อุดรธานี 6 ก.ย.-เจ้าของโรงงานลูกชิ้น-หมูยอ ร้องศูนย์ดำรงธรรม จ.อุดรธานี ถูกกลุ่มชายอ้างตัวเป็นตำรวจยัดข้อหา ทั้งที่มีใบอนุญาตถูกต้อง พร้อมเรียกเงิน 70,000 บาท และส่วย 5,000 บาททุกเดือน
นายเจษฎา ปานะถึก ผอ.ศูนย์ดำรงธรรม จ.อุดรธานี นำ นายสุเทพ แก้วเวียงชัย และ นางบุศดี อุยุตะ สามีภรรยาเจ้าของโรงงานลูกชิ้นหมูยอ “อริญชัย” หมู่ 17 บ้านหนองใส ต.หนองนาคำ อ.เมือง จ.อุดรธานี พร้อมภาพที่แคปจากวงจรปิด เข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองอุดรธานี ว่า ถูกกลุ่มชายอ้างเป็นชุดป้องกันปราบปราม และละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา สังกัด ภ.จว.อุดรธานี กรรโชกทรัพย์ และเรียกเก็บส่วยรายเดือน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 3 กันยายน ที่ผ่านมา
นายสุเทพ และนางบุศดี ร่วมกันให้การว่า พวกตนเปิดโรงงานทำลูกชิ้นและหมูยอ “อริญชัย” ได้ 2 ปี ขออนุญาต และ อย. ถูกต้อง โดยมีคนงาน 20 คน จะส่งหมูยอและลูกชิ้นภายใน จ.อุดรธานี และใกล้เคียง ก่อนเกิดเหตุมีลูกค้าโทรมาสั่งหมูยอ 200 กิโลกรัม ราคา 5,000 บาท ให้ไปส่งที่ลานจอดรถปั๊มแห่งหนึ่งหลังตลาดไทยอีสาน ถ.ประจักษ์ศิลปาคม เขตเทศบาลนครอุดรธานี ตนจึงให้คนงานขับรถนำหมูยอไปส่งลูกค้า เมื่อไปถึงมีชายอ้างตัวว่าเป็นตำรวจ 5-6 คน แต่งกายนอกเครื่องแบบ เข้าค้นหมูยอ และถามหาเลข อย. พร้อมคุมงานคนดังกล่าว มาที่โรงงาน เพื่อเข้าตรวจค้นโรงงาน โดยตำรวจชุดดังกล่าวแจ้งว่าโรงงานพวกตนไม่มีใบอนุญาต และไม่มี อย. จึงควบคุมตัวไปที่ชุดป้องกันปราบปราม และละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี อาคารกองกำกับการสืบสวน ภ.จว.อุดรธานี โดยเรียกเงิน 70,000 บาท หากไม่อยากถูกดำเนินคดี
นายสุเทพ กล่าวว่า พวกตนเกรงจะไม่ปลอดภัย จึงตกลงยอมจ่าย แต่ตำรวจแจ้งพวกตนอีกว่า ทุกเดือนพวกตนจะต้องจ่ายเงิน 5,000 บาท โดยวันที่ 3 ของทุกเดือนจะมีตำรวจไปเก็บ จากนั้นได้ปล่อยตัวพวกตนกลับ โดยมีตำรวจขับรถตามไปด้วย เพื่อลบภาพจากวงจรปิดของโรงงาน แต่พวกตนได้กู้ภาพคืนมาได้ และปริ๊นภาพออกมาเป็นหลักฐาน แล้วเดินทางไปร้องศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดอุดรธานี และมาแจ้งความดำเนินคดีกับตำรวจดังกล่าว
นายเจษฎา ปานะถึก ผอ.กลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรม จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบ ใบอนุญาตโรงงานมีครบถ้วนถูกต้อง แต่ผู้ที่อ้างตัวเป็นตำรวจ 5-6 นายไม่ยอม ได้เชิญตัวเจ้าของโรงงานและคนงานไปที่ชุดชุดป้องกันปราบปราม และละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี ข่มขู่จะดำเนินคดี และพยายามจะเคลียไม่ดำเนินคดีส่งฟ้องศาล ตกลงกันที่ 70,000 บาท
นายเจษฎา กล่าวว่า จากนี้จะส่งเรื่องไป ปปท.เขต 4 ขอนแก่น ส่วนเรื่องทางวินัย จะส่งเรื่องไปยังผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี ว่ากลุ่มชายดังกล่าวที่อ้างตัวเป็นตำรวจ เป็นตำรวจจริงหรือไม่ มีตำรวจจริงกี่นาย เพื่อจะได้สอบสวนทางวินัยต่อไป.-สำนักข่าวไทย
