รมว. เกษตรฯ เร่งตั้งทีมงานสอบปัญหาการจัดสรรสิทธินมโรงเรียน

กรุงเทพฯ 27 ก.ย. – สมาคมกลุ่มเกษตรกรผู้รวบรวมนมและสมาคมผู้ผลิตนมพาสเจอร์ไรส์ร้องเรียนว่า อสค.เอื้อประโยชน์ผู้ประกอบการรายใหญ่ รมว. เกษตรฯ เร่งตั้งทีมงานไต่สวนข้อเท็จจริง อีกทั้งสั่งการปลัดกระทรวงฯ ส่งหนังสือทุกหน่วยงาน ตรวจสอบทั้งจำนวนเด็กนักเรียนเทอม 2 ปริมาณน้ำนมดิบที่ผลิตจริงให้ชัดก่อนทำโควตา ปิดช่องทุจริต


  

นายกฤษฏา บุญราช  รมว.เกษตรและสหกรณ์   กล่าวภัยหลังสมาคมกลุ่มเกษตรกรผู้รวบรวมน้ำนมดิบและสมาคมผู้ผลิตนมพาสเจอร์ไรส์เข้าร้องเรียนปัญหาการจัดสรรสิทธินมโรงเรียนไม่เป็นธรรม  ว่า ได้ตั้งคณะทีมงานรัฐมนตรีไปไต่สวนข้อเท็จจริงการทำงานขององค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย(อสค.)ว่าการบริหารในโครงการอาหารเสริมนมโรงเรียน มีผลประโยชน์ทับซ้อนหรือไม่  เพราะสมาคมผู้ผลิตนมพาสเจอร์ไรส์ ร้องว่าการทำงานของ ผอ.อสค. เอื้อประโยชน์ต่อผู้ผลิตนมรายใหญ่ทำให้เกิดการผูกขาดและไม่เป็นธรรมต่อรายย่อยมานาน  ซึ่งหากคณะทำงานที่ตั้งไปพบร่องรอยตามข้อกล่าวหาก็จะตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง ผอ.อสค.และยังได้สั่งให้ปลัดกระทรวงเกษตรฯทำหนังสือด่วนถึง ผอ.อสค. และอธิบดีปศุสัตว์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ และกระทรวงศึกษาธิการ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อตรวจสอบจำนวนนักเรียนในเทอม 2 ปี 2561 ว่ามีจำนวนเท่าไหร่ที่ชัดเจนเพื่อจะได้นำมาจัดสรรสิทธิ์ให้กับผู้ประกอบการนมโรงเรียน เพราะหากเด็กลดลงก็จะประหยัดงบประมาณได้เนื่องจากจำนวนเด็ก ลดลงทุกปี นอกจากนั้นให้แต่ละสมาคมไปดูว่ามีการคดีความอะไรที่ยังไม่หมดอายุความและมีคนในสังกัดกระทรวงเกษตรฯไปเกี่ยวข้อง หรือกรมไหนรับใต้โต๊ะแลกโควตานม ให้เอาชื่อหลักฐานมาให้ตน หากพบว่ามีมูลจะดำเนินการโดยเฉียบขาด 


  

พร้อมกันนี้ได้สั่งการให้อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ไปตรวจสอบการทำเอ็มโอยูการซื้อนมทั้งหมด เนื่องจากมีข้อร้องเรียนมากว่า มีการทำ เอ็มโอยูเท็จ   ทำให้จำนวนตัวเลขผลผลิตนมไม่ตรงกับปริมาณนมจริง และให้กรมปศุสัตว์ตรวจสอบคุณสมบัติของผู้เข้าโครงการและ  ตรวจสอบศูนย์รวบรวมนมใหม่ทั้งหมด ให้เสร็จภายใน 7 วัน เพื่อนำมาตรวจสอบและมากำหนดระเบียบการทำโควตานมใหม่ให้ทันเทอม 2/2561 เพราะจากปัญหาที่สมาคมต่างๆมาร้องเรียน มักจะวนอยู่ที่  โควตานมและความต้องการนมที่ไม่เท่ากันทุกเทอม  จำนวนวัวนมที่ให้ผลผลิต และจำนวนผู้ประกอบการที่มีปรับเพิ่มขึ้นทุกปี รวมทั้งแต่ละศูนย์รวบรวมปริมาณนมไม่เท่ากันทุกเทอม ต้องขอใหม่ทุกเทอม ส่วนทางกับจำนวนเด็กที่ลดลง ทำให้เกิดข้อขัดแย้งเกิดขึ้นต่อเนื่อง 

