รปช.ยันทำไพรมารีโหวต แม้คสช.จะออก ม.44 แก้ไข

ศูนย์ราชการฯ 4 ก.ย. – วงเสวนาสถาบันพระปกเกล้า ประชาธิปัตย์ ย้ำอยากเห็นปลดล็อกการเมือง เพื่อไทยตั้งธง โละยุทธศาสตร์ชาติ ภูมิใจไทยมั่นใจไม่ทำผิดซื้อเสียง อนาคตใหม่ ต้านรัฐประหาร  พรรคประชาชนปฏิรูป หนุนพล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ พรรครวมพลังประชาชาติไทย ยันทำไพรมารีโหวตแม้จะมีม.44 มาแก้ไข


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 10.00 น. ที่ศูนย์ประชุมวายุภักษ์ ศูนย์ราชการฯ สถาบันพระปกเกล้าจัดเวทีเสวนา เรื่องพรรคการเมืองไทยบนเส้นทางแห่งการปฏิรูป โดยมีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายจาตุรนต์ ฉายแสง แกนนำพรรคเพื่อไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ นายไพบูลย์ นิติตะวัน ว่าที่หัวหน้าพรรคประชาชนปฏิรูป และนายประสาร มฤคพิทักษ์ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย ซึ่งได้มีการพูดคุยถึงหัวข้อแนวทางส่งเสริมประชาธิปไตยในพรรค สิ่งที่แต่ละพรรคตั้งเป้าหมาย 

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า อยากเห็นพรรคการเมืองสามารถดำเนินกิจกรรมทางการเมืองได้ การเลือกตั้งเป็นธรรม ขจัดปัญหาซื้อเสียง เพราะกระแสข่าวซื้อเสียงวันนี้ หากปล่อยไปจะเป็นจุดเริ่มต้นของวงจรอุบาทว์ อยากให้ประชาชนกำหนดอนาคตของประเทศได้จริง และจำเป็นต้องทบทวนกติกาที่ไม่เป็นประชาธิปไตย เพื่อให้บ้านเมืองเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง  ทั้งนี้ต้องเก็บเกี่ยวบทเรียนในอดีตไปปรับปรุงด้วย และต้องไม่มีปัญหาทุจริตคอรัปชั่นเอื้อประโยชน์พวกพ้อง ทำลายประชาธิปไตย พรรคประชาธิปัตย์มีจุดยืนชัดว่านโยบายแก้ปัญหาไม่ให้มีการเอารัดเอาเปรียบ ลดความเหลื่อมล้ำ แก้กฎกติกา ดำเนินนโยบายตามเจตนารมย์ประชาธิปไตย และรักษาประชาธิปไตยโดยการเคารพเสียงข้างน้อย รับการตรวจสอบ ไม่แสวงหาประโยชน์ 


นายจาตุรนต์ ฉายแสง กล่าวว่า 4 ปีที่ผ่านมาไม่ปรากฏเรื่องปฏิรูปที่ได้มีการบอกจะปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง แต่มีแผนปฏิรูป 6 ด้าน  ซึ่งไม่ทำให้คนรู้สึกว่าคือการปฏิรูป แต่เป็นเหมือนสภาพบังคับทางกฎหมาย จะรณรงค์ให้มีการเปลี่ยนแปลงยุทธศาสตร์ชาติ และแก้ระบบการเมืองประเทศ และต้องแก้รัฐธรรมนูญที่ไม่เป็นประชาธิปไตย โดยต้องยกเลิกระบบที่จะมียุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และไม่สนับสนุนนายกรัฐมนตรีคนนอก และหากมีการเลือกนายกฯคนนอก ก็จะไม่ขอร่วมรัฐบาล ไม่ว่าพรรคการเมืองจะลุแก่อำนาจอย่างไรก็ตาม กองทัพก็ไม่มีสิทธิ์ ที่จะยึดอำนาจ 

นายสรอรรถ กลิ่นประทุม กล่าวว่า ทุกพรรคการเมืองเตรียมความพร้อมสำหรับการเลือกตั้งที่จะมีขึ้น และหวังว่าจะมีการเลือกตั้ง 24 ก.พ. 2562 และจะเสนอชื่อหัวหน้าพรรค เป็นนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว ส่วนที่มีข่าวกลุ่มสามมิตรไปฟ้องพรรคภูมิใจไทยทำผิดกฎหมายหรือไม่นั้น พรรคมั่นใจไม่ได้ทำผิด 

