ลุ้นศาลอุทธรณ์ตัดสินคดีหวย 30 ล้านวันนี้

กาญจนบุรี 20 ต.ค.-ศาลอุทธรณ์ภาค 7 นัดฟังคำพิพากษาคดีหวย 30 ล้าน วันนี้ ด้านครูปรีชา ไม่ทิ้งสโลแกน ความจริงคือความจริง ยันเป็นเจ้าของลอตเตอรี่ 100% ขณะที่ลุงจรูญ มั่นใจศาลเมตตา จ่อฟ้องกลับหลายคดี ส่วนทนายตั้ม ลั่นคำตัดสินไม่น่าพลิกโผ


ศาลอุทธรณ์ภาค 7 นัดฟังคำพิพากษาในคดีมหากาพย์ ลอตเตอรี่ 30 ล้านบาท ในคดีที่ นายปรีชา ใคร่ครวญ หรือ ครูปรีชา เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือหมวดจรูญ ในข้อหายักยอกทรัพย์ รับของโจร ในวันนี้ (20 ต.ค.) เวลา 09.00 น. ที่ศาลจังหวัดกาญจนบุรี

ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ร้านอาหาร “บ้านสวนครูปรีชา” ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ของนายปรีชา ใคร่ครวญ หรือครูปรีชา เมื่อไปถึงพบ ครูปรีชา กลับจากโรงเรียนพอดี พร้อมกับเผยว่า ตามที่ศาลอุทธรณ์ภาค 7 ได้นัดฟังคำพิพากษาในคดีที่ตนเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง หมวดจรูญในวันนี้ ซึ่งเลื่อนเร็วขึ้นจากเดิมที่นัดไว้ก่อนหน้านี้วันที่ 21 มกราคม 2564 นั้น ตนเดินทางไปฟังคำพิพากษาแน่นอน เพราะเป็นวันที่รอคอยมนานแล้ว โดยมั่นใจ 100% ว่าลอตเตอรี่เป็นของตน แต่ก็ต้องรอฟังผลคำตัดสินว่าจะออกมาเป็นอย่างไร ซึ่งหากผลออกมาไม่เป็นไปตามที่คาดไว้ ก็จะใช้สิทธิตามกฎหมายต่อไป แต่คงไม่ไปคาดเดาว่าผลจะออกมาเป็นเช่นไร ต้องรอวันนี้ก่อน โดยวันนี้จะเดินทางไปพร้อมกับนายวรยุทธ บุญวงษ์ใส ทนายความส่วนตัว และทีมงาน ส่วน 3 เจ๊ คือ นางสาวรัตนาพร สุภาทิพย์ หรือ เจ๊บ้าบิ่น นางสาวพัชริดา พรมตา หรือ เจ๊พัช และนางปณัญชยา สุขพูล หรือ เจ๊เกียว แม่ค้าลอตเตอรี่พยานปากสำคัญ คาดว่าน่าจะเดินทางไปด้วย แต่ยังไม่ได้พูดคุยกัน ส่วนแฟนคลับก็น่าจะไปให้กำลังใจกันเป็นจำนวนมาก แต่ปกติบรรดาแฟนคลับจะมาอุดหนุนที่ร้านอาหารเป็นประจำอยู่แล้ว


ครูปรีชาระบุด้วยว่า ความจริงก็คือความจริง ความจริงลอตเตอรี่เป็นของตนเอง แต่พลาดทำตกหล่นหายไป ตนตกเป็นผู้เสียหาย จึงได้ใช้สิทธิตามกฎหมาย ขอขอบคุณประชาชนที่ติดตามข่าวและให้กำลังใจมาโดยตลอด ไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นหรือเครียด เพราะคิดเสมอว่า ความจริงก็คือความจริง และวันหนึ่งความจริงก็ต้องปรากฏ

