สนช.รับหลักการกม.ท้องถิ่น 6 ฉบับ

รัฐสภา 4 ต.ค.-ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติรับหลักการร่างกฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่น 6 ฉบับวาระแรก ให้สอดรับกับรัฐธรรมนูญใหม่ที่บัญญัติและคำนึงถึงเจตนารมณ์ป้องกันและปราบปรามทุจริต


การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสนช.เป็นประธาน พิจารณาร่างกฎหมายท้องถิ่น 6 ฉบับ ประกอบด้วยร่าง พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น ร่างพ.ร.บ.สภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล ร่างพ.ร.บ.เทศบาล ร่างพ.ร.บ.องค์การบริหารส่วนจังหวัด ร่างพ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร และร่างพ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการเมืองพัทยา ที่คณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอ โดยพิจารณาพร้อมกัน เนื่องจากเป็นร่างกฎหมายที่มีความเชื่อมโยงกัน 

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ชี้แจงหลักการและเหตุผลของร่างกฎหมายทั้ง 6 ฉบับ เพื่อให้สอดรับกับรัฐธรรมนูญใหม่ที่บัญญัติให้สมาชิกสภาท้องถิ่นต้องมาจากการเลือกตั้งและผู้บริหารท้องถิ่นให้มาจากการเลือกตั้งหรือจากความเห็นชอบของสภาท้องถิ่น หรือกรณีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบพิเศษจะมาโดยวิธีอื่นก็ได้ แต่ต้องคำนึงถึงการมีส่วนร่วมของประชาชน โดยคุณสมบัติของผู้มีสิทธิเลือกตั้งและผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง รวมทั้งหลักเกณฑ์ และวิธีเลือกให้เป็นไปตามกฎหมายบัญญัติ ซึ่งต้องคำนึงถึงเจตนารมณ์ในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตตามแนวทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ จึงสมควรปรับปรุงกฎหมาย


สำหรับร่างกฎหมายท้องถิ่น ทั้ง 6 ฉบับ มีรายละเอียดสำคัญ คือ การกำหนดคุณสมบัติผู้ที่จะสมัครเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาท้องถิ่นเทียบเท่าคุณสมบัติของ ส.ส. เช่น จะต้องไม่เคยถูกพิพากษาจนถึงที่สุดว่าทุจริตเลือกตั้ง หรือกระทำผิดกฎหมายการป้องกันและปราบปรามการทุจริต เป็นต้น และยังกำหนดข้อห้าม ผู้บริหารท้องถิ่น มีส่วนได้ส่วนเสีย หรือเอื้อประโยชน์ในสัญญาที่ดำเนินการกับท้องถิ่น และห้ามใช้งบประมาณไปอบรมและดูงานต่างประเทศด้วย 

ทั้งนี้ ร่างกฎหมายระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร กำหนดให้ผู้ว่ากรุงเทพมหานครและตำแหน่งอื่น ๆ ในปัจจุบันดำรงตำแหน่งจนกว่าจะเลือกตั้งใหม่ แต่หากจะลงสมัครรับเลือกตั้ง ต้องลาออกจากตำแหน่งภายใน 30 วัน นับแต่วันที่มีการกำหนดวันเลือกตั้ง ส่วนสมาชิกสภาเขตกรุงเทพมหานคร (ส.ข.) ร่างกฎหมายยังคงกำหนดให้มี แต่จะต้องปรับปรุงกฎหมายระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานครให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ก่อนจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาเขต(ส.ข.)  มิเช่นนั้นจะยังไม่สามารถจัดการเลือกตั้งส.ข.ได้ 

สำหรับการจัดการเลือกตั้งผู้บริหารท้องถิ่นระดับต่าง ๆ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)จะเป็นผู้จัดการเองหรืออาจจะมอบหมายให้หน่วยงานอื่น อาทิกระทรวงมหาดไทยดำเนินการภายใต้การควบคุมของกกต.ได้ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด แต่การจัดการเลือกตั้งท้องถิ่นครั้งแรกนับจากนี้ เมื่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เห็นสมควรจะดำเนินการแล้ว จะต้องแจ้งให้กกต.รับทราบเพื่อกำหนดวันเลือกตั้ง


