รมว. เกษตรฯ เร่งตั้งทีมงานสอบปัญหาการจัดสรรสิทธินมโรงเรียน

กรุงเทพฯ 27 ก.ย. – สมาคมกลุ่มเกษตรกรผู้รวบรวมนมและสมาคมผู้ผลิตนมพาสเจอร์ไรส์ร้องเรียนว่า อสค.เอื้อประโยชน์ผู้ประกอบการรายใหญ่ รมว. เกษตรฯ เร่งตั้งทีมงานไต่สวนข้อเท็จจริง อีกทั้งสั่งการปลัดกระทรวงฯ ส่งหนังสือทุกหน่วยงาน ตรวจสอบทั้งจำนวนเด็กนักเรียนเทอม 2 ปริมาณน้ำนมดิบที่ผลิตจริงให้ชัดก่อนทำโควตา ปิดช่องทุจริต


  

นายกฤษฏา บุญราช  รมว.เกษตรและสหกรณ์   กล่าวภัยหลังสมาคมกลุ่มเกษตรกรผู้รวบรวมน้ำนมดิบและสมาคมผู้ผลิตนมพาสเจอร์ไรส์เข้าร้องเรียนปัญหาการจัดสรรสิทธินมโรงเรียนไม่เป็นธรรม  ว่า ได้ตั้งคณะทีมงานรัฐมนตรีไปไต่สวนข้อเท็จจริงการทำงานขององค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย(อสค.)ว่าการบริหารในโครงการอาหารเสริมนมโรงเรียน มีผลประโยชน์ทับซ้อนหรือไม่  เพราะสมาคมผู้ผลิตนมพาสเจอร์ไรส์ ร้องว่าการทำงานของ ผอ.อสค. เอื้อประโยชน์ต่อผู้ผลิตนมรายใหญ่ทำให้เกิดการผูกขาดและไม่เป็นธรรมต่อรายย่อยมานาน  ซึ่งหากคณะทำงานที่ตั้งไปพบร่องรอยตามข้อกล่าวหาก็จะตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง ผอ.อสค.และยังได้สั่งให้ปลัดกระทรวงเกษตรฯทำหนังสือด่วนถึง ผอ.อสค. และอธิบดีปศุสัตว์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ และกระทรวงศึกษาธิการ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อตรวจสอบจำนวนนักเรียนในเทอม 2 ปี 2561 ว่ามีจำนวนเท่าไหร่ที่ชัดเจนเพื่อจะได้นำมาจัดสรรสิทธิ์ให้กับผู้ประกอบการนมโรงเรียน เพราะหากเด็กลดลงก็จะประหยัดงบประมาณได้เนื่องจากจำนวนเด็ก ลดลงทุกปี นอกจากนั้นให้แต่ละสมาคมไปดูว่ามีการคดีความอะไรที่ยังไม่หมดอายุความและมีคนในสังกัดกระทรวงเกษตรฯไปเกี่ยวข้อง หรือกรมไหนรับใต้โต๊ะแลกโควตานม ให้เอาชื่อหลักฐานมาให้ตน หากพบว่ามีมูลจะดำเนินการโดยเฉียบขาด 


  

พร้อมกันนี้ได้สั่งการให้อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ไปตรวจสอบการทำเอ็มโอยูการซื้อนมทั้งหมด เนื่องจากมีข้อร้องเรียนมากว่า มีการทำ เอ็มโอยูเท็จ   ทำให้จำนวนตัวเลขผลผลิตนมไม่ตรงกับปริมาณนมจริง และให้กรมปศุสัตว์ตรวจสอบคุณสมบัติของผู้เข้าโครงการและ  ตรวจสอบศูนย์รวบรวมนมใหม่ทั้งหมด ให้เสร็จภายใน 7 วัน เพื่อนำมาตรวจสอบและมากำหนดระเบียบการทำโควตานมใหม่ให้ทันเทอม 2/2561 เพราะจากปัญหาที่สมาคมต่างๆมาร้องเรียน มักจะวนอยู่ที่  โควตานมและความต้องการนมที่ไม่เท่ากันทุกเทอม  จำนวนวัวนมที่ให้ผลผลิต และจำนวนผู้ประกอบการที่มีปรับเพิ่มขึ้นทุกปี รวมทั้งแต่ละศูนย์รวบรวมปริมาณนมไม่เท่ากันทุกเทอม ต้องขอใหม่ทุกเทอม ส่วนทางกับจำนวนเด็กที่ลดลง ทำให้เกิดข้อขัดแย้งเกิดขึ้นต่อเนื่อง 