ขณะที่ นางสาวรัตนาพร สุภาทิพย์ หรือ เจ๊บ้าบิ่น ซึ่งวันนี้ไม่ได้ไปขายลอตเตอรี่ เนื่องจากยังไม่ได้รับมาจำหน่าย เผยว่า จะเดินทางไปฟังคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ภาค 7 โดยมีความมั่นใจ 100% เพราะเรามีหลักฐานการสืบทรัพย์ที่ชัดเจน แต่จะเชื่อหรือไม่เชื่อ ขึ้นอยู่กับความคิดส่วนบุคคล แต่พวกเรานอนทับความจริงทุกวัน

ส่วนนางปณัญชยา สุขผล หรือ เจ๊เกียว แจ้งทางไลน์บอกแก่สื่อมวลชน ว่าวันนี้ตนเองจะไม่ได้เดินทางไปฟังคำพิพากษา เรื่องหวย 30 ล้าน เนื่องจากติดธุระสำคัญ ต้องเดินทางไปรับสลากที่กองสลาก สำหรับนางสาวพัชริดา พรมตา หรือ เจ๊พัช ยังไม่พบเนื่องจากช่วงนี้ที่ตลาดเรส ซิตี้ ยังไม่ได้ไปตั้งแผงจำหน่ายลอตเตอรี่ ต้องรออีกประมาณ 2-3 วัน ให้ได้สลากมาจากกองสลากก่อน


ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบ ร้อยตำรวจโทจรูญ วิมูล โดยมีนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ พร้อมทีมทนายความ เดินทางมาถึงก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งทั้งหมดจะพักค้างคืนที่บ้านหมวดจรูญ และจะเดินทางไปศาลจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมกันในวันนี้

โดยหมวดจรูญ เผยว่า ดีใจที่ศาลเลื่อนนัดฟังคำพิพากษาเร็วขึ้น อยากจะให้มาถึงวันนี้เร็วๆ ซึ่งที่จริงน่าจะถึงวันนี้ตั้งนานแล้ว แต่ก็ไม่เป็นไรที่มีปัญหาอุปสรรคบ้าง ซึ่งคาดหวังผลการตัดสินว่า ศาลจะเมตตา โดยตนมั่นใจในพยานหลักฐานจากคำตัดสินของศาลชั้นต้น ทั้งนี้ที่ผ่านมาตนเป็นผู้ถูกกระทำ ในสิ่งที่เราก็รู้ว่าถูกหรือผิด ต่อไปก็คงจะเป็นหน้าที่ของเราที่จะทำบ้าง ซึ่งครั้งนี้ตนจะกลับไปเป็นโจทก์บ้าง

ด้าน นายษิทรา เผยว่า ในฐานะทนายความตั้งแต่ต้น รู้ว่าลุงทำอะไร หรือไม่ทำอะไร จึงมั่นใจในความบริสุทธิ์ของลุงจรูญอยู่แล้ว ซึ่งมั่นใจด้วยพยานหลักฐานที่เราได้ยื่นไปตั้งแต่ศาลชั้นต้น และมีการสืบพยานกันข้ามปี ซึ่งพยานหลักฐานแทบทุกชิ้น ที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบฯ ได้หามา และพยานหลักฐานที่ตนและทีมทนายความไปแสวงหามาเอง เราได้นำเข้าสำนวนครบถ้วนหมดแล้ว ก็หวังว่าศาลอุทธรณ์ภาค 7 จะให้ความเป็นธรรมกับลุงจรูญ และหากศาลมีคำพิพากษายกฟ้องอีกครั้ง ตามกฎหมายถือว่าเป็นคดีที่ต้องห้ามฎีกา เพราะทั้งศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษายกฟ้องจำเลย แท้ที่จริงอีกฝ่ายไม่สามารถเพิ่มเติมอะไรได้อีก เพราะหากมีหลักฐานเด็ดก็ควรนำมายื่นตั้งแต่ศาลชั้นต้นแล้ว ซึ่งการพิจารณาในชั้นศาลอุทธรณ์ทั้งสองฝ่ายจะนำพยานหลักฐานทุกอย่างที่สู้กันในศาลชั้นต้นยกมาพิจารณา จะเพิ่มเติมภายหลังไม่ได้ แต่ตามสิทธิสามารถขออนุญาตฎีกาได้ ซึ่งขึ้นอยู่ว่าศาลจะให้หรือไม่ โดยหากไม่ได้เป็นประเด็นที่สำคัญ และคดีแบบนี้ ด้วยหลักฐานที่แน่นขนาดนี้ คงจะลำบาก

