เยาวราช 8 ต.ค. – รัฐมนตรีพาณิชย์นำคณะออกตรวจตลาดเยาวราช ยันอาหารเจปีนี้ราคาส่วนใหญ่ทรงตัวไม่สูงขึ้นมากนัก ชี้อนาคตการค้าจะซื้อขายผ่านออนไลน์มากขึ้น
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลกินเจ ระหว่างวันที่ 9 – 17 ตุลาคม 2561 ซึ่งเป็นช่วงที่ผู้บริโภคมีความต้องการบริโภคผัก ผลไม้ และวัตถุดิบต่าง ๆ ที่เป็นอาหารเจจำนวนมาก กระทรวงพาณิชย์จึงได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้ผู้ประกอบการฉวยโอกาสขึ้นราคาจำหน่ายวัตถุดิบ หรือปรับขึ้นราคาจำหน่ายอาหารปรุงสำเร็จประเภทเจ และเพื่อให้ผู้ประกอบการปฏิบัติตามกฎหมาย สร้างความเป็นธรรมในการประกอบการค้า และเท่าที่ได้ติดตามและสอบถามพ่อค้าแม้ค้าที่ตลาดสดเยาวราชส่วนใหญ่ราคาอาหารเจปีนี้ทรงตัวไม่ได้มีราคาสูงขึ้นมากนัก แต่มีบางรายการสินค้าขึ้นบ้างจากปัญหาผลกระทบน้ำท่วมในบางพื้นที่ภาคใต้ แต่ก็ไม่ได้เป็นปัญหากระทบอาหารเจปีนี้
ทั้งนี้ กรมการค้าภายในได้ส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบราคาวัตถุดิบที่ใช้ปรุงอาหารเจและอาหารเจปรุงสำเร็จ ก่อนช่วงเทศกาล เมื่อวันที่ 4-5 ตุลาคม 2561 บริเวณตลาดกรมภูธเรศ เขตสัมพันธวงศ์ ตลาดมิ่งขวัญบ้านนา เขตพญาไท ตลาดยิ่งเจริญ เขตบางเขน ตลาดศิริชัย เขตบางบอน ตลาดสายเนตร เขตคันนายาว พบว่า ภาพรวมราคาวัตถุดิบทรงตัว โดยราคาจำาหน่ายปีนี้เท่ากับปีที่แล้ว เว้นแต่บางชนิด เช่น แป้งสาลี ราคาจำหน่ายสูงกว่าปีที่แล้วเล็กน้อย โดยผักสดที่นำไปใช้ปรุงอาหารเจช่วงนี้เมื่อเทียบกับปีที่แล้วภาพรวมราคาทรงตัวและมีผักสดบางรายการมีการปรับราคาลดลง เช่น ผักคะน้า ราคา 18 – 40 บาท/กก. ผักบุ้งจีน ราคา 15 – 30 บาท/กก. ผักกาดขาว ราคา 15 – 30 บาท/กก. เป็นต้น ส่วนผลไม้ ส่วนใหญ่มีราคาทรงตัวและไม่สูงกว่าปีที่แล้ว
ส่วนอาหารเจปรุงสำเร็จในภาพรวมราคาแตกต่างกันตามพื้นที่ที่มีการจำหน่าย เช่น อาหารเจปรุงสำเร็จบริเวณเยาวราช ส่วนใหญ่จะใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพดีราคาต้นทุนจึงสูงกว่าร้านจำหน่ายทั่วไป ราคาจำหน่ายปลีกอาหารปรุงสำเร็จเจที่เยาวราช อยู่ระหว่างที่ 40 – 60 บาท/จาน/ถุง เช่น ผัดหมี่เจ ราคา 50 บาท/จาน เย็นตาโฟเจ ราคา 40 – 50 บาท/ชาม ข้าวราดแกงเจ 1 อย่าง ราคา 40 บาท/จาน ข้าวราดแกงเจ 2 อย่าง ราคา 50 – 60 บาท/จาน เป็นต้น ส่วนตลาดทั่วไป เช่น