กรุงเทพฯ 12 ก.ย. – กรมชลประทานแจงน้ำท่วมลำสนธิจากฝนตกหนัก ส่วนอ่างฯ กุดตาเพชรน้ำยังไม่ล้นอ่างฯ
นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวกรณีที่มีการนำเสนอข่าวเกิดฝนตกหนักในพื้นที่ อ.ลำสนธิ จ.ลพบุรี ทำให้ปริมาณน้ำจากอ่างเก็บน้ำกุดตาเพชรที่รับน้ำเอาไว้ไม่ไหวต้องระบายน้ำลงสู่ท้ายอ่างฯ ทำให้เกิดน้ำท่วมบริเวณ อ.ลำสนธิ ว่า ฝนที่ตกหนักเมื่อคืนวันที่ 10 กันยายน 2561 ในพื้นที่ อ.ลำสนธิ จ.ลพบรี และ อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ ทำให้มีน้ำไหลหลากเข้าท่วมในเขตเทศบาล ต.หนองรี อ.ลำสนธิ ในช่วงเช้ามืดของวานนี้ (11 ก.ย.) เนื่องจากระบายไม่ทันระดับน้ำท่วมสูงประมาณ 5 – 10 เซนติเมตร
สำหรับอ่างเก็บน้ำกุดตาเพชรที่มีความจุเก็บกัก 43 ล้าน ลบ.ม. ปัจจุบันมีปริมาณน้ำในอ่างฯ 34 ล้าน ลบ.ม. หรือร้อยละ 72 ของความจุอ่างฯ มีน้ำไหลเข้าอ่างฯประมาณ 10 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งอ่างฯ ได้ทำการเก็บชะลอน้ำไว้ทั้งหมด และยังไม่มีน้ำล้นอ่างฯ แต่อย่างใด ขณะที่น้ำส่วนหนึ่งไหลหลากลงสู่ลำสนธิด้านท้ายอ่างฯ ประมาณ 3 ล้าน ลบ.ม. ทำให้เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ ต.หนองรี ทางโครงการชลประทานลพบุรีได้ลดการระบายน้ำจากอ่างฯ กุดตาเพชรไม่ให้น้ำไหลลงไปสมทบกับน้ำในลำสนธิที่มีปริมาณน้ำมาก พร้อมกับใช้ประตูระบายน้ำกลางคลองลำสนธิควบคุมการระบายน้ำหลากไม่ให้ล้นตลิ่ง เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน เช้านี้ (12 ก.ย. ) สถานการณ์น้ำท่วมในเขต อ.ลำสนธิ ได้เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว
ทั้งนี้ ปริมาณน้ำจากลำสนธิจะไหลลงสู่เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ทั้งหมด ปัจจุบันเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์มีปริมาณน้ำในอ่างฯ เพียง 398 ล้าน ลบ.ม. หรือร้อยละ 41 ความจุอ่างฯ เท่านั้น ขณะที่มีการระบายน้ำลงสู่แม่น้ำป่าสักประมาณวันละ 8 ล้าน ลบ.ม. ก่อนที่น้ำจะไหลลงสู่เขื่อนพระราม 6 ที่มีการควบคุมน้ำให้ไหลผ่านเขื่อนเพียง 214 ลบ.ม./วินาที สถานการณ์ในแม่น้ำป่าสักอยู่ในเกณฑ์ปกติ ดังนั้น การระบายน้ำจากอ่างเก็บน้ำกุดตาเพชร ประตูน้ำลำสนธิ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ และเขื่อนพระราม 6 จึงไม่มีผลกระทบกับพื้นที่ท้ายน้ำแต่อย่างใด.-สำนักข่าวไทย