ขณะที่สมาชิกสนช.หลายคนอภิปรายแสดงความเป็นห่วง เช่น นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ สมาชิกสนช.ที่ห่วงเรื่องการใช้งบประมาณและวิธีป้องกันการทุจริตเลือกตั้งท้องถิ่นให้เป็นมาตรฐานเดียวกันและเสียดายที่ไม่ได้กำหนดหรือจำกัดวาระการทำงานผู้บริหารท้องถิ่นให้ชัด เพราะไม่อยากให้มีเจ้าพ่อท้องถิ่น อยากให้คนหน้าใหม่เข้ามาพัฒนาท้องถิ่น 

ขณะที่พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม สมาชิกสนช. อภิปรายถึงวาระของผู้บริหารท้องถิ่น ซึ่งในรัฐธรรมนูญ 2560 ได้เล็งเห็นความสำคัญว่า หากผู้บริหารระดับสูงจะดำรงตำแหน่งยาวนานเกินไปย่อมมีข้อเสียมากกว่าข้อดี และประชาชนจะได้รับผลกระทบมากที่สุด จึงได้บัญญัติวาระการดำรงตำแหน่งของนายกรัฐมนตรีไว้ไม่ให้เกิน 8 ปี ดังนั้น ผู้บริหารท้องถิ่นควรมีลักษณะเช่นเดียวกัน โดยกำหนดระยะเวลาการดำรงตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงไม่เกิน 8 ปี ส่วนการกำหนดอายุขั้นต่ำของผู้บริหารท้องถิ่น เห็นว่า ควรมีอายุไม่ต่ำกว่า 35 ปี สอดคล้องกับอายุของรัฐมนตรี โดยเฉพาะองค์กรปกครองส่วนจังหวัด กทม.และพัทยา เพราะต้องบริหารจัดการงบประมาณจำนวนมาก 

พล.อ.อนุพงษ์ ชี้แจงว่า ไม่สามารถคาดการณ์ได้ชัดเจนว่ากฎหมายท้องถิ่นจะแล้วเสร็จเมื่อใด ดังนั้น การกำหนดว่าจะทำอะไรก่อนหรือหลังการเลือกตั้งทั่วไปจึงไม่สามารถทำได้ เพราะยังไม่แน่นอน อีกทั้งกกต.ระบุว่า อยากให้การเลือกตั้งทั่วไปและการเลือกตั้งท้องถิ่นมีระยะห่าง 90 วัน 

จากนั้น ที่ประชุมสนช.มีมติเอกฉันท์รับหลักการร่างพ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นวาระแรกด้วยคะแนน 168 เสียง งดออกเสียง 2 เสียง ไม่ลงคะแนน 1 เสียง พร้อมตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นจำนวน 34 คน กำหนดกรอบการทำงาน 60 วัน แปรญัตติ 15 วัน หลังจากนั้นที่ประชุมสนช.มีมติเอกฉันท์รับหลักการร่างพ.ร.บ.สภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล ด้วยคะแนน 168 งดออกเสียง 2 เสียง ไม่ลงคะแนน 1 เสียง พร้อมตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.สภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบลจำนวน 24 คน กำหนดกรอบการทำงาน 60 วัน แปรญัตติ 15 วัน

ในโอกาสนี้ ที่ประชุมสนช.มีมติเอกฉันท์รับหลักการร่าง พ.ร.บ.เทศบาลด้วยคะแนน 170 เสียง งดออกเสียง 2 เสียง ไม่ลงคะแนน 1 เสียง โดยมอบหมายให้คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.สภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล เป็นผู้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ พร้อมกำหนดกรอบการทำงาน 60 วัน แปรญัตติ 15 วัน  ที่ประชุม สนช.มีมติเอกฉันท์รับหลักการร่าง พ.ร.บ.องค์การบริหารส่วนจังหวัด ด้วยคะแนน 171 เสียง งดออกเสียง 2 เสียง ไม่ลงคะแนน 1 เสียง โดยมอบหมายให้ คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.สภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล เป็นผู้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ พร้อมกำหนดกรอบการทำงาน 60 วัน แปรญัตติ 15 วัน 