รมว.เกษตรฯ กล่าวว่า ได้สั่งการทุกฝ่ายเกี่ยวข้องให้ไปหารือเรื่องปริมาณนมดิบแต่ละวัน และให้แยกกองให้ชัดว่าเป็นนมโรงเรียนเท่าไหร่  นมพาณิชย์เท่าไหร่และให้แยกลงไปรายละเอียดว่าเป็นนมพาสเจอร์ไรส์ เท่าไหร่ และนมยูเอชทีเท่าไหร่  หาสูตรให้ชัดแล้วมากคุยกัน เพื่อเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และหลักเกณฑ์ต้องเป็นธรรมด้วย 


ทั้งนี้ได้กำชับให้ตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีปี2552 ให้ชัดว่า กำหนดให้นักเรียนดื่มขนาดกี่มิลลิลิตรต่อคน  กี่วันต่อสัปดาห์ และกี่วันต่อปี เพราะเรื่องนี้ทะเลาะกันไม่จบ และเอาจำนวนเด็กเป็นที่ตั้ง    เรื่องนี้มันยุ่งยาก   ไม่ใช่เอาตัวเลขมาหารก็จบ เพราะมีปัญหาทับซ้อนมานาน ต้องหาสูตรที่เป็นธรรมกับทุกฝ่าย ย้ำว่า สัปดาห์หน้าต้องหาสูตรคำนวณการจัดสรรโควต้าให้เสร็จ    

นายกฤษฏา กล่าวว่าตัวเลขการใช้นมโรงเรียนขณะนี้ยังทะเลาะกันมากเพราะไม่ตรงกัน โดยอสค.ระบุว่าใช้  1,170  ตันต่อวัน แต่ทางสมาคมนมพาสเจอร์ไรส์ชี้แจงว่าใช้วันละ 1,400  ตันต่อว่า เด็กดื่ม 200 มิลลิลิตร ต่อวัน งบประมาณรัฐจ่ายให้เด็กรายละ 7  บาทต่อกล่อง แต่สมาคมนมพาสฯบอกว่านม 206 มิลลิลิตรต่อวัน  ซึ่งจำนวนเด็ก  7.4 ล้านคน  วัวนม 6 แสนตัว แต่ให้ผลผลิต 3 แสนตัวต่อวัน  เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม  1.7 แสนครัวเรือน  ฝากให้ช่วยคิดสูตรนมโรงเรียน  ควรจะให้แต่ละจังหวัดไปดำเนินการจัดซื้อกันเองดีหรือไม่ และไปประมูลตามระเบียบราชการกันเอง คุมกันเอง  เพราะตนเป็นคนคิดทฤษฏีการตลาดนำการผลิต  ก็ช่วยกันดูว่าทำอย่างไรผลผลิตจะไม่ล้นตลาด 

 ด้านนายวสันต์ จีนหลง  นายกสมาคมนมพาสเจอร์ไรซ์ กล่าวว่าปริมาณน้ำนมดิบที่ผลิตทั้งประเทศ  3,433  ตัน  สหกรณ์ผู้เลี้ยงโคนม ผลิต  1,990  ตัน  ที่เหลือมาจากผู้เลี้ยงรายย่อย 1,443 ตัน  ทำนมโรงเรียน 1,170 ตัน ต่อวัน ทำนมพาณิชย์ 1,880 ตัน  ถามนมที่เหลือจะไปไหน  ที่ผ่านมา อสค. ทำหน้าที่ตัวกลางจัดสรรสิทธิ์  ซึ่งเรื่องนี้ต้องอ้างคำท้วงติงของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ปปช.)ที่ระบุว่าอสค.ผลประโยชน์ทับซ้อน ดังนั้นต้องลดการผูกขาด  ซึ่งในเรื่องนี้เคยเสนอแล้วว่าผลิตภัณฑ์นมให้ใช้ยี่ห้อกลางคือ โบว์ทอง  เพื่อรับรองคุณภาพว่าเป็นนมคุณภาพ เพื่อเพิ่มช่องทางจำหน่ายทั้งในประทศและในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งนี้เกษตรกรผู้เลี้ยงวัวนมเพิ่มทุกปี แต่อสค. เอื้อประโยชน์ต่อผู้เลี้ยงไม่กี่กลุ่มตั้งแต่ปี  53-61  ที่จะวนอยู่รายใหญ่ในไม่กี่กลุ่ม อสค.จะอ้างว่าโควตานมโรงเรียนจำกัดเพราะ อสค. นอกจากนั้นจัดสรรสิทธิ์แล้วยังเป็นผู้จำหน่ายเองด้วย   ซึ่งจะเห็นจากสัดส่วนนำเข้านมผงเพิ่มขึ้นทุกปี   และไม่มีประเทศไหนในโลกที่ใช้วิธีจัดซื้อนมแบบนี้  เขาใช้ระบบสากลกันหมดแล้ว  ซึ่งการแข่งขันจะเกิดการพัฒนา. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไฟไหม้รถยนต์ อดีต สส.ศิริโชค วอดทั้งคัน