รมว.เกษตรฯ กล่าวว่า ได้สั่งการทุกฝ่ายเกี่ยวข้องให้ไปหารือเรื่องปริมาณนมดิบแต่ละวัน และให้แยกกองให้ชัดว่าเป็นนมโรงเรียนเท่าไหร่  นมพาณิชย์เท่าไหร่และให้แยกลงไปรายละเอียดว่าเป็นนมพาสเจอร์ไรส์ เท่าไหร่ และนมยูเอชทีเท่าไหร่  หาสูตรให้ชัดแล้วมากคุยกัน เพื่อเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และหลักเกณฑ์ต้องเป็นธรรมด้วย 


ทั้งนี้ได้กำชับให้ตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีปี2552 ให้ชัดว่า กำหนดให้นักเรียนดื่มขนาดกี่มิลลิลิตรต่อคน  กี่วันต่อสัปดาห์ และกี่วันต่อปี เพราะเรื่องนี้ทะเลาะกันไม่จบ และเอาจำนวนเด็กเป็นที่ตั้ง    เรื่องนี้มันยุ่งยาก   ไม่ใช่เอาตัวเลขมาหารก็จบ เพราะมีปัญหาทับซ้อนมานาน ต้องหาสูตรที่เป็นธรรมกับทุกฝ่าย ย้ำว่า สัปดาห์หน้าต้องหาสูตรคำนวณการจัดสรรโควต้าให้เสร็จ    

นายกฤษฏา กล่าวว่าตัวเลขการใช้นมโรงเรียนขณะนี้ยังทะเลาะกันมากเพราะไม่ตรงกัน โดยอสค.ระบุว่าใช้  1,170  ตันต่อวัน แต่ทางสมาคมนมพาสเจอร์ไรส์ชี้แจงว่าใช้วันละ 1,400  ตันต่อว่า เด็กดื่ม 200 มิลลิลิตร ต่อวัน งบประมาณรัฐจ่ายให้เด็กรายละ 7  บาทต่อกล่อง แต่สมาคมนมพาสฯบอกว่านม 206 มิลลิลิตรต่อวัน  ซึ่งจำนวนเด็ก  7.4 ล้านคน  วัวนม 6 แสนตัว แต่ให้ผลผลิต 3 แสนตัวต่อวัน  เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม  1.7 แสนครัวเรือน  ฝากให้ช่วยคิดสูตรนมโรงเรียน  ควรจะให้แต่ละจังหวัดไปดำเนินการจัดซื้อกันเองดีหรือไม่ และไปประมูลตามระเบียบราชการกันเอง คุมกันเอง  เพราะตนเป็นคนคิดทฤษฏีการตลาดนำการผลิต  ก็ช่วยกันดูว่าทำอย่างไรผลผลิตจะไม่ล้นตลาด 

