ประจวบคีรีขันธ์ 13 ก.ย.- นอภ.หัวหินขอคัดสำเนาคำพิพากษาศาลฎีกาคดีบุกรุกชายหาดเมื่อปี 57 เสนอ คสช.ใช้ ม.44 สะสางปัญหา เตรียมประชุม 19 ก.ย.เร่งรัดการดำเนินงานและค่าปรับจำเลยรายวัน
กรณีเทศบาลเมืองหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ แจ้งหนังสือลงวันที่ 7 กันยายน 2559 ให้จำเลยทุกรายปฏิบัติตามคำพิพากษาศาลฎีกาภายใน 30 วัน คดีบุกรุกชายหาดเขตเทศบาลหัวหินจำนวน 52 ราย มีความผิดตาม พรบ.ควบคุมอาคาร 2522 บริเวณริมถนนนเรศดำริห์ ตั้งแต่ศาลเจ้าแม่ทับทิมถึงสะพานปลาหัวหิน ซึ่งศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ได้อ่านคำพิพากษาศาลฎีกาตั้งแต่วันที่ 10 กันยายน 2557 แต่ล่าสุดจำเลยยังไม่รื้อถอนอาคารและไม่ชำระค่าปรับตามคำพิพากษาศาลฎีกานั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ ฝ่ายปกครอง อ.หัวหิน กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) จึงเตรียมเร่งรัดให้ดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย
นายสุทธิพงษ์ คล้ายอุดม นายอำเภอหัวหิน จ.ประจวบคีรขันธ์ กล่าวว่า อธิบดีกรมการปกครองได้สั่งการให้ฝ่ายปกครองอำเภอหัวหินชี้แจงข้อเท็จจริงปัญหาบุกรุกชายหาดหัวหิน เนื่องจากเป็นที่สนใจของประชาชนอย่างมาก และให้ทุกฝ่ายเร่งดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ตามนโยบายจัดระเบียบชายหาดของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) หลังจากศาลฎีกามีคำพิพากษานานกว่า 2 ปี แต่เทศบาลหัวหินยังไม่สั่งบังคับคดี เพื่อให้รื้อถอนและสั่งให้ผู้บุกรุกทุกรายจ่ายค่าปรับรายวันมูลค่ารวมหลายล้านบาท ซึ่งการดำเนินการที่ล่าช้าโดยไม่มีเหตุผลอันสมควรอาจเข้าข่ายละเว้นในการปฏิบัติหน้าที่อย่างชัดเจน
นายอำเภอหัวหิน กล่าวว่า ขณะนี้ฝ่ายปกครองได้ขอคัดสำเนาคำพิพากษาศาลฎีกาทุกคดีที่เกี่ยวข้องที่ศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อสรุปข้อมูลเสนอให้ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 15 (มทบ.15) รายงานไปยังรัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อให้พิจารณาในการใช้อำนาจพิเศษตามมาตรา 44 จัดการปัญหาชายหาดหัวหินที่ยืดเยื้อมานานกว่า 20 ปี ประกอบกับเมื่อเดือนมีนาคม 2558 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ลงพื้นที่ติดตามผลการจัดระเบียบชายหาดที่ อ.หัวหิน เพื่อยกระดับเป็นพื้นที่นำร่องของประเทศ
ด้านพันจ่าเอกเรืองเดช สิทธิชัย หัวหน้างานนิติการ เทศบาลเมืองหัวหิน กล่าวว่า วันที่ 19 กันยายนนี้ เทศบาลฯ ได้แจ้งหนังสือเชิญฝ่ายปกครองอำเภอหัวหิน อัยการจังหวัดในฐานะโจทก์ฟ้องคดี สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค เจ้าพนักงานที่ดินสาขาหัวหิน ร่วมประชุมเพื่อหาข้อสรุปในการทำงานร่วมกัน หลังจากมีหนังสือแจ้งถึงจำเลยทุกรายให้ปฏิบัติตามคำสั่งศาลฎีกา ซึ่งจะต้องมีการพิจารณาให้ผู้บุกรุกทุกรายจ่ายค่าปรับเพิ่ม เนื่องจากศาลมีคำพิพากษาสั่งให้จำเลยจ่ายค่าปรับรายวัน จนกว่าจะมีการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง.-สำนักข่าวไทย