ตลาดศิริชัย เขตบางบอน และตลาดสายเนตร เขตคันนายาว ราคาจำหน่ายปลีกอาหารปรุงสำเร็จเจ เช่น ข้าวราดแกง 1 อย่าง ราคา 30 บาท/จาน ข้าวราดแกง 2 อย่าง ราคา 35 บาท/จาน ผัดหมี่เจ ราคา 30 บาท/จาน เย็นตาโฟเจ ราคา 40 บาท/ชาม แกงส้ม ราคา 30 – 35 บาท/ถุง พะโล้ ราคา 30 – 35 บาท/ถุง ผัดโปรตีนเกษตร ราคา 30 บาท/ถุง เป็นต้น ดังนั้น ภาพรวมปริมาณการจำหน่ายเป็นปกติใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา เนื่องจากปัจจุบันวัตถุดิบที่ใช้ในการปรุงอาหารเจมีการวางจำหน่ายตามแหล่งการค้าทั่วไปและห้างสรรพสินค้า
อย่างไรก็ตาม เพื่อรักษาความเป็นธรรมให้ประชาชนผู้บริโภคในช่วงเทศกาลกินเจ จึงได้มอบหมายกรมการค้าภายในจัดเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบ 9 สาย และให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดทุกจังหวัดออกตรวจสอบให้มีการปิดป้ายราคาจำหน่ายปลีกวัตถุดิบที่ใช้ประกอบการทำอาหารเจ อาหารปรุงสำเร็จประเภทเจ และตรวจสอบเครื่องชั่งตามตลาดสดอย่างเข้มงวด กรณีที่พบการกระทำความผิดให้ดำเนินคดีอย่างเคร่งครัด หากไม่ปิดป้ายแสดงราคา มีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือจำหน่ายสูงเกินสมควรอาจมีความผิดตามมาตรา 29 มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ หากประชาชนไม่ได้รับความเป็นธรรมทางการค้า หรือพบเห็นการฉวยโอกาส สามารถแจ้งสายด่วน กรมการค้าภายใน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ
นอกจากนี้ การค้าในโลกปัจจุบันกลุ่มเด็กรุ่นใหม่จะหันมาทำการค้าแบบออนไลน์มากขึ้น หากจะวัดที่ตลาดเยาวราชคงเป็นเรื่องลำบาก เพราะตลาดสดแห่งนี้เกิดขึ้นมานับ 100 ปี มีกลุ่มเป้าหมายการค้า การขายที่ชัดเจนจะเปลี่ยนแบบอะไรในตลาดแห่งนี้ลำบาก แต่เชื่อว่าโลกอนาคตข้างหน้าการค้าของคนรุ่นใหม่จะเป็นการค้าแบบออนไลน์ที่มีความสะดวกและรวดเร็ว ดังนั้น คนที่จะเข้ามาสู่การค้าออนไลน์จะต้องศึกษาลู่ทาง
นางฮุ้ยยู่ เจนอิทธิพัทธ์ แม่ค้าขายสินค้าวัตถุดิบอาหารเจ ตลาดเยาวราช กล่าวว่า เทศกาลกินเจปีนี้ น่าจะไม่คึกคักและเป็นอย่างนี้มาหลายปีแล้ว จากที่ได้สอบถามลูกค้าที่มีซื้อวัตถดิบไปประกอบอาหารเจก่อนที่จะถึงวันกินเจส่วนใหญ่พูดเป็นเสียงเดียวกัน จะซื้อของน้อยลงและซื้อเท่าที่จำเป็นไม่ตุนสินค้าไว้มากเกินไป