ที่ผ่านมา ลุงจรูญ เป็นโจทก์ฟ้อง ครูปรีชา และทนายวรยุทธ ในข้อหาร่วมกันฟ้องเท็จไปแล้ว แต่คดีที่ ลุงจรูญ เตรียมจะยื่นฟ้องพวกที่เบิกความ อาทิ เจ๊บ้าบิ่น เจ๊พัช เจ๊เกียว ที่เบิกความไม่ตรงกับข้อเท็จจริง และมีเจตนาที่กลั่นแกล้งลุงจรูญ ตั้งใจที่จะเบิกความเท็จต่อศาล ไม่ใช่ความเผอเรอ ก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของลุงจรูญ ว่าจะให้ทางทีมทนายความดำเนินคดีต่อเลยหรือไม่ แต่ได้เตรียมหลักฐานไว้พร้อมหมดแล้ว อย่างไรก็ตามตนมั่นใจในคำตัดสินของศาลว่าไม่น่าจะมีอะไรพลิกโผ โดยศาลน่าจะให้ความเป็นธรรมกับลุงจรูญ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พระขโมยรถยนต์โยมวันเข้าพรรษา

กาฬสินธุ์ 12 ก.ค.-วงการผ้าเหลืองไม่แผ่ว พระหนุ่มขโมยรถยนต์ญาติโยมที่มาทำบุญวันเข้าพรรษา ถูกตำรวจสกัดจับได้ทันควัน ตำรวจ สภ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ สกัดจับรถเก๋งสีดำคันบริเวณสี่แยกไฟแดง อ.สมเด็จ หลังรับแจ้งว่าพระสงฆ์หนุ่มแอบขโมยรถจากญาติโยมที่มาทำบุญในวันเข้าพรรษา แล้วขับหนีมาทาง อำเภอสมเด็จ ตำรวจจึงออกสกัดจับจนเจอ ส่วนพระสงฆ์ที่ก่อเหตุมีอาการพูดจาวกไปวนมา ตำรวจจึงนำตัวมาสงบสติอารมณ์ที่โรงพัก และแจ้งให้เจ้าของรถมารับรถคืน เตรียมดำเนินคดีกับพระรูปนี้ต่อไป หลังสึกจากการเป็นพระ.-สำนักข่าวไทย

น้ำป่าทะลักท่วมแพร่ บ้านเรือนเสียหายหนัก

แพร่ 12 ก.ค.-ฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่ จ.แพร่ น้ำป่าทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรช่วงกลางดึก เสียหาย 2 อำเภอ เกิดเหตุน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมพื้นที่ชุมชนในตำบลแดนชุมพล จังหวัดแพร่ และอำเภอร้องกวางบางส่วน เนื่องจากมีฝนตกลงมาอย่างหนักในช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา ส่งผลให้บ้านเรือนของประชาชนได้รับความเสียหายในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ลุ่มและแนวทางน้ำธรรมชาติที่รับน้ำจากภูเขาและป่าใกล้เคียง ปริมาณน้ำที่หลากเข้ามาเกิดจากฝนตกหนักต่อเนื่องตลอดช่วงคืนที่ผ่านมา ทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ชาวบ้านไม่ทันตั้งตัว ทรัพย์สินของประชาชนบางส่วนได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะบ้านโทกค่า อำเภอสอง จังหวัดแพร่ หลายหลังคาเรือนได้รับผลกระทบเนื่องจาก ไม่เคยเกิดเหตุแบบนี้มาก่อน ปีนี้น้ำมากกว่าทุกปี ทำให้เก็บข้าวของไม่ทัน ได้รับความเสียหาย ครั้งสุดท้ายที่เคยท่วม ตั้งแต่ปี 2538 .-สำนักข่าวไทย

