ปั้นเศรษฐกิจการเกษตรอาสา

กรุงเทพฯ 13 ก.ย. – ก.เกษตรฯ เร่งพัฒนาเกษตรกรให้มีความรู้ด้านการผลิตและการตลาด ผ่านเศรษฐกิจการเกษตรอาสา ยกระดับเป็นสมาร์ทฟาร์มเมอร์ ขับเคลื่อนภาคเกษตรไทยในยุค 4.0


นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานเปิดการสัมมนา  “การขับเคลื่อนเศรษฐกิจการเกษตรอาสา สู่การปฏิรูปเกษตรไทย ยุค 4.0” และกล่าวแก่ผู้แทนเกษตรกรซึ่งเป็น “เศรษฐกิจการเกษตรอาสา” (ศกอ.) ประจำอยู่ที่ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการเกษตร (ศพก.) ซึ่งมี 882 ศูนย์ทั่วประเทศ ว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีนโยบายยกระดับรายได้และคุณภาพชีวิตเกษตรกร โดยมีสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เป็นหน่วยงานสนับสนุนด้านนโยบายและข้อมูลทางการเกษตรตามยุทธศาสตร์เกษตรและสหกรณ์ ระยะ 20 ปี เพื่อขับเคลื่อนให้ภาคเกษตรเจริญเติบโตได้ต่อเนื่องอย่างมีเสถียรภาพ  

นายกฤษฎา กล่าวว่า นโยบายที่ให้ความสำคัญขณะนี้ คือ “ตลาดนำการผลิต” เนื่องจากที่ผ่านมาพืชใดราคาดีก็จะปลูกพืชชนิดนั้นตามกัน เช่น ข้าว ยางพารา สับปะรด ซึ่งปลูกกันมากจนราคาตกต่ำ จึงได้มอบหมายให้ สศก.ตรวจสอบข้อมูลว่าตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศต้องการผลผลิตทางการเกษตรใด นำมาวางแผนการผลิตของประเทศ เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรปรับเปลี่ยนจากการปลูกพืชที่ขายขาดทุน มาเป็นพืชที่ผลผลิตยังไม่เพียงพอ ทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้น ในเดือนพฤศจิกายนนี้จะเริ่มโครงการปลูกพืชหลังนา หลังจากเก็บเกี่ยวข้าวนาปีแล้วเกษตรกรสามารถปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ พืชตระกูลถั่ว หรือพืชผักแทนการทำนาปรัง โดยใช้แผนที่เกษตรเพื่อการบริหารจัดการเชิงรุก (Agri-Map) กำหนดว่าพื้นที่ใดเหมาะสมจะปลูกพืชใด จัดระบบชลประทานส่งน้ำให้อย่างทั่วถึงและเพียงพอ และสิ่งสำคัญ คือ ประสานหาตลาดมารับซื้อผลผลิตทั้งหมดในราคาเหมาะสม ซึ่งมั่นใจว่าจะได้กำไรมากกว่าปลูกข้าวแน่นอน เมื่อเป็นผลสำเร็จก็จะเป็นต้นแบบในการวางแผนการผลิตทั้งด้านพืช ปศุสัตว์ และประมงต่อไป จึงต้องการให้ ศกอ.เป็นบุรุษไปรษณีย์ของกระทรวงเกษตรฯ นำข้อมูลเหล่านี้ไปถ่ายทอดเกษตรกรในพื้นที่ นอกจากนี้ ยังต้องจูงใจให้คนรุ่นใหม่เข้ามาสืบทอดการทำการเกษตรต่อจากพ่อแม่มากขึ้น เนื่องจากเทคโนโลยีทั้งด้านการผลิตและการสื่อสารเปลี่ยนแปลงไป คนรุ่นใหม่สามารถเรียนรู้ได้รวดเร็ว ทำให้เกิดสมาร์ทฟาร์มเมอร์เดินหน้าภาคการเกษตรไทยในยุค 4.0 