“กรณีที่กลุ่มสามมิตรฟ้องภูมิใจไทยให้ยุบพรรค ผมนั่งคิดว่ากฎหมายลูกส.ส.ยังไม่ประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา ดังนั้นจึงยังหาสมาชิกไม่ได้ เพราะมีข้อจำกัด การบอกว่าเราทำผิดกฎหมายไม่ใช่แล้ว เรายึดมั่นประชาธิปไตย เคารพกติกา ไม่ว่าผลการเลือกตั้งออกมาอย่างไร ยินดีรับฟังเสียงประชาชน”  นายสรอรรถ กล่าว


ด้านนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ กล่าวว่า พรรคได้ออกแบบเพื่อให้เป็นไปตามอุดมการณ์พรรค ยืนยันจะไม่ซื้อเสียง ไม่ซื้อตัวส.ส. เพราะเชื่อว่าวิธีเปลี่ยนประเทศไทยให้กลับมาสู่ประชาธิปไตย คือเรื่องการชนะความคิด โดยจะชี้แจงรายละเอียดการใช้จ่ายเงินของพรรคทุกบาททุกสตางค์ ซึ่งจะถือเป็นรูปแบบใหม่  นอกจากไพรมารีโหวต คัดเลือกผู้สมัคร พรรคยังมีแนวคิดทำไพรมารีโหวตนโยบายพรรคด้วย และถ้ามีโอกาสร่วมรัฐบาลจะต่อรองขอกระทรวงแรงงาน และกระทรวงศึกษาธิการ

นายธนาธร กล่าวว่า ต้องกระจายอำนาจให้ประชาชนต่างจังหวัด เปิดโอกาสให้เกิดความเท่าเทียม ถ้าไม่แก้ปัญหาทางการเมือง ปัญหาอื่นของประเทศไทยจะไม่สามารถแก้ไขได้ พรรคเสนอให้หยุดยั้งการสืบทอดอำนาจของ คสช. ยกเลิกรัฐธรรมนูญปัจจุบันทั้งฉบับ ที่มีข้อจำกัด และไม่ให้มีการรัฐประหารอีกซึ่งเป็นเป้าหมายที่อยากทำให้ได้ก่อนตาย

นายไพบูลย์ นิติตะวัน  กล่าวว่า สนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ในการเลือกตั้งครั้งหน้า และหากไม่ต้องการให้มีการทำรัฐประหารอีก พรรคการเมืองต้องไม่ลุแก่อำนาจ  

“ผมไม่เลือกนายกรัฐมนตรีนอกรัฐธรรมนูญ แต่จะเลือกนายกรัฐมนตรี ที่รัฐธรรมนูญกำหนด และไม่เลือกนายกรัฐมนตรีที่อยู่ต่างประเทศ หรือส่งนอมินีมาเป็นนายกรัฐมนตรี” นายไพบูลย์ กล่าว

นายประสาร มฤคพิทักษ์ กล่าวว่า พรรคการเมืองที่ดีต้องไม่เป็นพรรคการเมืองภายใต้บริษัท ส่วนกรณีที่ คสช.เตรียมออกมาตรา 44 เพื่อแก้ไขระบบการส่งผู้สมัครลงเลือกตั้ง จากระบบไพรมารีโหวต เป็นระบบกรรมการสรรหานั้น ก็เชื่อว่าอำนาจจะยังอยู่ที่กรรมการสรรหา 11 คนไม่ใช่สมาชิกพรรค ซึ่งพรรครวมพลังประชาชาติไทย ยังคงยืนยันจะใช้ระบบไพรมารีโหวตแม้จะมีการออกมาตรา 44 มาแก้ไข.-สำนักข่าวไทย              

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พระขโมยรถยนต์โยมวันเข้าพรรษา

กาฬสินธุ์ 12 ก.ค.-วงการผ้าเหลืองไม่แผ่ว พระหนุ่มขโมยรถยนต์ญาติโยมที่มาทำบุญวันเข้าพรรษา ถูกตำรวจสกัดจับได้ทันควัน ตำรวจ สภ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ สกัดจับรถเก๋งสีดำคันบริเวณสี่แยกไฟแดง อ.สมเด็จ หลังรับแจ้งว่าพระสงฆ์หนุ่มแอบขโมยรถจากญาติโยมที่มาทำบุญในวันเข้าพรรษา แล้วขับหนีมาทาง อำเภอสมเด็จ ตำรวจจึงออกสกัดจับจนเจอ ส่วนพระสงฆ์ที่ก่อเหตุมีอาการพูดจาวกไปวนมา ตำรวจจึงนำตัวมาสงบสติอารมณ์ที่โรงพัก และแจ้งให้เจ้าของรถมารับรถคืน เตรียมดำเนินคดีกับพระรูปนี้ต่อไป หลังสึกจากการเป็นพระ.-สำนักข่าวไทย