สองสาวใหญ่ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกมือถือ

กทม. 12 ก.ค. – สองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกโทรศัพท์มือถือลอยนวล พบเคยเข้ามาขอเงินหลวงตาแล้วครั้งหนึ่ง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพขณะ ผู้หญิง 2 คนเข้าไปในกุฏิที่พระสงฆ์นอนอาพาธอยู่ คนหนึ่งนั่งพื้นส่วนอีกคนยืนอยู่แล้วเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือบนเตียงนอนไป เหตุการณ์นี้ นายมนูญ อายุ 29 ปี หลานชายของพระลูกวัดแห่งหนึ่ง ในซอยประชาอุทิศ 27 ถนนประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว ให้ช่วยตามหาสองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิ “หลวงตาสุข” อายุ 80 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคประจำตัว ประกอบกับอายุมากเดินได้ไม่ปกติ โดยหลวงตาสุข เป็นพระลูกวัด พักอยู่กุฏิด้านหลังโบสถ์ เมื่อวานนี้ (11 ก.ค.) ประมาณ 13.45 น. ขณะกำลังนอนพักผ่อนอยู่ มีหญิงร่างท้วม 2 คนเข้าไปในกุฏิ จากนั้นคนใส่เอี๊ยมสีเขียวผมสั้นลงมือค้นหาสิ่งของบนหัวเตียง ส่วนอีกคนที่มาด้วย คอยดูต้นทาง จนกระทั่งหญิงคนที่รื้อหาสิ่งของมองเห็นโทรศัพท์มือถือ ราคาประมาณ 4,000 บาท ของพระที่วางไว้หัวเตียง […]

มองเป็นการกระทำส่วนบุคคล ปมมีชื่อพระโผล่คลิปสีกา ก.

กรุงเทพฯ 11 ก.ค. – เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ เผยกรณีปรากฏชื่อ “พระปริยัติธาดา” ในคลิปพัวพันสีกา ก. มองเป็นการกระทำส่วนบุคคล ส่วนตัวอยากเห็นคลิปเพื่อยืนยันว่าท่านเกี่ยวข้องอย่างไร จากกรณีปรากฏรายชื่อพระในคลิปมีความสัมพันธ์กับ “สีกา ก.” จนถึงขั้นปาราชิก หนึ่งในนั้นคือ พระปริยัติธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร และมีรายงานข่าวว่าท่านหายตัวจากวัดหลังจากตกเป็นข่าว ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังวัดกัลยาณมิตรฯ พบว่าพระของวัดทุกรูปลงโบสถ์เพื่อประกอบศาสนกิจเนื่องในวันเข้าพรรษา ภายในพระอุโบสถ ภายหลังประกอบศาสนกิจลงโบสถ์ของพระวัดกัลยาณมิตรฯ เสร็จสิ้น พระพรหมกวี เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ ได้ถ่ายรูปกับพระใหม่และพระสงฆ์ในวัด และให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปถ่ายภาพ พร้อมกับพูดคุยเบื้องต้น กรณีปรากฏชื่อของพระปริยัติธาดา เป็นหนึ่งในบุคคลในคลิปที่เกี่ยวข้องกับสีกา ก. ว่าส่วนตัวไม่ทราบ คนเราไม่ได้รู้เรื่องส่วนตัวของคนอื่น มองเป็นเรื่องธรรมชาติในสังคมที่มีทั้งคนดีและไม่ดี เรื่องนี้เป็นการกระทำส่วนบุคคล ส่วนตัวอยากเห็นคลิปเพื่อยืนยันว่าท่านเกี่ยวข้องอย่างไร และอยากถาม พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว เพื่อขอดูคลิปที่กล่าวอ้าง ถ้าภาพมันชัดเจนก็ต้องออกตามกฎ ซึ่งใครทำอะไรก็ได้อย่างนั้น เมื่อถามว่า พระปริยัติธาดา ออกไปจากวัดตั้งแต่เมื่อไร พระพรหมกวี บอกว่า ท่านออกไปจากวัด 6-7 วันแล้ว ก็ออกไปเฉยๆ ไม่ได้สึกออกไป และไม่รู้ว่าตอนนี้สึกหรือยัง แต่หากจะสึกต้องแจ้งมาที่วัด […]