สงขลา 5 ก.ค.-“ศิริโชค” อดีต สส.ปชป. เผยเหตุระทึก รถยนต์ PHEV ไฟลุกไหม้วอดทั้งคันกลางดึก ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ ภาพคลิปเหตุการณ์ไฟไหม้รถยนต์ส่วนตัวของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งจอดอยู่บริเวณบ้านพักที่ อ.นาทวี จ.สงขลา ช่วงตี 3 เมื่อเช้ามืดที่ผ่านมา (5 ก.ค.68) โดยเพจเฟซบุ๊ก “ศิริโชค โสภา” ได้โพสต์คลิปเหตุการณ์ พร้อมระบุข้อความว่า “อุทาหรณ์สยอง! ผมตื่นมากับเปลวเพลิงกลางดึก-ไฟลุกท่วมรถ PHEV ทั้งคัน ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ! เช้ามืดวันนี้ ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมเสียง “ปะทุ” ดังสนั่นกลางความเงียบของตีสาม…เมื่อรีบวิ่งออกมาดู สิ่งที่ผมเห็นคือเปลวไฟสีส้มแดงกำลังลุกโชนอย่างบ้าคลั่งจากรถยนต์ PHEV ที่จอดนิ่งหน้าบ้าน ตอนนั้นผมไม่ได้เสียบชาร์จไว้ด้วยซ้ำ-จอดไว้เฉยๆ แต่จู่ๆ ไฟกลับลุกขึ้นมาเอง โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าแม้แต่นิดเดียว รถดับเพลิงต้องใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะควบคุมเพลิงได้ และเมื่อไฟดับลง… สิ่งที่เหลืออยู่คือซากรถที่ไหม้เกรียมทั้งคันนี่ไม่ใช่แค่ความเสียหาย แต่คือคำเตือนที่น่ากลัวสำหรับผู้ใช้รถ EV และ PHEVแม้ไม่ได้ชาร์จ แม้จอดนิ่ง แบตเตอรี่ก็ยังมีโอกาสลุกไหม้ได้เองโดยไม่ทันตั้งตัว ไฟฟ้าเงียบ-แต่มันเผาผลาญทุกอย่างได้ในพริบตา ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ […]

ตาขับรถทับศีรษะหลานวัย 1 ขวบ ดับสลด

สุราษฎร์ธานี 5 ก.ค. – สุดสลด ตาขับรถกระบะไม่ทันดู เหยียบศีรษะหลานสาว วัย 1 ขวบ 5 เดือนเสียชีวิตคาที่ ตายายร้องไห้แทบขาดใจ สุดสลด ตาขับรถกระบะไม่ทันดู เหยียบศีรษะหลานสาว วัย 1 ขวบ 5 เดือนเสียชีวิตคาที่ หลังจากที่ตากลับจากซื้อของที่ตลาด เมื่อมาถึงบ้านซึ่งเปิดเป็นร้านขายของชำในอำเภอพระแสง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ขนของลงจากรถเสร็จ ระหว่างจะนำรถไปจอดไม่ทันสังเกตว่าหลานวิ่งอ้อมรถมา รู้อีกทีล้อรถหน้าด้านคนขับเหยียบเข้าที่ศีรษะของหลานแล้ว ทำให้หลานเสียชีวิตทันที เมื่อเห็นร่างหลาน ตาและยายร้องไห้แทบขาดใจ เพราะเลี้ยงหลานคนนี้มาตั้งแต่เล็กๆ ก่อนนำร่างส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลพระแสงต่อไป.- สำนักข่าวไทย

