ทำเนียบฯ 4 ก.ย.- ครม.เห็นชอบกฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่น 6 ฉบับ คาด เลือกตั้งท้องถิ่นเกิดขึ้นหลังเลือกตั้งใหญ่ 3 เดือน จัดเลือกตั้ง 40 จังหวัดที่ไม่เปลี่ยนแปลงเขตเลือกตั้งก่อน
พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี วันนี้ (4 ก.ย.) มีมติเห็นชอบร่างกฏหมายเลือกตั้งท้องถิ่น 6 ฉบับ ซึ่งเปลี่ยนแปลงสาระให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 โดยให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เป็นผู้จัดเลือกตั้ง ซึ่ง กกต.สามารถมอบให้กระทรวงมหาดไทยจัดการเลือกตั้งแทนได้ ขึ้นอยู่กับข้อตกลง จากเดิมที่ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) เป็นผู้จัดการเลือกตั้ง
“ส่วนร่าง พ.ร.บ.ระเบียบบริหารกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็น 1 ในร่างกฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่นนั้น ยังมีสมาชิกสภาเขต (ส.ข.) เช่นเดิม แต่ยังไม่อนุญาตให้เลือกตั้ง ส.ข.ใหม่ หลังจาก ส.ข.เดิมครบวาระ เพราะต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณาของกระทรวงมหาดไทยในอนาคต ที่หากจะยังให้มีการเลือกตั้ง ส.ข.อยู่ ก็จะต้องมีกฎหมายฉบับที่ 7 ออกมาในภายหลัง” พล.ท.สรรเสริญ กล่าว
พล.ท.สรรเสริญ กล่าวว่า ขณะที่ ผลการเลือกตั้งระดับท้องถิ่น ในร่างกฎหมายกำหนดว่า ผู้ได้รับเลือก ต้องได้รับคะแนนเสียงมากกว่าคะแนนเสียงของคนที่ไม่เลือกผู้ใด พร้อมกันนี้ ยังกำหนดคุณสมบัติของผู้สมัครรับเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญใหม่ โดยต้องไม่มีคดีทุจริต ไม่มีคดีความติดตัว อยู่ในวาระครบ 4 ปี และยกเลิกคุณสมบัติที่จะต้องเสียภาษีบำรุงท้องถิ่นต่อเนื่องกัน 3 ปี
พล.ท.สรรเสริญ กล่าวว่า มีปรับการแบ่งเขตเลือกตั้ง โดยเพิ่มจำนวนประชากรจาก 100,000 เป็น 150,000 คน และเขตเลือกตั้งระดับหมู่บ้าน 25 คน ถ้าหมู่บ้านมีไม่ถึง 25 คน ให้ไปรวมกับหมู่บ้านอื่นได้ รวมทั้ง มีการปรับแก้ข้อกฎหมายที่ไม่ลงตัว ระหว่าง อปท.กับสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ให้สอดคล้องกันในการใช้งบประมาณสนับสนุนกิจกรรมที่กระทรวงมหาดไทยเห็นชอบได้
“คาดว่า ร่างกฎหมายเลือกตั้งจะพิจารณาแล้วเสร็จ ในขั้นตอนของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ช่วงเดือนพฤศจิกายน 2561 ซึ่งน่าจะมีผลบังคับใช้ในช่วงกุมภาพันธ์ 2562 ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับการเลือกตั้งระดับชาติ จึงได้มีการตกลงและพูดคุยกับ กกต.ไว้ว่า อยากให้การเลือกตั้งท้องถิ่นมีระยะห่างจากการเลือกตั้งระดับชาติไปอีก 3 เดือน ดังนั้น คงเป็นไปไม่ได้ที่การเลือกตั้งท้องถิ่นจะเกิดขึ้นก่อนการเลือกตั้งระดับชาติ” พล.ท.สรรเสริญ กล่าว และว่า การเลือกตั้งท้องถิ่นจะแบ่งเป็น 2 ระยะ คือ ระยะแรก 40 จังหวัดที่ไม่เปลี่ยนแปลงเขตเลือกตั้ง และ ระยะที่ 2 มีจำนวน 36 จังหวัด .- สำนักข่าวไทย