 ด้านนายวสันต์ จีนหลง  นายกสมาคมนมพาสเจอร์ไรซ์ กล่าวว่าปริมาณน้ำนมดิบที่ผลิตทั้งประเทศ  3,433  ตัน  สหกรณ์ผู้เลี้ยงโคนม ผลิต  1,990  ตัน  ที่เหลือมาจากผู้เลี้ยงรายย่อย 1,443 ตัน  ทำนมโรงเรียน 1,170 ตัน ต่อวัน ทำนมพาณิชย์ 1,880 ตัน  ถามนมที่เหลือจะไปไหน  ที่ผ่านมา อสค. ทำหน้าที่ตัวกลางจัดสรรสิทธิ์  ซึ่งเรื่องนี้ต้องอ้างคำท้วงติงของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ปปช.)ที่ระบุว่าอสค.ผลประโยชน์ทับซ้อน ดังนั้นต้องลดการผูกขาด  ซึ่งในเรื่องนี้เคยเสนอแล้วว่าผลิตภัณฑ์นมให้ใช้ยี่ห้อกลางคือ โบว์ทอง  เพื่อรับรองคุณภาพว่าเป็นนมคุณภาพ เพื่อเพิ่มช่องทางจำหน่ายทั้งในประทศและในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งนี้เกษตรกรผู้เลี้ยงวัวนมเพิ่มทุกปี แต่อสค. เอื้อประโยชน์ต่อผู้เลี้ยงไม่กี่กลุ่มตั้งแต่ปี  53-61  ที่จะวนอยู่รายใหญ่ในไม่กี่กลุ่ม อสค.จะอ้างว่าโควตานมโรงเรียนจำกัดเพราะ อสค. นอกจากนั้นจัดสรรสิทธิ์แล้วยังเป็นผู้จำหน่ายเองด้วย   ซึ่งจะเห็นจากสัดส่วนนำเข้านมผงเพิ่มขึ้นทุกปี   และไม่มีประเทศไหนในโลกที่ใช้วิธีจัดซื้อนมแบบนี้  เขาใช้ระบบสากลกันหมดแล้ว  ซึ่งการแข่งขันจะเกิดการพัฒนา. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“มาริษ” เผยสวีเดนกังวลสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ยกหารือเวที UN พรุ่งนี้

สวีเดน 26 ส.ค.-“มาริษ” เผยสวีเดนกังวลสถานการณ์ไทย-กัมพูชา หลังกัมพูชาใช้โล่มนุษย์ยั่วยุในพื้นที่ต่อเนื่อง เตรียมยกเรื่องนี้หารือเวที UN ที่เจนีวา พรุ่งนี้ ยันยังไม่ส่งทูตกลับ จนกว่าเขมรแสดงให้เห็นว่าจริงใจ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวภายหลังการหารือทวิภาคีกับนางมารีอา มัลเมอร์ สเตเนอร์การ์ด (Maria Malmer Stenergard) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสวีเดน ถึงสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ที่มีการยั่วยุโดยใช้พลเรือนเป็นเครื่องมืออย่างต่อเนื่อง ว่า เรื่องนี้เป็นประเด็นที่หน่วยงานในพื้นที่ต้องช่วยกันระมัดระวังไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่งกัน เพราะเมื่อมีพลเรือนเข้ามาเกี่ยวข้อง ในการทำงานของทางทหารก็จะยากลำบาก อาจจะนำไปสู่การสร้างความตึงเครียดมากยิ่งขึ้น ดังนั้นหน่วยงานที่เป็นพลเรือนในพื้นที่ก็จำเป็นจะต้องเข้ามาดูแลและแก้ไขสถานการณ์ตรงนี้ นายมาริษ กล่าวว่า ในการพบหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสวีเดน ตนได้อธิบายให้เข้าใจว่า เรื่องนี้เป็นสิ่งที่กัมพูชาพยายามใช้ ซึ่งขัดต่อความตกลงในกฎบัตรสหประชาชาติเป็นอย่างมาก เหมือนกับใช้ประชาชนและพลเรือนเป็นโล่มนุษย์ เพื่อที่จะทำให้สถานการณ์แย่ลงไปอีก ถือเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง ซึ่งประเทศสวีเดนก็เข้าใจ และพรุ่งนี้ (27 ส.ค.) ตนจะมีโอกาสได้ชี้แจงกับที่ประชุม UN ที่นครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ ตนจะยกประเด็นนี้ขึ้นแสดงความห่วงกังวลว่า การใช้วิธีเอาพลเรือนมาเป็นตัวกดดัน หรือมาสร้างความตึงเครียด หรือขยายความตึงเครียดบริเวณชายแดนมากยิ่งขึ้น เป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำ […]