ที่ประชุม สนช.มีมติเอกฉันท์รับหลักการร่าง พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร ด้วยคะแนน 169 เสียง งดออกเสียง 2 เสียง ไม่ลงคะแนน 1 เสียง พร้อมตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานครจำนวน 23 คน กรอบการทำงาน 60  วัน แปรญัตติ 15 วัน  และที่ประชุม สนช.มีมติเอกฉันท์รับหลักการร่างพ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการเมืองพัทยา ด้วยคะแนน 169 เสียง งดออกเสียง 2 เสียง ไม่ลงคะแนน 1 เสียง โดยมอบหมายให้คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร เป็นผู้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ กรอบการทำงาน 60 วัน แปรญัตติ 15 วัน.-สำนักข่าวไทย     

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

ห้องประชุมสภา คึกคัก “อนุทิน” เดินทักทายรอบห้อง

รัฐสภา 4 ก.ย.-ห้องประชุมสภาฯ คึกคัก “อนุทิน” เดินทักทายรอบห้อง ไม่เว้นโซน “เพื่อไทย” ขณะที่ สส.พรรคประชาชน บอกลำบากใจโหวต ให้ “เสี่ยหนู” แต่จำเป็นเพื่อผ่าทางตัน พร้อมฝากถึง “แพทองธาร” สารตั้งต้นปัญหา ควรรับผิดชอบมากกว่านี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่ การประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาฯคนที่ 1 เป็นประธานการประชุม โดยเปิดให้สมาชิกหารือปัญหาเดือดร้อน โดยบรรยากาศ เป็นไปด้วยความคึกคัก เมื่อนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่ได้รับการสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะมีการเลือกกันในวันที่ 5 ก.ย.นี้ เดินเข้าห้องประชุมเมื่อเวลา 09.20 น.ได้เดินทักทาย สส.พรรคภูมิใจไทย และมีการถ่ายภาพหมู่ในห้องประชุม จากนั้นได้เดินทักทายพูดคุยกับ สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ และ สส.พรรคประชาชน ในที่นั่งของพรรครวมไทยสร้างชาติ และที่นั่งพรรคประชาชน ขณะที่มี สส.ส่วนหนึ่งก็เดินเข้ามาทักทาย จับมือ แสดงความยินดีล่วงหน้าที่นายอนุทิน จะได้รับการโหวตเป็นนายกฯ นอกจากนั้นนายอนุทิน ยังเดินไปทักทายพูดคุยกับ สส.พรรคเพื่อไทย เช่น […]

รฟท.ประสาน DSI เลื่อนแจ้งความเอาผิด “เขากระโดง”

ดีเอสไอ 3 ก.ย.-รฟท.ประสาน DSI เลื่อนแจ้งความเอาผิดเรื่องเขากระโดงไม่มีกำหนด ความคืบหน้าการสืบสวนเรื่องร้องเรียนการครอบครองและการออกเอกสารสิทธิในที่ดินบริเวณเขากระโดงจังหวัดบุรีรัมย์ อันอาจเป็นที่ดินของรัฐ ซึ่งอธิบดีดีเอสไอมีคำสั่งสืบสวน และดีเอสไอได้ดำเนินการสอบสวนปากคำพยานบุคคลที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบรวบรวมพยานหลักฐานพบกลุ่มบุคคลและเจ้าหน้าที่รฟท.เกี่ยวข้อง ซึ่งการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ติดต่อจะมอบให้ฝ่ายกฎหมายเข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อขอให้ดำเนินการสอบสวนตาม พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง พร้อมมอบเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องวันนี้ เวลา 14.00น. ล่าสุดพ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผอ.กองคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมาย รฟท.ได้ประสานกลับมายังตน ขอเลื่อนการเข้าแจ้งความร้องทุกข์ออกไปก่อน อย่างไม่มีกำหนด กรณีนี้ พนักงานสอบสวนดีเอสไอตรวจสอบพบ กลุ่มบุคคลและเจ้าหน้าที่การรถไฟเข้าไปเกี่ยวข้อง และการรถไฟฯ เป็นผู้เสียหายจึงประสาน รฟท.ไปให้มาแจ้งความดำเนินคดีอาญากับกลุ่มบุคคลและเจ้าหน้าที่การรถไฟแห่งประเทศไทย และเจ้าหน้าที่รัฐอื่นในการเข้ายึดถือครอบครองที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย บริเวณพื้นที่เขากระโดง ต.เสม็ด และ ต.อิสาณ อ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ หากรฟท.ไม่มาแจ้งร้องทุกข์ ก็เข้าข่ายละเลยการปฏิบัติหน้าที่ ดีเอสไอจะทำหนังสือแจ้งรฟท.อีกครั้งให้มาแจ้งความร้องทุกข์ หากยังไม่มาอีก ก็จะประชุมพนักงานสอบสวน ดำเนินการทางกฎหมายกับผู้บริหารการรถไฟฯ เรียกสอบบุคคลที่เกี่ยวข้องฐานเป็นผู้สนับสนุนเพื่อดำเนินการทางกฎหมายต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ติดป้ายให้ ‘ชาวกัมพูชา’ รื้อถอน-ย้ายออก พื้นที่บ้านหนองจาน

