กรุงเทพฯ 26 ก.ย.- ตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง หลังชายชาวโคราชร้องให้ตรวจสอบการวัดค่าควันดำของตำรวจนครสวรรค์ แย้งกับผลตรวจของ บ.เอกชน
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยถึงกรณี มาร์ค พิทบูล และนายอดุลย์ พรรณนา ได้เดินทางมาร้องเรียนขอความเป็นธรรมที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรณีนายอดุลย์ พรรณนา ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์บังคับการจราจร ภ.จว.นครสวรรค์ ได้เปรียบเทียบปรับกรณีค่าควันดำเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด นั้น โดยได้รับรายงานจาก ภ.จว.นครสวรรค์ ว่าเมื่อวันที่ 17 กันยายน 2561 เวลาประมาณ 11.00 น.ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปฏิบัติหน้าที่ตั้งจุดตรวจมลพิษทางรถยนต์ตามแผนการตั้งจุดตรวจ บริเวณจุดตรวจบ้านแดน อ.บรรพตพิสัย จว.นครสวรรค์ ได้มี นายอดุลย์ พรรณนา (ทราบชื่อในภายหลัง) ได้ขับขี่รถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า หมายเลขทะเบียน บม 6531 ชัยภูมิ เข้ามาในจุดตรวจ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเรียกให้หยุด และตรวจวัดค่าควันดำ โดยใช้เครื่องตรวจวัดของ กรมควบคุมมลพิษ และใช้วิธีการตรวจตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่องกำหนดมาตรฐานค่าควันดำของรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์แบบจุดระเบิดด้วยการอัด ผลปรากฏว่าตรวจวัดค่าปริมาณควันดำครั้งแรกได้ 80 เปอร์เซ็นต์ และตรวจวัดครั้งที่ 2 ได้ 83 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกใบสั่งเจ้าพนักงานจราจร ให้นายอดุลย์ ในความผิดฐาน นำรถที่มีเครื่องยนต์ก่อให้เกิดก๊าซ ฝุ่น ควัน ละอองเคมี หรือเสียงเกินเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนดมาใช้ในทาง และกำหนดอัตราค่าปรับในใบสั่ง จำนวน 1,000 บาท ตามข้อกำหนดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งนายอดุลย์ฯเข้าใจ ขั้นตอนวิธีการตรวจวัดและรับใบสั่ง โดยทั้งนี้นายอดุลย์ฯ ได้รับสารภาพและได้ขอชำระค่าปรับจำนวน 1,000 บาทแก่พนักงานสอบสวนเพื่อเปรียบเทียบปรับที่ด่านตรวจ โดยภายหลังนายอดุลย์ฯ นั้น ก็ออกจากด่านตรวจไป จนกระทั่งต่อมาได้เป็นข่าวในสื่อออนไลน์ในเวลาต่อมา
รอง โฆษก ตร. กล่าวต่ออีกว่า การตั้งจุดตรวจดังกล่าวนั้น ได้มีการปฏิบัติอย่างถูกต้องตามกรอบขั้นตอนของกฎหมาย โดยมีเจ้าหน้าที่สัญญาบัตรร้อยตำรวจตรี ขึ้นไปเป็นหัวหน้าชุด แต่งเครื่องแบบขณะปฏิบัติหน้าที่แสดงตนชัดเจน ประกอบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จุดตรวจนั้นเป็นผู้ที่มีความรู้ ความสามารถ ผ่านการอบรมและฝึกฝนจากเจ้าหน้าที่กรมควบคุมมลพิษอย่างสม่ำเสมอ โดยเครื่องมือที่ใช้ตรวจวัดค่าควันดำดังกล่าวได้เบิกมาจากกรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ไม่ใช่เครื่องของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่อย่างใด โดยเครื่องดังกล่าวใช้สำหรับตรวจวัดค่าควันดำที่ได้มาตรฐานโดยตรง กับทั้งได้ปฏิบัติในการตรวจวัดค่าควันดำรถทุกคันที่ผ่านเข้ามาในจุดตรวจโดยไม่มีข้อยกเว้น โดยหากตรวจสอบแล้วพบว่าเกินกว่าค่าที่กฎหมายกำหนด ก็จะได้กำหนดค่าปรับในอัตรา ตามข้อกำหนดของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทั้งนี้ขั้นตอนในการตรวจวัดควันดำนั้นได้ปฏิบัติตามประกาศของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
อย่างไรก็ตามกรณีที่นายอดูลย์ฯนั้นอ้างว่า นำรถยนต์ไปตรวจที่สถานตรวจสภาพรถ ได้ค่าควันดำไม่ตรงกันกับ ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจโดยเครื่องมือจากกรมควบคุมมลพิษนั้น ได้มีการตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวแล้ว เพื่อให้เกิดความโปร่งใส ถูกต้อง เป็นธรรม สามารถตอบคำถามสังคม และสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชน.-สำนักข่าวไทย