พายุคาจิกิเริ่มแผลงฤทธิ์ถล่มหลายจังหวัดภาคเหนือ น่านยกระดับรับมือ

26 ส.ค. – พายุคาจิกิเริ่มแผลงฤทธิ์แล้ว หลายจังหวัดทางภาคเหนือมีฝนตกกระหน่ำลงมาอย่างหนัก จนมีน้ำท่วมหลายพื้นที่ และต้องจับตาไปที่จังหวัดน่าน ซึ่งพายุคาจิกิเคลื่อนตัวเข้าสู่พื้นที่และเริ่มส่งผลกระทบตั้งแต่ช่วงค่ำวันนี้ ทำให้จังหวัดน่านยกรระดับมาตรการป้องกันและเตรียมรับมือกับน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่ม.-สำนักข่าวไทย

Gripen ที่จัดซื้อใหม่ประสิทธิภาพดีกว่าลำเดิมที่มีอยู่

สวีเดน 26 ส.ค. – แม้รัฐบาลไทยและสวีเดนได้ลงนามความร่วมมือซื้อเครื่องบินขับไล่โจมตีกริพเพน E และ F ไปแล้ว แต่กว่าจะได้รับเครื่อง จะต้องใช้เวลาอีกอย่างน้อย 4 ปี ระหว่างนี้จะมีการวางกรอบพัฒนาร่วมกัน แน่นอนว่ารุ่นใหม่สเปกใหม่ดีกว่ารุ่นเก่าที่เรามี แตกต่างอย่างไร ติดตามจากรายงาน.-สำนักข่าวไทย

คนไทยรวมพลังร้องเพลงชาติกึกก้องบ้านหนองจาน

26 ส.ค. – ชาวไทยกว่า 500 คน รวมตัวร้องเพลงชาติ ชูธงไตรรงค์เหนือศีรษะ บริเวณชายแดนบ้านหนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว แสดงพลังเชิงสัญลักษณ์ว่าแผ่นดินนี้คือแผ่นดินไทย เมื่อเวลา 12.30 น. วันนี้ (26 ส.ค.68) ประชาชนไทยกว่า 500 คน มารวมตัวกันบริเวณชายแดนบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ชูธงไตรรงค์เหนือศีรษะ และร่วมกันร้องเพลงชาติไทย จนเสียงดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ เพื่อแสดงพลังเชิงสัญลักษณ์ว่าแผ่นดินนี้คือแผ่นดินไทย และพร้อมยืนหยัดเคียงข้างกองทัพในการปกป้องอธิปไตย ชาวบ้านยังจัดเตรียมอาหาร น้ำดื่ม และสิ่งของจำเป็น ไปมอบให้ทหาร เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ ด้านเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง เข้าควบคุมสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และขอความร่วมมือประชาชนที่มาร่วมชุมนุมให้อยู่ในแนวพื้นที่ที่กำหนดไว้เพื่อป้องกันการเผชิญหน้า “เจ๊เอ๋” ณัฐฐารินทร์ เกษมสารพิพัฒน์ เจ้าหนี้คนดัง บอกว่า วันนี้ประชาชนคนไทยต้องมาเผชิญหน้ากับชาวกัมพูชาด้วยตัวเอง เพราะผู้มีหน้าที่โดยตรงนิ่งเฉย ส่วนที่บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว พลเอกมนัส จันดี เสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย และพลโทวันชนะ สวัสดี นำคณะลงพื้นที่ พบมีชาวกัมพูชาสร้างบ้านเรือนรุกล้ำเขตไทย 18 หลัง […]