ประจวบคีรีขันธ์ 14 ก.ย.- รองผู้การประจวบฯ เกาะติดคดีบุกรุกชายหาดหัวหินที่ศาลตัดสินแล้วปี 57 แต่การดำเนินคดีไม่คืบหน้า ล่าสุดจับ 1 ใน 8 ผู้ต้องหาแล้ว ขอเข้ามอบตัว 5 ราย อีก 2 เสียชีวิต
พ.ต.อ.ฉัตรไชย เรียนเมฆ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยถึงคดีผู้บุกรุกชายหาดหัวหิน 52 ราย ตั้งแต่ศาลเจ้าแม่ทับทิมถึงสะพานปลาหัวหิน ซึ่งเทศบาลเมืองหัวหินเป็นโจทก์ฟ้องผู้บุกรุกและศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์มีคำพิพากษาเมื่อปี 2557 พร้อมมีคำสั่งให้ออกหมายจับจำเลย 8 ราย เมื่อวันที่ 10 ก.ย.57 เนื่องจากไม่ได้เดินทางมาฟังคำพิพากษาศาลฎีกาในคดีดังกล่าวว่า ที่ผ่านมาได้ส่งสำเนาหมายจับแจ้งผู้ต้องหา 8 รายแล้ว ในคดีบุกรุกชายหาดหัวหินตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร 2522 ล่าสุดได้รับรายงานจาก ผกก.สภ.หัวหิน ว่าสามารถจับกุม 1 ใน 8 ผู้ต้องหาตามหมายจับแล้ว และนำตัวส่งศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สำหรับผู้ต้องหาที่เหลือเสียชีวิตไปแล้ว 2 ราย และอีก 5 ราย ทราบว่าอยู่ระหว่างการติดต่อขอมอบตัว
นางสาวฉวีวรรณ จันทร์ธาดา ผู้อำนวยการสำนักอำนวยการประจำศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า พนักงานสอบสวน สภ.หัวหินได้นำตัวผู้ต้องหาส่งศาลตามหมายจับ ซึ่งผู้พิพากษาได้อ่านคำพิพากษาศาลฎีกาให้จำเลยทราบ โดยมีค่าปรับรายวันนับตั้งแต่วันฟ้องถึงคดีสิ้นสุด จากนั้นนำตัวไปฝากขังที่เรือนจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และผู้ต้องหาสามารถใช้หลักทรัพย์ขอยื่นประกันตัวได้ตามขั้นตอน สำหรับคดีบุกรุกชายหาดหัวหินนั้น ขอชี้แจงว่าศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ได้อ่านคำพิพากษาตามที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้องตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร 2522 โดยไม่มีข้อหาบุกรุกที่ดินสาธารณะประโยชน์
ด้าน พ.ต.อ.บัญชา ปั้นประดับ รองผู้บังคับการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ปทส.) ให้สัมภาษณ์ว่า จากการตรวจสอบผลการพิจารณาคดีของศาลภายหลัง เทศบาลหัวหินได้ยื่นฟ้องผู้บุกรุกตาม พรบ.ควบคุมอาคาร ซึ่งตามข้อเท็จจริงเทศบาลในฐานะเจ้าพนักงานท้องถิ่นมีอำนาจหน้าที่ในการดูแลที่ดินสาธารณะประโยชน์ร่วมกับฝ่ายปกครอง และสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคมีหน้าที่ดูแลที่ดินที่น้ำท่วมถึงตาม พ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย 2456 แต่เทศบาลฯ ไม่ได้แจ้งข้อหาบุกรุกที่สาธารณะประโยชน์ ซึ่งมีโทษสถานหนัก ทำให้ผู้บุกรุกจ่ายค่าปรับรายวันแค่วันละ 1,000 บาท ขณะที่มีกำไรจากผลประกอบการเดือนละหลายแสนบาทมานานหลายสิบปี.-สำนักข่าวไทย