ข่าวแนะนำ

พระปรางค์วัดอรุณ

ข่าวดี “พระปรางค์วัดอรุณฯ” ได้รับบรรจุขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลก

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.- “แพทองธาร” เผยข่าวดี “พระปรางค์วัดอรุณฯ” ได้รับบรรจุขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลกของยูเนสโกแล้ว นับเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยที่ได้ร่วมเป็นเจ้าของมรดกทางวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า “ข่าวดีของคนไทย “พระปรางค์วัดอรุณ ราชวรารามราชวรมหาวิหาร” ได้รับการบรรจุขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลก (Tentative List) ของยูเนสโกแล้วค่ะ ดิฉันได้รับรายงานจากคณะผู้แทนไทยในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก ณ กรุงปารีส แจ้งว่า ที่ประชุมได้รับทราบว่าพระปรางค์วัดอรุณฯ เป็นหนึ่งในรายชื่อบัญชีรายชื่อเบื้องต้น (Tentative List) นับเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการยกระดับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกอย่างสมบูรณ์ในอนาคต กระทรวงวัฒนธรรมมอบหมายให้กรมศิลปากรดำเนินการจัดทำเอกสารเสนอชื่อ (Nomination Dossier) ควบคู่กับการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และจัดการพื้นที่ตามหลักสากล เพื่อเตรียมความพร้อมสู่ขั้นตอนต่อไป ความคืบหน้านี้เป็นมากกว่าการอนุรักษ์สถานที่ แต่คือการยืนยันอัตลักษณ์ไทยที่งดงามและทรงคุณค่าในสายตาชาวโลก นับเป็นความภาคภูมิใจของคนไทย ที่ได้ร่วมเป็นเจ้าของมรดกทางวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่นี้” .-316 สำนักข่าวไทย

ตรวจสอบรายรับรายจ่ายวัดใหญ่จอมปราสาท

สมุทรสาคร 13 ก.ค. – เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบรายรับรายจ่ายของวัดใหญ่จอมปราสาท นำมาเทียบกับเส้นเงินของของเจ้าอาวาสที่หนีไป หลังตรวจพบโอนเงินให้สีกา ก. กว่า 1 ล้านบาท ที่วัดใหญ่จอมปราสาท ต.ท่าจีน อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. พร้อมด้วย พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. นำคณะเข้าพบ พระครูสาครสุตกิจ เจ้าคณะตำบลท่าฉลอม เจ้าอาวาสวัดน้อยนางหงษ์ คณะพระสงฆ์ (พระลูกวัด) วัดใหญ่จอมปราสาท ผู้นำชุมชน และคณะกรรมการวัด เพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ระบบการเงินในวัดใหญ่จอมปราสาท เพื่อนำไปเป็นข้อมูลเกี่ยวกับการตรวจสอบเส้นทางการเงินของพระมหาทิวากร เจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท ที่ตรวจพบว่าได้โอนเงินกว่า 1 ล้านบาทไปให้สีกา ก. แต่ยังไม่มีเรื่องชู้สาวเข้ามาเกี่ยวข้อง ประเด็นที่ต้องการทราบเพิ่มเติมคือ เงินที่โอนให้สีกาเป็นเงินส่วนไหน แล้วเงินวัดมีรายรับจากที่ใดบ้าง มีรายจ่ายอย่างไร รวมถึง เงินวัดนั้นเข้าบัญชีใคร มีไวยาวัจกรณ์เบิกจ่ายหรือไม่ หรือใครเป็นผู้ทำหน้าที่รับและเบิกจ่ายเงินทั้งหมด ผู้ใหญ่บ้านชี้แจงว่า ทางวัดยังไม่มีไวยาวัจกรวัดคนใหม่ หลังจากคนเก่าลาออกไปเล่นการเมืองท้องถิ่น ส่วนเงินวัดนั้นเจ้าอาวาสเป็นผู้บริหารแต่เพียงผู้เดียว ซึ่งเงินวัดก็จะมีรายรับมาจากให้ที่จอดเรือบริเวณหน้าวัด ประมาณเดือนละ […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]