ด้านนายวิณะโรจน์  ทรัพย์ส่งสุข  เลขาธิการ สศก. กล่าวว่า สศก.พัฒนาเศรษฐกิจการเกษตรอาสาให้เป็นผู้ที่ความรู้ด้านเศรษฐกิจการเกษตรอย่างรอบด้าน  โดยเฉพาะการฝึกอบรมถ่ายทอดองค์ความรู้ที่สำคัญในด้านเศรษฐกิจการเกษตร ทั้งด้านทฤษฎีและปฏิบัติ การใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านการเกษตร  อีกทั้งยังมีการประเมินผลการปฏิบัติงานของ ศกอ. เพื่อคัดเลือก ศกอ.ดีเด่นระดับต่าง ๆ เป็นประจำทุกปี โดย ศกอ.มีบทบาทสำคัญในการเผยแพร่ข้อมูลและความรู้ทางด้านเศรษฐกิจการเกษตรสู่เกษตรกรในพื้นที่ เพื่อให้สามารถนำความรู้ไปใช้ในการบริหารจัดการด้านการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ และผลิตสินค้าที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาด นอกจากนี้ ศกอ.ยังเป็นผู้จัดเก็บและรายงานข้อมูลสถานการณ์สินค้าเกษตรให้กับ สศก.และในทางกลับกันยังเป็นผู้เผยแพร่นโยบาย มาตรการของรัฐบาล สู่เกษตรกรในพื้นที่ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกรและสถาบันเกษตรกร ในอนาคตต่อไป 

สำหรับการจัดสัมมนาครั้งนี้ จึงนับเป็นการรวมพลครั้งสำคัญของ ศกอ.ทั่วประเทศ เพื่อสร้างการรับรู้ด้านนโยบายการบริหารจัดการด้านการผลิต และการตลาดสินค้าเกษตรแบบครบวงจร และนโยบายต่าง ๆ ของกระทรวงเกษตรฯ และยังเป็นโอกาสสำคัญที่ ศกอ.แต่ละพื้นที่จะได้มาพบปะและสร้างเครือข่ายร่วมกันในการปฏิบัติงาน เพื่อเป็นสื่อกลางข้อมูลข่าวสารของราชการไปยังเกษตรกรได้อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพทั่วถึงทุกพื้นที่ต่อไป.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เครื่องบินภูเก็ตมุ่งหน้ามอสโก ขอลงจอดฉุกเฉินที่สุวรรณภูมิ

เที่ยวบิน 777-300ER สายการบิน Aeroflot ขึ้นจากภูเก็ตไปมอสโก เตรียมลงสุวรรณภูมิ หลังบินวนกลางทะเลอันดามันหลายชั่วโมง จากปัญหาระบบลงจอดขัดข้อง

ไข้หวัดใหญ่ระบาด

ไข้หวัดใหญ่ระบาดในสหรัฐ-เสียชีวิตแล้ว 13,000 ราย

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ หรือซีดีซี รายงานว่า พบผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ในฤดูกาลนี้อย่างน้อย 24 ล้านคนแล้วทั่วสหรัฐ

ตัดไฟเมียนมา

มาตรการตัดไฟเมียนมาได้ผล กลุ่มเว็บพนันปลดพนักงานแล้วกว่าร้อยคน

มาตรการตัดไฟเมียนมาได้ผล กลุ่มเว็บพนันออนไลน์และกลุ่มสแกมเมอร์ที่จังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ปลดพนักงานแล้วกว่า 100 คน เนื่องจากขาดแคลนกระแสไฟฟ้า ทำให้พนักงานทยอยเดินทางออกจากท่าขี้เหล็ก กลับมาทางด่าน อ.แม่สาย จ.เชียงราย อย่างต่อเนื่อง

ข่าวแนะนำ

เข้มทางบก แก๊งลักลอบเข้าเมือง หนีไปทางน้ำ

หลังมาตรการ Seal Stop Safe ชายแดนของรัฐบาล ซึ่งเริ่มตั้งแต่ 30 มกราคม เพื่อเข้มงวด ตั้งจุดตรวจ จุดสกัดตามเส้นทางต่างๆ พบขบวนการลักลอบเข้าเมืองด้านชายแดนกาญจนบุรี ซึ่งฝั่งตรงข้ามคือ เมืองพญาตองซู ของเมียนมา เลี่ยงไปใช้เส้นทางน้ำแทน

ทองไทยใกล้เป้าหมายบาทละ 5 หมื่น

ทองไทยเข้าภาวะกระทิง เปลี่ยนแปลงคึกคักวันนี้ (11 ก.พ.) ปรับเปลี่ยน 27 รอบ เข้าใกล้ 48,000 บาทต่อบาททองคำ มองเป้าหมายถัดไปที่ 50,000 บาทต่อบาททองคำ ด้านสภาทองคำโลก ชี้การซื้อทองเป็นการลงทุนมากกว่าการใช้เป็นเครื่องประดับ ประเทศไทยก้าวขึ้นเป็นตลาดทองคำที่แข็งแกร่งในปี 67 สูงเป็นอันดับ 7 ของโลก