รัฐสภา 4 ก.ย.-“สรวงศ์” ยื่นข้อเสนอสุดท้ายให้พรรคการเมือง โหวต “ชัยเกษม” นั่ง นายกฯ คนที่ 32 พร้อมยุบสภาหลังแถลงนโยบายฯ เชื่อไม่สาย มองทุกอย่างสามารถทบทวนได้
นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า วันนี้ ตน ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย และในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติพรรคเพื่อไทยทุกคน ยังยืนยันถึงอำนาจหน้าที่ที่เรามั่นใจว่าอำนาจในการทูลเกล้าฯถวายคำแนะนำในการยุบสภา ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรีสามารถทำได้นั่นเป็นกระบวนการของฝ่ายบริหาร แต่วันนี้ในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติพรรคเพื่อไทยยืนยัน ข้อเสนอสุดท้ายของเรา ถ้าวันพรุ่งนี้ (5ก.ย.) มีการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีจริงๆ ถ้าเสียงส่วนใหญ่จะมอบความไว้วางใจให้นายชัยเกษม นิติศิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย เป็นนายกรัฐมนตรี หลังจากเข้าเฝ้าถวายสัตย์ฯ และมีการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาแล้ว จะมีการประกาศยุบสภาทันที อันนี้เป็นข้อเสนอสุดท้ายของเรา อะไรจะเกิดขึ้นวันพรุ่งนี้ก็ต้องคอยติดตามดูว่าจะเป็นอย่างไร ยืนยันวันพรุ่งนี้พรรคเพื่อไทย เสนอชื่อนายชัยเกษม นิติศิริ เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 ของไทย
ส่วนข้อเสนอนี้เพื่อให้พรรคประชาชนกลับมาโหวตสนับสนุนแคนดิเดตนายกจากพรรคเพื่อไทยใช่หรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า ไม่ได้เป็นข้อเรียกร้องให้พรรคใดมาสนับสนุน แต่เป็นสิ่งที่คุยกันแล้วว่าเป็นทางออกที่ดีที่สุดของประเทศ ณ ขณะนี้ และตั้งแต่วันที่ได้พูดคุยกันเมื่อเดินทางมาถึงวันนี้ได้พรรคเพื่อไทยมีความตั้งใจและความบริสุทธิ์ใจอย่างยิ่งในการคืนอำนาจให้กับประชาชน วันนี้เรายื่นข้อเสนอสุดท้ายให้กับพรรคการเมืองทุกพรรคที่อยู่ในสภาผู้แทนราษฎร
ส่วนจะเป็นการป้องกันไม่ให้นายอนุทินชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยเป็นนายกรัฐมนตรีใช่หรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า อย่าไปถึงขนาดนั้น ตรงนี้แล้วแต่วิจารณญาณของ สส. แต่ละคน ตนเองในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ยืนยันที่จะเสนอแคนดิเดตคนสุดท้ายของเรา
เมื่อถามว่ากรณีที่นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน อยากให้พรรคเพื่อไทยชี้แจงให้ชัดเจนว่าจะเลือกอะไรระหว่างการยุบสภาหรือโหวตเลือกแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี นายสรวงศ์ กล่าวว่า วันนี้พวกตนมายืนอยู่ในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติไม่ทราบว่าขั้นตอนของฝ่ายบริหาร เป็นอย่างไร ติดตรงไหน แต่ฝ่ายนิติบัญญัติอย่างไรก็ต้องเดินต่อ เราต้องมองทุกมิติ ถ้าเราไม่เตรียมความพร้อมไว้เลยว่าวันพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้นในสภาผู้แทนราษฎร พวกเราก็อยู่ไม่ได้เหมือนกัน ดังนั้นฝ่ายนิติบัญญัติก็ต้องเดินทางหนึ่งฝ่ายบริหารก็ต้องเดิน แต่ความชัดเจนของทั้ง 2 ส่วน พรรคเพื่อไทยและรัฐบาลมีความประสงค์เดียวกันคือคืนอำนาจให้กับประชาชนอย่างชัดเจน
เมื่อถามว่าแปลว่าต้องเดินสองขาใช่หรือไม่ นายสรวงศ์กล่าวว่า เดินขาเดียวรู้สึกแล้วเรายังไม่มั่นคง ยังหาความจริงใจกับพวกเราอยู่เลย ก็ไปสองขาอย่างนี้ก็จะได้รู้ว่าพวกเราจริงใจขนาดไหน
