารถทำได้

ทั้งนี้  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คำสั่ง คสช 57/2557 ข้อ   2 ระบุเพียงว่า ให้  พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2550 มีผลบังคับใช้ต่อเนื่องต่อไป  โดยไม่ได้สะดุดลง จนกว่าจะมีกฎหมายแก้ไขเพิ่มเติม หรือยกเลิก  เพื่อประโยชน์ในการรักษาความสงบเรียบร้อย ห้ามมิให้พรรคการเมืองที่มีอยู่แล้ว ดำเนินการประชุม หรือดำเนินกิจการใดๆ ในทางการเมือง และการดำเนินการเพื่อการจัดตั้งหรือจดทะเบียนพรรคการเมือง ให้ระงับไว้เป็นการชั่วคราว รวมทั้ง ให้ระงับการจัดสรรเงินสนับสนุนแก่พรรคการเมืองของกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมืองไว้เป็นการชั่วคราวด้วย ในกรณีมีข้อสงสัยให้หารือคณะกรรมการการเลือกตั้ง      ..- สำนักข่าวไทย