ทำเนียบฯ 4 ก.ย. – ครม.หนุนนำงานวิจัยออกมาใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ ส่งเสริมเอสเอ็มอี-สตาร์ทอัพพัฒนาสินค้า
นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม.เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมการใช้ประโยชน์ผลงานวิจัยและนวัตกรรม พ.ศ…. จากปัจจุบันสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และหน่วยงานอื่น ๆ จะให้ทุนสนับสนุนการทำงวิจัยกับมหาวิทยาลัยหรือนักวิชาการ จากนั้นจะนำส่งงานวิจัยคืนให้กับผู้ให้ทุนงานวิจัยเพื่อเก็บรักษาไว้ ดังนั้น เพื่อปลดล็อคไม่ให้งานวิจัยค้างหรือถูกนำไปขึ้นหิ้งปล่อยทิ้งไว้ไม่เกิดประโยชน์ หรือลดขั้นตอนความล่าช้าในการนำงานวิจัยออกมาใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ ร่าง พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวจะช่วยต่อให้ยอดผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ผู้ประกอบการสตาร์ทอัพ นำงานวิจัยออกมาใช้ประโยชน์มากขึ้น และมีการกำหนดสัดส่วนผลตอบแทนงานวิจัยให้กับผู้ศึกษาอย่างเป็นธรรม เพื่อสร้างแรงจูงใจต่อการทำงานวิจัย
รวมทั้งหากภาคเอกชนยังสามารถจ้างให้ทำวิจัยเพื่อใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ได้ โดยกำหนดผลตอบแทนให้ผู้ทำวิจัยสัดส่วนเหมาะสมและเป็นธรรม อีกทั้งหากเกิดเหตุฉุกเฉินหรือความมั่นคง ความปลอดภัยของประเทศ เพื่อประโยชน์สาธารณะ ให้อำนาจรัฐมนตรีสั่งการให้คณะกรรมการส่งเสริมการใช้ประโยชน์งานวิจัยและนวัตกรรม สั่งให้นำงานวิจัยออกมาใช้ประโยชน์เพื่อช่วยแก้ปัญหาได้ โดยปี 2559 ไทยลงทุนด้านงานวิจัยและพัฒนาประมาณ 114,000 ล้านบาท หรือร้อยละ 0.78 ของจีดีพี โดยภาครัฐลงทุนงานวิจัยประมาณ 30,000 ล้านบาท แต่ได้นำมาใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์น้อยมากและผู้ทุนวิจัยมักจะถือครองสิทธิ์งานวิจัยเป็นหลัก ทำให้ผู้วิจัยขาดแรงจูงใจ รัฐบาลจึงต้องการลดปัญหาเรื่องงานวิจัยในช่วงที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ครม.ยังเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.เขตพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา เพื่อรองรับการปฏิรูปประเทศด้านการศึกษา เพื่อกำหนดเขตนวัตกรรมในการจัดการด้านการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือ Sand Box ด้านการศึกษา เพื่อเป็นเขตทดลองการพัฒนาหลักสูตรการศึกษาแนวใหม่นำร่องเขตจังหวัดระยอง เพราะเป็นเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) จังหวัดศรีสะเกษ ยังเป็นจังหวัดที่มีปัญหาความยากจน จังหวัดสตูล มีความหลากหลายด้านเชื้อชาติเผ่าพันธ์ จึงทดลอง 3 เขตพื้นที่ดังกล่าวในการพัฒนาการศึกษา. – สำนักข่าวไทย