อ.อ๊อด ชี้เป็นเหตุการณ์ที่ไม่ปกติ กรณีรถยนต์ไฟฟ้า อดีตสส.สงขลา ไฟไหม้

นครปฐม 5 ก.ค. – อาจารย์อ๊อด นักวิชาการสาขาเคมีอินทรีย์ แสดงความคิดเห็นว่า กรณีรถยนต์ไฟฟ้าของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา เกิดไฟไหม้ ถือเป็นเหตุการณ์ไม่ปกติ และแบตเตอรี่อาจจะมีปัญหา จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก Sirichok Sopha หรือ นายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ แชร์ประสบการณ์ โดยระบุข้อความว่า “เช้ามืดวันนี้ ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมเสียง “ปะทุ” ดังสนั่นกลางความเงียบของตีสาม…เมื่อรีบวิ่งออกมาดู สิ่งที่ผมเห็นคือเปลวไฟสีส้มแดงกำลังลุกโชนอย่างบ้าคลั่งจากรถยนต์ PHEV ที่จอดนิ่งหน้าบ้าน รถคันนี้ซื้อจากศูนย์หาดใหญ่เมื่อ 2 ปีก่อน ผมใช้งานตามปกติ และที่สำคัญคือ ตอนนั้นผมไม่ได้เสียบชาร์จไว้ด้วยซ้ำ-จอดไว้เฉยๆแต่จู่ๆ ไฟกลับลุกขึ้นมาเอง โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าแม้แต่นิดเดียวรถดับเพลิงต้องใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะควบคุมเพลิงได้ และเมื่อไฟดับลง… สิ่งที่เหลืออยู่คือ ซากรถที่ไหม้เกรียมทั้งคันนี่ไม่ใช่แค่ความเสียหาย แต่คือคำเตือนที่น่ากลัวสำหรับผู้ใช้รถ EV และ PHEVแม้ไม่ได้ชาร์จ แม้จอดนิ่ง แบตเตอรี่ก็ยังมีโอกาสลุกไหม้ได้เองโดยไม่ทันตั้งตัวไฟฟ้าเงียบ-แต่มันเผาผลาญทุกอย่างได้ในพริบตา” รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ หรือ อาจารย์อ๊อด นักวิชาการสาขาเคมีอินทรีย์ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายนวัตกรรมและกิจการเพื่อสังคม […]

สพฐ. จัดทีมนิติกรช่วยครูการเงิน

กทม. 5 ก.ค.-สพฐ. จัดทีมนิติกรช่วยครูการเงิน กรณีถูกชี้มูลร่วมลงชื่อเบิกจ่ายค่าอาหารกลางวัน วันที่ 4 กรกฎาคม 2568 ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เปิดเผยว่า ตามที่มีรายงานข่าวผ่านสื่อสังคมออนไลน์ กรณีข้าราชการครูผู้รับผิดชอบงานการเงินของโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรี ได้ร้องขอความเป็นธรรมภายหลังถูกชี้มูลความผิดร่วมกับอดีตผู้อำนวยการโรงเรียน จากการลงนามในเอกสารเบิกจ่ายค่าอาหารกลางวัน โดยยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดนั้น สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาต้นสังกัด และยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่มีคำสั่งลงโทษทางวินัยออกโดยเขตพื้นที่ฯ แต่อย่างใด สำหรับการดำเนินการในขั้นต่อไป สพฐ. ได้จัดเตรียมนิติกรจากส่วนกลาง เพื่อสนับสนุนการให้คำปรึกษาทางกฎหมายและการรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ครูสามารถใช้สิทธิในการอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ตามมาตรา 99 แห่งพระราชบัญญัติ ป.ป.ช. พ.ศ. 2561 ได้อย่างเต็มที่ เลขาธิการ กพฐ. ระบุว่า กรณีนี้สะท้อนถึงความจำเป็นที่ต้องทบทวนบทบาทภาระงานของครูในภารกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับการจัดการเรียนการสอน โดยเฉพาะงานด้านการเงินและพัสดุ ซึ่งมีความซับซ้อนและมีความเสี่ยงเชิงกฎหมายสูง สพฐ. จึงอยู่ระหว่างการปรับปรุงระบบสนับสนุนภายในโรงเรียน เพื่อให้โครงสร้างงานสนับสนุนมีความเหมาะสมกับวิชาชีพครูมากยิ่งขึ้น “ข้าราชการครูที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุจริตจะไม่ต้องเผชิญกระบวนการตามลำพัง สพฐ. พร้อมอยู่เคียงข้างและสนับสนุนในทุกขั้นตอน เพื่อให้สามารถใช้สิทธิและเข้าถึงความเป็นธรรมได้อย่างมั่นใจครับ” เลขาธิการ กพฐ. กล่าว.-416.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