สระแก้ว 4 ก.ย.-ผู้ว่าฯ สระแก้ว สั่งติดป้ายให้ชาวกัมพูชา รื้อถอน-ย้ายออก พื้นที่บ้านหนองจาน ในส่วนของไทย หากฝ่าฝืนเอาผิด พ.ร.บ.คนเข้าเมือง-ป่าไม้ โทษปรับ-จำคุก เจ้าหน้าที่หลายหน่วยงาน จ.สระแก้ว ติดตั้งประกาศบังคับใช้กฎหมายชาวกัมพูชาที่บุกรุกพื้นที่ในราชอาณาจักรไทย บริเวณบ้านหนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว โดยป้ายมี 3 ภาษา ไทย-กัมพูชา-อังกฤษ พร้อมแผนที่ ระบุว่า “ประกาศให้ชาวกัมพูชาที่บุกรุกถือครองที่ดินและอยู่อาศัยทำกินในราชอาณาจักรไทย เป็นการกระทำความผิดในราชอาณาจักรไทย ตามแผนที่แนบท้ายกรอบสีฟ้า หากเพิกเฉยไม่ดำเนินการจะดำเนินคดีและต้องรับโทษในราชอาณาจักรไทย หากเพิกเฉยไม่ดำเนินการจะดำเนินคดีและต้องรับโทษในราชอาณาจักรไทยตามกฎหมายดังนี้ 1.พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 มาตรา 11 มาตรา 62 และมาตรา 81 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี และปรับไม่เกิน 20,000 บาท 2.พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 54 และมาตรา 72 ตรี ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 50,000 […]

เร่งล่าคนร้ายฆ่าหญิงสาวยัดกระเป๋าเดินทางถ่วงน้ำ

ชลบุรี 3 ก.ย. – คดีสังหารโหดหญิงปริศนายัดกระเป๋าเดินทาง โยนทิ้งอ่างเก็บน้ำ จ.ชลบุรี ตำรวจเร่งหาเบาะแสล่าตัวคนร้าย พบลายนิ้วมือแฝงบนดัมเบลที่ใช้ถ่วงน้ำหนักกระเป๋า ตำรวจ สภ.ห้วยใหญ่ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน นำกระเป๋าเดินทางสีดำขนาดใหญ่ ซึ่งมีโซ่เหล็ก และกุญแจล็อกแน่นหนา ขึ้นมาตรวจสอบ หลังจากพบลอยอยู่ในอ่างเก็บน้ำคลองบางไผ่ ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ส่งกลิ่นเหม็นไปทั่วบริเวณ จากการตรวจสอบภายในกระเป๋า พบศพหญิงสาว อายุประมาณ 30 ปี ไม่ทราบสัญชาติ เปลือยท่อนบน นุ่งกางเกงขา 3 ส่วน สีครีม นอนขดตัวอยู่ในกระเป๋า พบร่องรอยเขียวช้ำบริเวณลำคอ กลางหน้าอก และดั้งจมูก คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 5 วัน โดยเจ้าหน้าที่ได้ส่งศพไปชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง รวมถึงตรวจสอบอัตลักษณ์บุคคลว่า ผู้ตายเป็นใคร มาจากไหน ส่วนบริเวณช่องใส่ของด้านหน้ากระเป๋า พบแผ่นดัมเบล 9 แผ่น (ขนาดน้ำหนัก 5 กก. จำนวน 1 แผ่น / 2.5 […]