เมื่อถามว่ามองเรื่องมีการแจ้งความนายภูมิธรรม เวชยชัย ปฎิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรีอย่างไร นายสรวงศ์ กล่าวว่า ทุกคนก็ให้กำลังใจแต่ยังยืนยันว่าอำนาจของผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรีมีอำนาจเต็ม
เมื่อถามถึง ขั้นตอนเมื่อมีการโหวตนายกรัฐมนตรีและไปสู่ขั้นตอนการยุบสภา จะมีกรอบระยะเวลาอย่างไร นายสรวงศ์ กล่าวว่า ต้องมีอะไรที่เสร็จก่อน และต้องดูว่าอะไรที่มีความเรียบร้อยก่อน แต่สิ่งที่เราเสนอในวันนี้คือการแสดงความจริงใจที่จะคืนอำนาจให้กับประชาชน เพราะเรามองว่าการเมือง ณ ปัจจุบัน ถึงจุดหนึ่งที่ไปไม่ได้แล้ว ต้องคืนอำนาจให้กับประชาชน รีเซ็ตให้ประชาชนได้ดูว่าใครเหมาะสมในการที่จะมาเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลในอนาคต ซึ่งเรามีหลายอย่างที่ต้องจัดเตรียม ภายในปีนี้ทั้งการเป็นเจ้าภาพซีเกมส์ และอื่นๆ ซึ่งจะต้องมีคนเข้ามาบริหารจัดการ ฉะนั้น ทุกอย่างต้องรวดเร็ว และยืนยันอีกครั้งว่าเรามีความตั้งใจอย่างเต็มร้อยที่จะคืนอำนาจให้กับประชาชน
ส่วนที่พรรคประชาชนมองว่าย้อนแย้งที่มีการเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีและดำเนินการยุบสภา นายสรวงศ์ กล่าวว่า เราอยู่กันคนละมิติ ในส่วนของนายภูมิธรรม ของฝ่ายบริหาร ซึ่งมีขั้นตอนเสนอยุบสภา แต่หากไม่เกิดขึ้นจริง พวกเราต้องมีทางไป ในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติคือการเสนอชื่อผู้ที่เหมาะสมจะเป็นนายกรัฐมนตรี ในส่วนของพรรคเพื่อไทย
เมื่อถามว่าประเมินหรือไม่ว่าในวันที่ 5 ก.ย. อาจจะมีเกมช่วงชิงหรือยื้อวาระการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี นายสรวงศ์ กล่าวว่า ตนไม่ได้มีเกมอะไรทั้งสิ้น ซึ่งมีการบรรจุระเบียบวาระไปแล้ว และหากถึงวาระนั้นจริงๆ พวกตนก็ยืนยันว่าจะเสนอชื่อนายชัยเกษม
ส่วนเงื่อนไขที่จะให้มีการยุบสภาเร็ว นั้น สายไปหรือไม่ในขณะนี้ เพราะมีการลงนามไปแล้วระหว่างสองพรรคการเมือง นายสรวงศ์ กล่าวว่า ไม่เป็นอะไร ตนมองว่าทุกอย่างสามารถทบทวนได้ และตนมองว่าเอ็มโอเอ เขาทำกันไป แต่พวกเราก็มีหน้าที่ในการทำงานเช่นเดียวกัน ซึ่งในวันที่ไปคุยกับพรรคประชาชน เราก็พร้อมที่จะลงนาม แต่เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว พวกเราต้องมีทางออกของพวกเรา และยืนยันที่จะเป็นเช่นนี้
เมื่อถามย้ำว่า มั่นใจใช่หรือไม่ว่าไม่สายเกินไป นายสรวงศ์ กล่าวว่า ไม่สายไป ไม่มีอะไรที่สายไป อย่างแน่นอน เพราะยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เมื่อถามว่า มีการพูดถึงการยื่นทูลเกล้าฯ ยุบสภาที่ผิดขั้นตอนหรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า ไม่มี และย้ำว่าเป็นในส่วนของฝ่ายบริหาร ไม่ใช่อำนาจของตน แม้ว่าจะเป็นรักษาการรัฐมนตรีก็ไม่ได้มีส่วนหรือมีอำนาจอะไรจะไปยุ่งเกี่ยวกับตรงนั้น ซึ่งเป็นหน้าที่ของผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี แต่ยอมรับว่าในพรรคได้มีการพูดคุยกัน เช่น กรณีที่นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้มีการโพสต์ในสิ่งที่นายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย ที่ได้ร่างขึ้นมา ที่อาจจะได้เห็นถึงขั้นตอน แต่ตนไม่ขอก้าวล่วงในจุดนั้นให้กระบวนการเดินต่อไป จะติดขัดส่วนไหน หรือส่วนไหนที่เร็ว ในการคืนอำนาจให้กับประชาชน พวกเราก็ยินดี.-316.-สำนักข่าวไทย