สสวท.7 ต.ค.-สสวท.ดึงแผนสำรองเจรจาหาผู้รับสิทธิ์แทนองค์การค้าของ สกสค.หลังพ้นกำหนดเวลาแล้วยังไม่ตอบรับ หวั่นประวัติศาสตร์ซ้ำรอยผลิตหนังสือเรียนวิทย์คณิตไม่ทันเด็กเปิดเรียน ยันทำถูกขั้นตอนไม่ขัดนโยบาย ศธ. ย้ำเด็กไทยต้องมีหนังสือเรียนทันเปิดเทอม
นายชูกิจ ลิมปิจำนงค์ ผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี(สสวท.)เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากองค์การค้าของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา(สกสค.)ในช่วงกลางปีที่ผ่านมา ได้ส่งมอบหนังสือให้กับโรงเรียนไม่ทันเวลาเปิดเรียนในวงกว้าง ก่อให้เกิดผลกระทบต่อการเรียนการสอนทั่วประเทศ บอร์ด สสวท.จึงมีมติในการประชุมวันที่ 13 ก.ค.2561ให้กระจายความเสี่ยงและลดสัดส่วนสิทธิ์ในการพิมพ์ขององค์การค้าฯ เป็นร้อยละ 70 ของต้นฉบับทั้งหมด พร้อมให้วางแผนดำเนินการให้รัดกุมไม่ให้การผลิตหนังสือล่าช้าอีก และให้สิทธิ์กับสำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยร้อยละ 30 โดย สสวท.ได้แจ้งให้ทั้ง 2 แห่งรับทราบในมติดังกล่าวตั้งแต่เดือน ก.ค.แล้ว
นายชูกิจ กล่าวต่อว่า ซึ่งสำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้ตอบรับอย่างรวดเร็วและดำเนินการเลือกชนิดกระดาษ พิจารณาต้นฉบับ ขออนุญาตจัดพิมพ์ และขอเลขหนังสือแล้ว ทำให้เชื่อว่าในส่วนของหนังสือ สสวท. หลักสูตรใหม่ ระดับมัธยมศึกษา จะดำเนินการได้ทันกำหนดเวลาแน่นอน อย่างไรก็ดีในส่วนขององค์การค้าฯ ซึ่งได้รับสิทธิ์ร้อยละ 70 โดยเฉพาะในส่วนของหลักสูตรเดิมทั้งหมดและหลักสูตรใหม่ระดับประถมศึกษานั้น ไม่มีการตอบรับ เตรียมการ หรือดำเนินการใดๆ จากองค์การค้าฯ เมื่อเห็นว่าเวลาได้ล่วงเลยไปมากจนน่าเป็นห่วง ในช่วงปลายเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา สสวท. จึงได้ทำหนังสือขอให้องค์การค้าฯ ยืนยันการรับสิทธิ์ภายในวันที่ 5ต.ค.2561 แต่ได้รับการตอบกลับว่าองค์การค้าฯ ต้อง รอมติบอร์ด สกสค.ก่อน ประกอบกับการที่ สสวท. ได้รับทราบข่าวปัญหาภายในขององค์การค้าฯ ผ่านสื่อในช่วงนี้ ทำให้ สสวท. ขาดความมั่นใจในวิธีการดำเนินงานขององค์การค้าฯ จึงต้องเตรียมเสนอ บอร์ด สสวท.เพื่อพิจารณาผู้รับอนุญาตรายอื่นที่สามารถร่วมมือผลิตและส่งหนังสือได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในวันศุกร์ที่ 12 ต.ค.2561 หากเสนอบอร์ด สสวท. ไม่ทันจะทำให้นักเรียนทั้งประเทศสุ่มเสี่ยงที่จะไม่มีหนังสือเรียนทันใช้เมื่อเปิดภาคเรียนปี 2562 ที่ใกล้จะถึงนี้
นายชูกิจ กล่าวต่อไปอีกว่าสิทธิ์ในการให้พิมพ์หนังสือที่ สสวท.เป็นผู้จัดทำต้นฉบับนั้น เป็นของสสวท. ซึ่งยึดผลประโยชน์ของนักเรียนและครูไทยเป็นหลักมาโดยตลอด สสวท.มีพันธกิจในการทำให้การเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์และเทคโนโลยีของประเทศไทยมีประสิทธิภาพสูงสุดและเป็นไปอย่างราบรื่น สอดคล้องกับนโยบายประเทศที่มุ่งใช้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมเป็นฐานสำคัญของการพัฒนาประเทศไทยในยุค 4.0 ซึ่ง สสวท.ได้ผลิตต้นฉบับหนังสือเรียนที่มีคุณภาพแล้วแต่หากหนังสือเรียนไม่ถึงมือนักเรียนทันใช้ก่อนเปิดภาคเรียน จะนำไปสู่ปัญหาการเรียนการสอนที่ขาดทิศทาง ไม่มีลำดับและใช้กระบวนการที่ไม่ถูกต้อง ก่อให้เกิดปัญหาในระยะยาว กระทบกับคุณภาพการศึกษาของประเทศ
ทั้งนี้ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) เป็นองค์การมหาชน ในกำกับของกระทรวงศึกษาธิการ มีหน้าที่หลักในการพัฒนาขีดความสามารถในด้านการศึกษาวิชาวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และคอมพิวเตอร์ของครู และเยาวชนไทย .-สำนักข่าวไทย