โดยสาเหตุมาจากเศรษฐกิจยังไม่ดีคนใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง อีกทั้งเวลานี้อาหารเจมีขายทุกที่ทั้งตลาดสดและห้างสรรพสินค้า ทำให้คนที่ขายอาหารเจในตลาดเยาวชนส่วนใหญ่จะเน้นขายให้ลูกค้าประจำเท่านั้น ส่วนลูกค้าขาจรจะไปหาซื้อวัตถุดิบอาหารเจและอาหารสำเร็จรูปตามแหล่งสถานที่ต่าง ๆ กันมากขึ้น แม้ว่าพฤติกรรมของผู้บริโภคจะเปลี่ยนไปมีทางเลือกหาแหล่งซื้อมากขึ้น แต่คิดว่าแม้ค้าและพ่อค้าที่ตลาดเยาวราชคงจะขายสินค้ากันต่อไป
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้โดยเฉพาะเด็กรุ่นใหม่หันมาทำการค้าออนไลน์โดยที่ผ่านมาก็มีเด็ก ๆ ใช้โทรศัพท์มือถือเข้ามาถ่ายสินค้าในร้านและเอาไปโพสขึ้นเว็บ เพื่อให้ผู้บริโภคที่สนใจซื้อสินค้าผ่านมือถือจำนวนมาก โดยส่วนตัวไม่ได้ขัดข้องอะไร เพราะให้แม่ค้าอย่างเราที่มีอายุมากแล้วไปทำเว็บขายสินค้าคงจะลำบากทำไม่เป็นให้เด็ก ๆ คนรุ่นใหม่ทำดีกว่า แต่จะได้ยินการขายสินค้าออนไลน์มักจะได้สินค้าไม่มีคุณภาพและเป็นสินค้าที่ไม่ตรงตามรูปส่วนมาก จึงอยากฝากเด็กรุ่นใหม่จะทำการค้าออนไลน์ต้องดูสินค้าที่มีคุณภาพและไม่โก่งราคาขายหาแหล่งสินค้าที่ตรงตามที่ได้ขึ้นเว็บไว้
นอกจากนี้ แม้หน่วยงานภาครัฐจะเร่งส่งเสริมให้ผู้ค้าตลาดสดเข้าร่วมโครงการค้าขายผ่านคิวอาร์โคด แต่เท่าที่คุยพ่อค้าแม้ค้าตลาดสดเยาวราชส่วนใหญ่ที่มีอายุสูง ๆ คงไม่สนใจที่จะขายสินค้าผ่านคิวอาร์โคด เพราะยุ่งยากขั้นตอนเยอะ แม้ว่าจะไม่ต้องรับเงินสดซื้อขายผ่านแบงก์การันตีก็ตาม แต่ขั้นตอนมีมากจึงอยากทำการค้าแบบเดิม ๆ รับเงินสดจะดีกว่า
นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ กล่าวว่า หลังจากเงินบาทอ่อนค่า ทำให้ราคาทองปรับตัวสูงขึ้นบ้าง แต่ยังเชื่อว่าราคาทองช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้น่าจะอยู่ที่ 18,200-19,000 บาท แต่ยังมีหลายปัจจัยที่ต้องติดตามไม่ว่าจะเป็นความผันผวนราคาน้ำมันที่มีโอกาสสูงขึ้น รวมทั้งสงครามการค้าสหรัฐและจีนที่ดูยังมีโอกาสรุนแรงขึ้น เพราะตั้งแต่สงครามการค้าเกิดขึ้นมาตั้งแต่ต้นปีจนถึงขณะนี้ยอดขายทองของไทยโดยรวมลดลงไปแล้วกว่าร้อยละ 5-10 และคาดหวังสงครามการค้าทั้ง 2 ฝ่ายจะต้องยอมและหันมาเจรจาหาทางออกร่วมกัน เพราะผลกระทบเกิดขึ้นทั่วโลก และต้นปีหน้ามีปัจจัยสนับสนุนโดยเฉพาะการเลือกตั้งจะส่งผลให้การค้าการขายกลับมาคึกคักมากขึ้น. – สำนักข่าวไทย