น้ำป่าทะลักท่วมแพร่ บ้านเรือนเสียหายหนัก

แพร่ 12 ก.ค.-ฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่ จ.แพร่ น้ำป่าทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรช่วงกลางดึก เสียหาย 2 อำเภอ เกิดเหตุน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมพื้นที่ชุมชนในตำบลแดนชุมพล จังหวัดแพร่ และอำเภอร้องกวางบางส่วน เนื่องจากมีฝนตกลงมาอย่างหนักในช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา ส่งผลให้บ้านเรือนของประชาชนได้รับความเสียหายในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ลุ่มและแนวทางน้ำธรรมชาติที่รับน้ำจากภูเขาและป่าใกล้เคียง ปริมาณน้ำที่หลากเข้ามาเกิดจากฝนตกหนักต่อเนื่องตลอดช่วงคืนที่ผ่านมา ทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ชาวบ้านไม่ทันตั้งตัว ทรัพย์สินของประชาชนบางส่วนได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะบ้านโทกค่า อำเภอสอง จังหวัดแพร่ หลายหลังคาเรือนได้รับผลกระทบเนื่องจาก ไม่เคยเกิดเหตุแบบนี้มาก่อน ปีนี้น้ำมากกว่าทุกปี ทำให้เก็บข้าวของไม่ทัน ได้รับความเสียหาย ครั้งสุดท้ายที่เคยท่วม ตั้งแต่ปี 2538 .-สำนักข่าวไทย

สองสาวใหญ่ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกมือถือ

กทม. 12 ก.ค. – สองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกโทรศัพท์มือถือลอยนวล พบเคยเข้ามาขอเงินหลวงตาแล้วครั้งหนึ่ง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพขณะ ผู้หญิง 2 คนเข้าไปในกุฏิที่พระสงฆ์นอนอาพาธอยู่ คนหนึ่งนั่งพื้นส่วนอีกคนยืนอยู่แล้วเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือบนเตียงนอนไป เหตุการณ์นี้ นายมนูญ อายุ 29 ปี หลานชายของพระลูกวัดแห่งหนึ่ง ในซอยประชาอุทิศ 27 ถนนประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว ให้ช่วยตามหาสองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิ “หลวงตาสุข” อายุ 80 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคประจำตัว ประกอบกับอายุมากเดินได้ไม่ปกติ โดยหลวงตาสุข เป็นพระลูกวัด พักอยู่กุฏิด้านหลังโบสถ์ เมื่อวานนี้ (11 ก.ค.) ประมาณ 13.45 น. ขณะกำลังนอนพักผ่อนอยู่ มีหญิงร่างท้วม 2 คนเข้าไปในกุฏิ จากนั้นคนใส่เอี๊ยมสีเขียวผมสั้นลงมือค้นหาสิ่งของบนหัวเตียง ส่วนอีกคนที่มาด้วย คอยดูต้นทาง จนกระทั่งหญิงคนที่รื้อหาสิ่งของมองเห็นโทรศัพท์มือถือ ราคาประมาณ 4,000 บาท ของพระที่วางไว้หัวเตียง […]

มองเป็นการกระทำส่วนบุคคล ปมมีชื่อพระโผล่คลิปสีกา ก.

