สำนักข่าวไทย 7 ก.ย.-เลขาฯ สทนช.เผยช่วงเดือน ก.ย.นี้ ห่วงสถานการณ์น้ำในพื้นที่ภาคตะวันออกและตะวันตก ส่วนพื้นที่ภาคกลาง เชื่อไม่มีเกิดสถานการณ์น้ำท่วมใหญ่เหมือนปี 54 แน่นอน
นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ หรือ สทนช.กล่าวถึงสถานการณ์น้ำในพื้นที่ภาคกลาง ว่า ขณะนี้สถานการณ์น้ำในพื้นที่ภาคกลางไม่น่าห่วง เพราะด้วยระบบบริหารจัดการน้ำและการระบายน้ำจากภาคเหนือลงมา ประกอบกับสถานการณ์ฝนในภาคเหนือเบาบางลง เชื่อว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมเหมือนเช่นปี 2554 แน่นอน ด้วยเขื่อนที่มีปริมาณน้ำน้อย อย่างเขื่อนทับเสลาและเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ได้รับรองไว้ อาจส่งผลให้มีระดับน้ำในเขื่อนเพิ่มขึ้น ซึ่งหากพื้นที่ภาคกลางไม่มีสถานการณ์น้ำตกหนักลงมาก็มั่นใจว่า ไม่มีปัญหาเรื่องน้ำแน่นอน
ส่วนพื้นที่ที่ต้องจับตาและเฝ้าระวังเป็นพิเศษในเดือนกันยายนคือพื้นที่ภาคตะวันออก อาทิ ปราจีนบุรี ,นครนายก และฉะเชิงเทรา ขณะเดียวกันก็มีพื้นที่ฝั่งตะวันตกต้องเร่งระบายน้ำเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ฝนที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นในเดือนตุลาคม ซึ่ง พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี ได้แสดงความห่วงใยและกำชับให้ทำความเข้าใจกับพื้นที่ หากมีพื้นที่ไหนเสี่ยงได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำ ต้องมีการประกาศแจ้งเตือนประชาชนล่วงหน้าอย่างน้อย 3 วัน
นายสมเกียรติ กล่าวด้วยว่า สำหรับสถานการณ์น้ำโขง ในขณะนี้มีความแตกต่างกัน บางพื้นที่สถานการณ์น้ำเบาบางลง บางพื้นที่ทรงตัว เช่น บึงกาฬ มุกดาหารและอุบลราชธานี ประกอบกับมีสถานการณ์ฝนที่ตกลงมา ร่วมกับประเทศเพื่อนบ้าน จึงทำให้อาจไม่สบายใจได้ทั้งหมด ซึ่งพื้นที่ที่มีระดับน้ำเอ่อ เช่น ลำน้ำสงครามและยังได้รับอิทธิพลจากการระบายน้ำของเขื่อนน้ำอูน และส่งผลกระทบต่อลำน้ำสาขา ห้วยหลวง ก็ได้มีการเร่งระบายน้ำ ออกจากพื้นที่
ส่วนการบริหารจัดการพื้นที่แก้มลิงเพื่อเข้ามามีส่วนในการหน่วงน้ำ และรองรับน้ำไว้ใช้ในหน้าแล้ง สำหรับพื้นที่ภาคเหนือทุ่งบางระกำ ก็ได้บริหารจัดการให้มีการเพาะปลูกพืชให้เหมาะสมและรับน้ำปลายฤดูและไม่เกิดผลกระทบกับการเก็บเกี่ยว เช่นเกียวกับพื้นที่ภาคกลาง ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ รวม 12 ทุ่ง มีพื้นที่ 1,500 ลูกบาศก์เมตร เชื่อว่าจะช่วยรองรับน้ำได้ .-สำนักข่าวไทย