เสนอออกกองทุนเพื่อผู้มีรายได้น้อยแทน LTF

กรุงเทพฯ 10 ต.ค. – สภาธุรกิจตลาดทุนไทยเตรียมเสนอรัฐบาลออกกองทุนเพื่อผู้มีรายได้น้อยและปานกลางแทนกองทุน LTF ที่จะหมดอายุปี 2562 คาดจะเสนอให้ทันรัฐบาลนี้


นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) เปิดเผยว่า สภาธุรกิจตลาดทุนไทยจะร่วมมือกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) และสมาคมบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ศึกษาความเป็นไปได้ออกกองทุนประเภทใหม่เพื่อทดแทนกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ที่สิ้นสุดโครงการสิ้นปี 2562 ซึ่งผู้ลงทุนจะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ในการนำมาหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ดังนั้น กังวลว่าอาจจะกระทบต่อเม็ดเงินที่เข้ามาในตลาดหุ้นหายไป โดยเม็ดเงินจากกองทุน LTF ที่ไหลเข้ามาในตลาดหุ้นเฉลี่ยปีละ 70,000-80,000 ล้านบาท จนปัจจุบันขนาดกองทุน LTF มีมูลค่าสูงถึง 390,000 ล้านบาท ดังนั้น จึงต้องหากองทุนประเภทอื่นมาทดแทน เพื่อรักษาเม็ดเงินที่เข้ามาในตลาดหลักทรัพย์ฯ เบื้องต้นจะเป็นกองทุนเพื่อผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลาง เพื่อดึงผู้มีรายได้ปานกลางและรายได้น้อยเข้าสู่ตลาดทุน เน้นการลงทุนระยะยาว โดยขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการศึกษารูปแบบของกองทุน เพื่อจะเสนอให้ทันในรัฐบาลนี้ 

“เชื่อว่าจะได้รับความสนใจ เพราะจะทำให้นักลงทุนเห็นประโยชน์ถึงการลงทุนที่จะได้ผลตอบแทนมากกว่าการได้สิทธิประโยชน์ทางภาษีเพียงอย่างเดียว ซึ่งที่ผ่านมากองทุน LTF  เปิดให้นักลงทุนเข้ามาลงทุนนานถึง 10 ปี จึงได้เวลาที่เหมาะสมต้องควรปรับรูปแบบ เพื่อขยายฐานไปยังนักลงทุนกลุ่มผู้มีรายได้อื่น ๆ” นายไพบูลย์ กล่าว


นอกจากนี้ เตรียมยื่นเรื่องต่อหน่วยงานภาครัฐเพื่อขอแก้ไขกฎหมายเปิดทางให้สมาคม, มูลนิธิ และสหกรณ์ สามารถลงทุนตลาดทุนได้ ซึ่งปัจจุบันมีสัดส่วนการลงทุนในตลาดทุนไทยไม่ถึงร้อยละ 10 ของมาร์เก็ตแคป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย