ศูนย์ฯ สิริกิติ์ 15 ก.ย. – รมว.พาณิชย์มอบรางวัล 43 ผู้ส่งออกดีเด่น ขานรับนโยบายขับเคลื่อนภาคการส่งออกไทยสู่ยุคประเทศไทย 4.0 ด้วยยุทธศาสตร์นวัตกรรมนำการผลิต ดันไทยเป็นศูนย์กลางแหล่งผลิตสินค้าและบริการคุณภาพสูงในอาเซียน พร้อมเร่งสร้างและพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบธุรกิจส่งออกไทย
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศจัดพิธีมอบประกาศเกียรติคุณและมอบรางวัลผู้ประกอบธุรกิจส่งออกดีเด่นประจำปี 2559 (PM AWARD 2016) โดยปีนี้คัดเลือกผู้ประกอบการธุรกิจส่งออกดีเด่นเข้ารับรางวัลจำนวน 43 บริษัท 50 รางวัล เพื่อเป็นการรับประกันคุณภาพมาตรฐานขั้นสูงให้กับสินค้าและบริการไทยที่มีความพร้อมในการก้าวสู่การเป็นที่ยอมรับในตลาดโลก
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า การส่งออกมีความสำคัญในการสร้างรายได้เข้าสู่ประเทศและเป็นหนึ่งในกลไกพัฒนาเศรษฐกิจไทยในภาคการผลิต ปัจจุบันไทยกำลังปรับเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม หรือ Value-Based Economy ด้วยโมเดล “ประเทศไทย 4.0” ตามนโยบายของรัฐบาล ซึ่งมีหัวใจสำคัญอยู่ที่การสร้างความได้เปรียบด้านการแข่งขันให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจส่งออกไทยในเวทีการค้าโลก โดยผู้ประกอบธุรกิจส่งออกจะต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ เพื่อสร้างความแตกต่างและนำไปสู่การพัฒนานวัตกรรมในสินค้าและบริการของตนเองและยังต้องให้ความสำคัญด้านคุณภาพมาตรฐานของสินค้าและบริการเป็นสำคัญ ไทยจะเป็นเพียงผู้ผลิตสินค้าคุณภาพเหมือนในอดีตไม่ ดังนั้น ผู้ประกอบธุรกิจส่งออกไทยต้องปรับเปลี่ยนตัวเองไปสู่การเป็นผู้ผลิตสินค้าและบริการที่มีมูลค่าเพิ่มด้วยนวัตกรรมทั้งด้านความคิด การออกแบบ การพัฒนาสิ่งใหม่ ทั้งหมดจะต้องอาศัยความคิดสร้างสรรค์ ความรู้ และโนฮาว มาบูรณาการ เป็นการเดินหน้าพัฒนาให้ไทยเป็นศูนย์กลางแหล่งผลิตสินค้าและบริการที่มีทั้งคุณภาพและความโดดเด่นเฉพาะตัวในอาเซียน
ทั้งนี้ เพื่อตอบสนองแนวทางดังกล่าว กระทรวงพาณิชย์พร้อมที่จะส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบธุรกิจส่งออกไทย เดินหน้าจัดโครงการ PM AWARD 2016 ซึ่งนับเป็นหนึ่งยุทธศาสตร์สำคัญในการสร้างภาพลักษณ์แก่ไทยในฐานะผู้ผลิตและส่งออกสินค้าและบริการที่มีคุณภาพ มาตรฐาน และมีความน่าเชื่อถือ ทั้งยังส่งผลสำเร็จในการกระตุ้นและสร้างความเข้มแข็งแก่ภาคการส่งออกของไทยมาตลอด 25 ปีและยังเป็นการสนับสนุนและให้ความสำคัญแก่ผู้ประกอบธุรกิจส่งออกสินค้าและบริการไทยที่มีผลงานดีเด่น มีการริเริ่มและพยายามบุกเบิกตลาดต่างประเทศภายใต้ชื่อทางการค้าของตนเอง และมีการออกแบบผลิตภัณฑ์ของตนเองจนเป็นที่ยอมรับในตลาดโลก รวมทั้งสนับสนุนการสร้างภาพลักษณ์องค์กรที่ดีแก่ผู้ประกอบการที่มีส่วนผลักดันการส่งออกสินค้าและบริการของประเทศ
อย่างไรก็ตาม กรมฯ ได้เดินหน้าพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบธุรกิจส่งออกให้มีความแข็งแกร่ง เติมเต็มความรู้ใหม่ สร้างความเข้าใจในพลวัตการเปลี่ยนแปลงของโลกธุรกิจการค้า และสิ่งสำคัญที่สุดในการพัฒนาผู้ประกอบธุรกิจส่งออกนับจากนี้ คือ การผสมผสานความคิดสร้างสรรค์และพัฒนานวัตกรรมแก่สินค้าและบริการไทยไปพร้อม ๆ กับการสร้างความมั่นใจและความน่าเชื่อถือของสินค้าและบริการไทยแก่ผู้บริโภคทั่วโลก เพื่อก่อให้เกิดการขยายตัวและความยั่งยืนในภาคการส่งออกของไทยในอนาคต
นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ยังเป็นประธานพิธีเปิดงาน ‘Thailand Innovation and Design Expo 2016’ หรือ ‘T.I.D.E. 2016’ สุดยอดงานแสดงสินค้านวัตกรรมและการออกแบบของไทยและนานาชาติ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 15 – 18 กันยายน 2559 โดยจะเป็นการชูนวัตกรรมขับเคลื่อนเศรษฐกิจสู่ความมั่งคั่งและยั่งยืน สร้างสรรค์สินค้าและบริการไทยให้มีมูลค่าเพิ่ม เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน สัมผัสสุดยอดสินค้าและบริการนวัตกรรมชั้นนำของไทยและนานาชาติ และความยิ่งใหญ่ของ ASIA TALENTS ที่รวบรวมสุดยอดผลงานการออกแบบของนักออกแบบชั้นนำของไทยและทั่วเอเชีย 12 แบรนด์
นอกจากนี้ ยังจัดเต็มแผนส่งเสริมผู้ประกอบการ SME และStart Up พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทยด้วย creative service ตอบรับสังคมผู้สูงวัย และเสริมศักยภาพผู้ประกอบธุรกิจส่งออกด้วยสัมมนาพิเศษCreative Happening Thailand เตรียมพร้อมเข้าสู่ยุคประเทศไทย 4.0 โดยได้รวบรวมผลงานของนักออกแบบเลือดใหม่รวม 12 แบรนด์ดังจากทั่วเอเชีย ประกอบด้วย ไทย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ไต้หวัน เกาหลีใต้ และฮ่องกง มาร่วมแสดงผลงานการออกแบบที่โดดเด่นพร้อมมอบโอกาสต่อยอดทางธุรกิจ ซึ่งผลงานของนักออกแบบดังกล่าวได้รับแรงบันดาลใจจากสิ่งรอบตัว ไม่ว่าจะเป็น ธรรมชาติ วัฒนธรรมท้องถิ่น รวมถึงการใช้รูปทรง สีสัน มารังสรรค์ผลงานที่มีรูปแบบที่เรียบง่ายแต่โดดเด่น ตอบสนองการใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างมีสไตล์ และผสมผสานเทคโนโลยีประยุกต์ให้เข้ากับมุมมองใหม่ที่แตกต่างจนกลายเป็นสินค้านวัตกรรมและการออกแบบที่ตอบรับไลฟ์สไตล์ของคนในยุคปัจจุบัน และเตรียมความพร้อมสำหรับการสร้างสรรค์สินค้าและบริการเพื่อสังคมผู้สูงวัยในอนาคต.-สำนักข่าวไทย