รวบแล้วมือเผารถ “ศิริโชค” ญาติเผยจิตไม่ปกติ

6 ก.ค. – จับได้แล้ว มือวางเพลิงรถยนต์ “ศิริโชค” ตำรวจเค้นสอบ ยอมรับก่อเหตุจริง ญาติเผยจิตไม่ปกติ พูดคนเดียวมาหลายเดือน ด้าน “ศิริโชค” ไม่เชื่อลงมือเองจากอาการทางจิต น่าจะมีคนสั่งการอยู่เบื้องหลัง กล้องวงจรปิดจับภาพนายเบียร์ อายุ 29 ปี ขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาในซอยบ้านพักของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.เขต 7 สงขลา 4 สมัย พรรคประชาธิปัตย์ ช่วงตี 3 คืนวานนี้ (5 ก.ค.) ต.ฉาง อ.นาทวี จ.สงขลา และไปคุยกับคนเฝ้าบ้านนายศิริโชค ที่ประตูหน้าบ้าน ก่อนขี่รถออกไป จากนั้นช่วงเวลา 03.45 น. นายเบียร์ขี่รถย้อนกลับเข้าไปในซอยบ้านของนายศิริโชคอีกครั้ง ก่อนจะมีข่าวรถยนต์ GWM HAVAL H6 PHEV หรือปลั๊กอิน-ไฮบริด กึ่งไฟฟ้ากึ่งน้ำมัน เกิดเพลิงไหม้เสียหายหมดทั้งคัน ซึ่งขณะนั้น ยังไม่มั่นใจว่าเกิดจาะระบบรถยนต์ขัดข้อง หรือสาเหตุอย่างอื่น จนเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเป็นที่แน่ชัดว่า นายเบียร์เป็นคนก่อเหตุวางเพลิงรถยนต์ของนายศิริโชค […]

“โรม” ควง “เท้ง” ลงพื้นที่สระแก้ว ดูชายแดนไทย-กัมพูชา

สระแก้ว 6 ก.ค. – “โรม” ควง “เท้ง” ลงพื้นที่สระแก้ว ดูชายแดนไทย-กัมพูชา “สอบสวนกลาง-ดีเอสไอ-หน่วยงานปกครอง” ลงด้วยเพียบ สงสัยฝั่งตรงข้ามเป็นฐานสแกมเมอร์-คอลเซ็นเตอร์ หรือไม่ แย้มมีข้อมูลทุนใหญ่เป็นหลังบ้านผู้มีอำนาจกัมพูชา เจอแน่ปิดห้องคุยพรุ่งนี้ แนะสร้างเสาเซ็นเซอร์ตรวจจับชายแดน หมาแมวตรวจได้หมด หากลักลอบเข้า ด้าน “ชุติพงศ์” โวย เขมรไม่ทำรั้ว-รับผิดชอบ ปล่อยผ่านคนลักลอบเข้าออก นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร​ ลงพื้นที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว​ ร่วมกับคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ​ สภาผู้แทนราษฎร​ เพื่อดูการแก้ไขปัญหาความมั่นคงและการบริหารกิจการชายแดนไทย-กัมพูชา​ โดยมีหน่วยงานความมั่นคง​ นายอำเภอ​ กรมการปกครอง รวมถึงเจ้าหน้าที่จากกรมสอบสวนคดีพิเศษ และกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ลงพื้นที่ด้วย จุดแรกมาที่บริเวณด้านหลังห้างสรรพสินค้า​อรัญประเทศ​ โดย พ.อ.เมธี คำเต็ม ผู้บังคับการชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 12 กองกำลังบูรพา รายงาน​ว่า​ จุดนี้​เป็นพื้นที่​ที่การข่าวแจ้งว่า​ใช้เป็นช่องทางลักลอบข้ามไปฝั่งกัมพูชา​ เป้าหมายไปทำงานหรือเล่นการพนัน​ ปัจจุบันได้ซีลพื้นที่ตรงนี้แล้ว แต่ก็มีการลักลอบเข้าออกตลอด แม้จะมีสถานการณ์ไทย-กัมพูชา […]

“บิ๊กเต่า” ขอเวลาตรวจสอบให้ชัด คลี่ปมพัวพันสีกา ก.

6 ก.ค.- “บิ๊กเต่า” เผยคำให้การสีกา ก. เป็นประโยชน์ อาจโยงไปถึงการทุจริต แต่ขอเวลาตรวจสอบให้ชัด เตรียมประชุมคณะทำงานสัปดาห์หน้า เรียกผู้เกี่ยวข้องสอบเพิ่มเติม ยืนยันหากพบใครเอี่ยวพร้อมดำเนินคดี 12.00 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยถึงกรณีการเรียกตัวสีกาอักษรย่อ ก. มาสอบปากคำ ว่า หลังจากนำตัวสีกา ก. มาสอบ ก็ได้ข้อมูลในแนวทางที่ดีและมีประโยชน์ อาจนำไปสู่เรื่องที่อาจเอี่ยวกับการทุจริต แต่ก็จะต้องมีการตรวจสอบให้ละเอียด เพราะทุกอย่างต้องชัดเจน เนื่องจากคำให้การอย่างเดียวไม่พอ ต้องมีหลักฐานอื่นประกอบด้วย จากคำให้การของสีกา ก. ว่า มีการเล่นพนันออนไลน์ แล้วเงินที่ใช้เล่นเป็นเงินส่วนไหน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ตอบว่า “ตอนนี้ยังไม่สามารถบอกได้ แต่เขามีการเล่นพนันจริง” ตอนนี้มีการตั้งคณะทำงานตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว โดยมี ปปป. เป็นหน่วยงานหลักรับผิดชอบ เนื่องจากเรื่องนี้เกี่ยวพันหลายพื้นที่ ส่วนเรื่องบัญชีวัด ทางบก.ปปป. ก็มีอำนาจสามารถตรวจสอบได้เลย ประมาณวันจันทร์-อังคารที่จะถึงนี้ จะมีการประชุมถึงเรื่องนี้อีกครั้ง ผู้สื่อข่าวถามว่า สีกา ก. เคยทำให้พระสึกมาแล้วถึง 2 รูป จริงหรือไม่ […]

รวบ “สังข์” ผู้ต้องหาแหกห้องขัง สภ.เมืองสกลนคร

6 ก.ค.- ตำรวจบุกรวบ “สังข์” ผู้ต้องหาคดีอาวุธปืนและยาเสพติด หลังก่อเหตุแหกห้องขัง สภ.เมืองสกลนคร จนมุมบนขบวนรถไฟ ขณะเตรียมหลบหนีเข้ากรุงเทพฯ ตำรวจสอบสวนกลาง หรือ CIB จับกุมนายเกียรติศักดิ์ หรือ สังข์ อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาคดีอาวุธปืนและยาเสพติด ได้บนขบวนรถไฟ ขณะเตรียมหลบหนีเข้ากรุงเทพฯ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวมาลงบันทึกการจับกุมที่ สน.เตาปูน และอยู่ระหว่างการควบคุมตัวกลับมาดำเนินคดีที่ สภ.เมืองสกลนคร นายเกียรติศักดิ์ ก่อเหตุหลบหนีจากห้องควบคุม สภ.เมืองสกลนคร เมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 13 มิถุนายน เจ้าหน้าที่พบเบาะแสหลบซ่อนตัวบนเทือกเขาภูพาน ขณะเดียวกันโซเชียลพากันแชร์ภาพนายเกียรติศักดิ์ พบว่า เป็นบุคคลอันตรายที่อาจมีอาวุธ หากใครพบเห็นห้ามเข้าใกล้ ทั้งนี้ สภ.เมืองสกลนคร ได้ปูพรมค้นหาตามล่าตัวและตั้งรางวัลนำจับ เป็นเงิน 3 หมื่นบาทให้กับผู้แจ้งเบาะแส .-สำนักข่าวไทย