ไทยตั้งเป้าผลิตรถไฟฟ้าร้อยละ 25 ในปี 79

กรุงเทพฯ 21 ก.ย. – กระทรวงอุตสาหกรรมย้ำตั้งเป้าภายในปี 2579 จะผลิตรถยนต์ไฟฟ้าให้ได้ร้อยละ 25 ของการผลิตทั้งหมด แนะอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยปรับตัวรับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่


นายสมชาย หาญหิรัญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวในงานสัมมนา “20 ปี สถาบันยานยนต์ ทศวรรษแห่งการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมยานยนต์” ว่า ขณะนี้กระทรวงอุตสาหกรรมตั้งเป้าหมายที่จะให้การผลิตรถยนต์ไฟฟ้าหรือ EV คิดเป็นร้อยละ 25 ของการผลิตทั้งหมดภายในปี 2579 และมั่นใจว่าอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยมีความพร้อม ทั้งบุคลากรและซัพพลายเชนที่เข้มแข็ง และจะสามารถรักษาการเป็นฐานการผลิตสำคัญในอาเซียนต่อไป

นายสมชาย กล่าวว่า 5 ปีนับจากนี้จะอยู่ในช่วงของการสนับสนุนส่งเสริมให้มีการลงทุนผลิตรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าทุกประเภท เพื่อให้ครอบคลุมเทคโนโลยีของแต่ละค่ายที่มีทิศทางแตกต่างกันทั้งรถยนต์ประเภทไฮบริด ไฮบริดปลั๊กอิน รถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ รวมถึงชิ้นส่วนสำคัญของรถยนต์ไฟฟ้าและสถานีอัดประจุไฟฟ้าภายใต้การส่งเสริมของกระทรวงพลังงาน  ด้านสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) มีเงื่อนไขที่ดีสำหรับผู้ลงทุน ปัจจุบันมีผู้ยื่นลงทุน 4-5 ราย โครงสร้างพื้นฐานรองรับ เช่น  สถานีชาร์จ ด้านมาตรฐานรถยนต์ไฟฟ้าก็พร้อมแล้ว ซึ่งจัดทำโดยสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) 


ส่วนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ในภาพรวมขณะนี้ แบ่งได้ 3 กุล่ม คือ กลุ่มแรก เมื่อผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแล้วชิ้นส่วนที่ผลิตจะไม่ถูกนำใช้ในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า กลุ่มที่ 2 ยังมีการใช้ชิ้นส่วนที่ผลิตในปัจจุบันบางส่วน และกลุ่มที่ 3 จะต้องลงทุนผลิตชิ้นส่วนใหม่ ๆ เพื่อรองรับความต้องการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า สำหรับการพัฒนาเอสเอ็มอีที่ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ ขณะนี้ได้รับการช่วยเหลือพัฒนายกระดับ โดยใช้บิ๊กบราเธอร์ช่วยยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับเอสเอ็มอี โดยมีบริษัท เด็นโซ่ เข้ามาช่วยเหลือ นำ การพัฒนา Lean Automation System  Integrator  หรือ LASI Project   

ด้านสถาบันยานยนต์จึงตั้งศูนย์วิจัยยานยนต์สมัยใหม่หรือ Next Generation Automotive Research Center เพื่อศึกษาและวิจัยแนวโน้มเทคโนโลยีและนวัตกรรมของยานยนต์ พร้อมเตรียมความพร้อมด้านทรัพยากรมนุษย์ในอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยให้สอดคล้องกับเทคโนโลยียานยนต์ที่เปลี่ยนแปลงไป

นายศิริรุจ จุลกะรัตน์ รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะประธานกรรมการสถาบันยานยนต์ กล่าวว่า ปัจจุบันไทยเป็นฐานการผลิตยานยนต์สำคัญ เป็นผู้ผลิตยานยนต์อันดับ 12 ของโลก แต่จากการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีและการที่ไทยมีโปรดักส์แชมป์เปี้ยน คือ รถกระบะและอีโคคาร์ ซึ่งใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน ขณะที่แนวโน้มการผลิตรถยนต์สมัยใหม่มุ่งสู่การผลิตยานยนต์ไฟฟ้า ผู้ผลิตรถยนต์ไทยจึงต้องปรับตัว ซึ่งสถาบันยานยนต์ไทยเตรียมพร้อมด้วยการปรับนโยบายอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย เพื่อส่งเสริมสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยปรับตัวและก้าวทันกระแสการเปลี่ยนแปลง


ส่วนการปรับสายการผลิตรถอีโคคาร์ไปสู่อีโคอีวีนั้น อีโคคาร์และอีโคอีวี มีหลักการการผลิตแนวเดียวกัน แต่เมื่อจะปรับไปสู่การผลิตอีโคอีวีจะต้องปรับปรุงมาตรฐานต่าง ๆ เพิ่ม เพื่อนำเทคโนโลยีใหม่เข้ามาใช้ทั้งแบตเตอรี่ และอื่น ๆ ต่อไป ซึ่งสถาบันยานยนต์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงกระทรวงอุตสาหกรรมอยู่ระหว่างศึกษาแนวทางการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยให้สามารถก้าวหน้าต่อไป 

นายอดิศักดิ์ โรหิตะศุน ผู้ทำการแทนผู้อำนวยการสถาบันยานยนต์ กล่าวว่า ประเทศไทยเข้าสู่อุตสาหกรรมยานยนต์ปีนี้เป็นปีที่ 57 แล้ว อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยสามารถขึ้นมาเป็นฐานการผลิตมากที่สุด อันดับที่ 12 ของโลก ไทยสามารถรักษาตำแหน่งนี้มาได้พอสมควร โดยเคยทำได้ถึงอันดับที่ 9 เมื่อ 4-5 ปีที่ผ่านมา ปัจจุบันไทยมีกำลังการผลิตรวม 3 ล้านคันต่อปี ใช้กำลังจริงประมาณ 2 ล้านคันต่อปี แต่คาดว่าจากสภาพตลาดที่ฟื้นตัวขึ้นคาดว่าการใช้กำลังการผลิตจะเพิ่มขึ้น โดยภาพรวมปัจจุบันมีผู้ผลิตรถยนต์ใช้ไทยเป็นฐานการผลิตรถยนต์ 11 ราย จักรยานยนต์ใช้ไทยเป็นฐานการผลิต โดยมีแนวโน้มเป็นการผลิตบิ๊กไบค์ 7 ราย และมีผู้ผลิตชิ้นส่วน 2,200 ราย 

นายอิดิศักดิ์ กล่าวว่า ในช่วง 10 ปีข้างหน้าจะเป็นทศวรรษของการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ซึ่งปีที่ผ่านมาคณะรัฐมนตรีเห็นชอบนโยบายปรับเปลี่ยนอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย โดยมุ่งสู่การผลิตยานยนต์สมัยใหม่มีมาตรการรองรับทั้งการส่งเสริมการลงทุน ส่งเสริมปริมาณการใช้ การสร้างโครงสร้างพื้นฐานรองรับ เช่น สถานีชาร์จ และมาตรฐานความปลอดภัย การจัดการกับแบตเตอรี่ที่ใช้แล้ว เป็นต้น ซึ่งสถาบันการยานยนต์มีการปรับบทบาทให้สอดคล้องเช่นกัน และจากการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีที่ยังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว สถาบันยานยนต์จะติดตามและวิเคราะห์และนำมารายงานสู่ผู้ที่เกี่ยวข้องนำเสนอภาครัฐและภาคเอกชน ประชาชนต่อไป 

สำหรับมาตรการส่งเสริมการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าของไทย มาตรการชุดแรก มุ่งส่งเสริมผลิตรถไฮบริด โดยกำหนดให้ผู้ผลิตที่สนใจยื่นโครงการภายในปีที่ผ่านมา ซึ่งมีผู้ยื่น 7 ราย ปัจจุบันอนุมัติลงทุน 5 ราย โดยเป็นการลงทุนผลิตทั้งรถยนต์กลุ่มไฮบริดและปลั๊กอินไฮบริด 3 ราย และรถยนต์แบบปลั๊กอินไฮบริด 2 ราย ปีนี้มีการยื่นขอลงทุนผลิตรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดอีก 1 ราย รวมเป็น 8 ราย  ซึ่งมาตรการส่งเสริมการผลิตรถประเภทปลั๊กอินและรถอีวี ให้ยื่นขอรับส่งเสริมโครงการลงทุนไม่เกินสิ้นปีนี้ ส่วนการพัฒนาต่อยอดอีโคคาร์ สู่การเป็นอีโคอีวี ปัจจุบันอีโคคาร์เข้าสู่ระยะที่ 2 ส่วนการจะปรับไปสู่การผลิตเป็นอีโคอีวี นั้น ผู้ที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างการศึกษา

นอกจากนี้ ยังมีการจัดตั้งศูนย์ทดสอบยานยนต์และยางล้อแห่งชาติ ณ อำเภอสนามชัยเขต จังหวัดฉะเชิงเทราช่วยให้ผู้ประกอบการไทยสามารถเข้ามาใช้บริการรวมถึงการพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์ได้ ขณะเดียวกันสถาบันยานยนต์จะยกระดับการทำงานให้มีความเป็นมืออาชีพมากยิ่งขึ้น ให้บริการสะดวกรวดเร็วมีประสิทธิภาพ

ปัจจุบันอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยพัฒนาจนมีศักยภาพและกำลังการผลิตปีละ 3 ล้านคัน ส่งออกรถยนต์ปีละกว่า 1 ล้านคัน สร้างรายได้คิดเป็นร้อยละ 2 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี)  จากความท้าทายที่มาพร้อมกับความเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี ตลาด พฤติกรรมผู้บริโภคและผู้เล่นรายใหม่ ตลอดจนความเปลี่ยนแปลงทางด้านสิ่งแวดล้อมโลก ทำให้อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยในช่วง 10 ปีข้างหน้า จะต้องปรับตัวและเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร