พบศพสาวขับรถตกคลองเสียชีวิต

กาญจนบุรี 6 ต.ค. – จากกรณีที่ญาติของ น.ส.รวิวรรณ ขันธ์เครือ หรือ ข้าว อายุ 28 ปี ชาว อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี แจ้งความกับตำรวจ สภ.ท่าเรือ อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ให้ช่วยค้นหาตัวของ น.ส.รวิวรรณ หลังพบว่าสัญญาณ GPS โทรศัพท์ของ น.ส.รวิวรรณ  อยู่ในคลองชลประทานฝั่งซ้าย บริเวณแยกบ้านสนุ่น หมู่ 5 ต.ตะคร้ำเอน อ.ท่ามะกา กาญจนบุรี


เมื่อวานตำรวจประสานเจ้าหน้าที่นักประดาน้ำมูลนิธิขุนรัตนาวุธและพิทักษ์กาญจน์ ให้ช่วยค้นหา  โดยญาติได้ออกติดตามหาตัว ของ น.ส.รวิวรรณ ที่หายไปพร้อมรถยนต์เก๋งยี่ห้อมาสด้า สีบรอนซ์เงิน หมายทะเบียน 2 กจ 4808 กทม. ตั้งแต่วันที่ 2 ตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งจากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่าจุดสุดท้ายพบในท้องที่ ต.ตะคร่ำเอน อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี จนกระทั่งญาติพบพิกัดสัญญาณ GPS โทรศัพท์ของ น.ส.รวิวรรณ และพบร่องรอยของล้อรถวิ่งทับกอหญ้าเป็นทางยาวลงไปในคลองบริเวณสะพานบ้านสนุ่น 

เจ้าหน้าที่นักประดาน้ำได้ช่วยกันระดมค้นหา โดยใช้เวลานานกว่า 6 ชม. ท่ามกลางพ่อแม่ ญาติและเพื่อนร่วมงาน รวมทั้งไทยมุ่งจำนวนมาก ในที่สุดก็พบชิ้นส่วนแรกเป็นกระจังหน้าของรถคันเกิดเหตุ และห่างออกไปประมาณ 100 เมตร กลางลำคลอง พบซากรถยนต์คันดังกล่าว จึงกู้ซากรถขึ้นมาบนฝั่ง


ตรวจสอบภายในรถพบร่างของหญิงสาวสวมชุดยูนิฟอร์มบริษัทเอกชนชื่อดัง อยู่บริเวณเบาะหลัง สภาพขึ้นอืด โดยญาติยืนยันว่า เป็น น.ส.รวิวรรณ จริง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงประสานแพทย์เวร รพ.มะการักษ์ มาทำการชันสูตรศพเบื้องต้น ระบุเกิดจากการขาดอากาศหายใจ และไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย น่าจะเป็นอุบัติเหตุ เนื่องจากสภาพด้านหน้ารถมีร่องรอยของการเฉี่ยวชนจนพังยับเยิน

คาดว่า น.ส.รวิวรรณ ผู้ตาย ขับมาตามเส้นทาง และจะข้ามสะพานแต่เนื่องจากขณะเกิดเหตุสภาพพื้นที่มืดไม่มีไฟส่องสว่าง ประกอบกับไม่ชำนาญเส้นทาง จึงไม่เห็นว่าสะพานดังกล่าวเป็นสะพานเล็กที่ใช้เฉพาะรถจักรยานยนต์เท่านั้น ส่วนรถใหญ่จะต้องใช้สะพานถัดไปที่ตั้งอยู่คู่ขนานกัน จึงอาจเป็นเหตุให้ผู้ตายเข้าใจผิดขับรถตรงไปจนทำให้เกิดอุบัติเหตุและเสียชีวิตในที่สุด ตร.จะนำร่างของผู้เสียชีวิตไปชันสูตรที่แน่ชัดอีกครั้ง หากญาติไม่ติดใจสาเหตุของการเสียชีวิตก็จะมอบศพให้ญาติไปทำพิธีทางศาสนา

ด้านบิดาของ น.ส.รวิวรรณ  บอกว่า วันเกิดเหตุ (วันที่ 2 ต.ค.) บุตรสาวได้ออกมาจากโรงงาน ที่ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี เพื่อมาหาแฟนหนุ่มในพื้นที่บ้านสำนักคร้อ ต.ตะคร้ำเอน อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี แม่ของผู้ตายได้โทรศัพท์หาตอน 22.00 น. ยังสามารถติดต่อได้อยู่ แต่ตอน 23.00 น.ไม่สามารถติดต่อได้แล้ว จึงได้พยายามออกตามหา และเช็คภาพจากกล้องวงจรปิด รวมทั้งสัญญาณ GPS โทรศัพท์ กระทั่งมาพบบุตรสาวกลายเป็นศพหลังหายตัวไปนาน 3 วัน. -สำนักข่าวไทย 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย