กรุงเทพฯ 21 ก.ย. – กระทรวงเกษตรฯ เดินหน้าเร่งพัฒนาการประมง 4 ด้าน สอดคล้องยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี พร้อมสร้างขวัญกำลังใจข้าราชการ ตั้งคณะทำงานศึกษาสาเหตุที่มีข้าราชการลาออกจำนวนมาก
นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวในการเปิดงานครบรอบ 92 ปี กรมประมง ว่า หน้าที่ของกรมประมงมีลักษณะเช่นเดียวกับกรมป่าไม้ที่ต้องใช้ทั้งพระเดชและพระคุณ มีอำนาจบังคับใช้กฎหมาย ดังนั้น คนกรมประมงทุกระดับจนถึงอธิบดีต้องมีวินัย เพราะมีเรื่องเข้ามาทดสอบความเข้มแข็งด้านจิตใจและอารมณ์ตลอด ดังนั้น อย่าแตกความสามัคคีจะทำให้หย่อนยาน ต้องมีความเข้าใจรู้ทิศทางงานกรมมีงาน 2 ด้าน การทำประมงระหว่างประเทศต้องรักษามาตรฐานตามกติกาสากล แต่การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำอย่าละเลย และสิ่งสำคัญ คือ การดูแลชาวประมงในประเทศ รวมทั้งขณะนี้มีการปรับโครงสร้างและมีกฎหมายใหม่ จนขณะนี้ทราบว่าข้าราชการกรมประมงลาออกจำนวนมาก จึงได้ตั้งคณะทำงานดูแลปัญหานี้ รวมถึงกฎหมาย พ.ร.บ.ประมง กฎกระทรวง โดยให้นายนิวัติ สุธีมีชัยกุล อดีตอธิบดีกรมประมง เป็นประธานศึกษากฎระเบียบที่กรมประมงออกใหม่อาจสร้างความเดือดร้อนให้ชาวประมงพื้นบ้าน ซึ่งจะต้องนำมาตรวจสอบกับกติกาสากล เมื่อตรวจสอบแล้วเป็นเรื่องจำเป็นก็ต้องใช้ แต่ถ้ากระทบชาวประมงไทยต้องไปหารือกับทูตสหภาพยุโรป (อียู) เพื่อให้ชาวประมงมีช่องทางทำมาหากินได้
ทั้งนี้ กรมประมงมีการพัฒนาการประมงของไทยที่สำคัญทั้ง 4 ด้านอย่างชัดเจนสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และนโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้แก่ 1.ด้านการพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ 2. ด้านการพัฒนาและตรวจสอบสินค้าประมงให้มีมาตรฐาน 3.ด้านการบริหารจัดการด้านการประมงและทรัพยากรสัตว์น้ำ และ 4.ด้านการบริหารจัดการองค์การ
นายกฤษฎา กล่าวว่า อยากให้ข้าราชการกรมประมงมีขวัญกำลังใจมีจิตสำนึก ขนาดตนยังถอดสูทลงไปคุยกับม็อบหนี้สินเกษตรกรมานอนค้างหน้ากระทรวง เพราะตอนแรกที่ม็อบมาสองวัน เจ้าหน้าที่ก็บอกไม่ต้องลงไปพบ เพราะเกษตรกรบางเป็นพวกนอกกติกา แต่ละคนล้วนมีหนี้เกิน 2.5 ล้านบาท ตนจึงให้เจ้าหน้าที่ไปคุยกับม็อบกลุ่มนี้ ปรากฎว่า2 วันก็ไม่จบ และคิดดูเป็นรมต.เกษตรฯจะให้เดินผ่านม็อบนอนตากฝน ตากแดด ไปได้ยังงัย ต้องถอดสูท ลงไปคุยกับชาวบ้าน ต่อรองหนี้สินกับนายธนาคาร สุดท้ายก็แก้ได้ คนเป็นข้าราชการโดยเฉพาะคนกระทรวงเกษตรฯ ต้องเดินไปคุยกับชาวบ้านลงพื้นที่ แม้จะโดนต่อว่าบ้างก็ต้องอดทน เพราะเราเป็นข้าราชการบริการประชาชน มีความมุ่งมั่น อดทน ตนเป็นนายอำเภอกว่า 1 ทศวรรษ เป็นผู้ตรวจราชการ อีก 2 ปีครึ่งจนได้เป็นหัวหน้าผู้ตรวจ พอมีเรื่องปล้นปืนที่ปัตตานี -ยะลา ก็มีตำแหน่งว่างตนจึงได้ขึ้น
“สื่อถามจะลงการเมืองไหม ขอทำงานตรงนี้ให้ดีที่สุดก่อน และคิดว่าพอแล้วชีวิตคนต้องมีความพอ ตลอดรับราชการไม่ทำทุจริตคอร์รัปชั่น สมัยเป็นนายอำเภอชาวบ้านมายื่นขอทะเบียนปืนกันทุกวัน ให้ไปปลูกต้นไม้คนละ 5 ต้น แล้วค่อยมาจดทะเบียนปืน ท้าเลยมาตรวจประวัติได้ไม่เคยเก็บเงินใต้โต๊ะ เพราะถ้าทำจะไม่สง่างาม แม้จะไม่มีใครรู้ แต่ตัวรู้ ขอย้ำข้าราชการกรมประมงทุกคนต้องดูแลชาวประมง ให้กินอิ่ม นอนหลับ มีรายได้ดี “นายกฤษฎา กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามถึงอนาคตทางการเมืองที่มีกระแสข่าวว่าจะเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ รวมทั้งนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทวงอุตสาหกรรม และนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จะแสดงจุดยืนทางการเมืองในวันที่ 1 ตุลาคมนั้น นายกฤษฎา กล่าวว่า มีจุดยืนทำงานวันนี้ เพื่อพัฒนาเกษตรกรให้ดีที่สุด นายกรัฐมนตรีชวนมาช่วยทำงาน สร้างบ้านแปลงเมือง และเมื่อหมดหน้าที่อยากจะไปพักผ่อน ซึ่งไม่เคยคิดว่าจะได้มาเป็นรัฐมนตรี เมื่อก่อนอยากเป็นนายอำเภอที่ชาวบ้านรักและศรัทรา
“พอแล้วแม้ว่ามีคนมาทาบทามหลายพรรค ล้วนพรรคการเมืองใหญ่ ๆ ทางภาคใต้ เหนือ อีสาน กลาง มาชวนหมด ขณะนี้ยังไม่มีแนวทางใด ๆ และไม่มีความคิดลงการเมือง” นายกฤษฎา กล่าว.-สำนักข่าวไทย