กรุงเทพฯ 11 ก.ค. – เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ เผยกรณีปรากฏชื่อ “พระปริยัติธาดา” ในคลิปพัวพันสีกา ก. มองเป็นการกระทำส่วนบุคคล ส่วนตัวอยากเห็นคลิปเพื่อยืนยันว่าท่านเกี่ยวข้องอย่างไร จากกรณีปรากฏรายชื่อพระในคลิปมีความสัมพันธ์กับ “สีกา ก.” จนถึงขั้นปาราชิก หนึ่งในนั้นคือ พระปริยัติธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร และมีรายงานข่าวว่าท่านหายตัวจากวัดหลังจากตกเป็นข่าว ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังวัดกัลยาณมิตรฯ พบว่าพระของวัดทุกรูปลงโบสถ์เพื่อประกอบศาสนกิจเนื่องในวันเข้าพรรษา ภายในพระอุโบสถ ภายหลังประกอบศาสนกิจลงโบสถ์ของพระวัดกัลยาณมิตรฯ เสร็จสิ้น พระพรหมกวี เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ ได้ถ่ายรูปกับพระใหม่และพระสงฆ์ในวัด และให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปถ่ายภาพ พร้อมกับพูดคุยเบื้องต้น กรณีปรากฏชื่อของพระปริยัติธาดา เป็นหนึ่งในบุคคลในคลิปที่เกี่ยวข้องกับสีกา ก. ว่าส่วนตัวไม่ทราบ คนเราไม่ได้รู้เรื่องส่วนตัวของคนอื่น มองเป็นเรื่องธรรมชาติในสังคมที่มีทั้งคนดีและไม่ดี เรื่องนี้เป็นการกระทำส่วนบุคคล ส่วนตัวอยากเห็นคลิปเพื่อยืนยันว่าท่านเกี่ยวข้องอย่างไร และอยากถาม พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว เพื่อขอดูคลิปที่กล่าวอ้าง ถ้าภาพมันชัดเจนก็ต้องออกตามกฎ ซึ่งใครทำอะไรก็ได้อย่างนั้น เมื่อถามว่า พระปริยัติธาดา ออกไปจากวัดตั้งแต่เมื่อไร พระพรหมกวี บอกว่า ท่านออกไปจากวัด 6-7 วันแล้ว ก็ออกไปเฉยๆ ไม่ได้สึกออกไป และไม่รู้ว่าตอนนี้สึกหรือยัง แต่หากจะสึกต้องแจ้งมาที่วัด […]

ข่าวแนะนำ

รัฐผ่อนปรนรถบัสสองชั้น 6 เส้นทางเสี่ยง เริ่ม 21 ก.ค.นี้

ทำเนียบ 13 ก.ค.-รัฐผ่อนปรนรถบัสสองชั้น 6 เส้นทางเสี่ยง เริ่ม 21 ก.ค.นี้ พร้อมคุมเข้มมาตรฐานความปลอดภัยทุกขั้นตอน เพื่อความปลอดภัยของประชาชน นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า รัฐบาลโดยกรมขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม ได้มีการผ่อนปรนให้รถโดยสารสองชั้นสามารถวิ่งใน 6 เส้นทางได้เป็นการชั่วคราว เป็นระยะเวลา 180 วัน โดยจะเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 21 กรกฎาคม 2568 เป็นต้นไป ดังนี้ 1.ทางหลวงหมายเลข 4 ช่วงเขาพับผ้า-พัทลุง 2.ทางหลวงหมายเลข 103 ช่วงแม่ยางฮ่อ-แม่ตีบ 3.ทางหลวงหมายเลข 118 ช่วงเชียงใหม่-ดอยนางแก้ว 4.ทางหลวงหมายเลข 2013 ช่วงบ่อโพธิ์-โคกงาม 5.ทางหลวงหมายเลข 2331 ช่วงโจ๊ะโหวะ-อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า และ 6.ทางหลวงหมายเลข 1256 ช่วงปัว- อุทยานแห่งชาติดอยภูคา โดยผู้ประกอบการที่ประสงค์จะเดินรถโดยสารสองชั้น ในเส้นทางผ่อนปรนดังกล่าว จะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขอย่างเคร่งครัด ดังนี้ 1.นำรถเข้ารับการตรวจสภาพ (Recall) ณ […]

เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

กทม. 13 ก.ค.-กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง โดยเฉพาะภาคเหนือ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง พะเยา น่าน หนองคาย และบึงกาฬ ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศฉบับที่ 6 เรื่อง ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทยและคลื่นลมแรงบริเวณทะเลอันดามันตอนบน (มีผลกระทบในช่วงวันที่ 12-13 กรกฎาคม 2568) ในวันที่ 13 กรกฎาคม 2568 ประเทศไทยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งโดยเฉพาะภาคเหนือบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง พะเยา น่าน หนองคาย และบึงกาฬ เนื่องจากมีร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมาตอนบน ภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณภาคเหนือตอนบน ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง และเส้นทางที่มีปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำ ซึ่งอาจเกิดน้ำท่วมขังในระยะสั้นได้ จังหวัดที่คาดว่าจะมีฝนตกหนักถึงหนักมาก มีดังนี้ ในวันที่ 13 กรกฎาคม […]

ผบ.กองกำลังนเรศวร ลงพื้นที่ หลังเมียนมาปะทะรุนแรง

ตาก 12 ก.ค. – ผบ.กองกำลังนเรศวร ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ด่วน พร้อมเฝ้าระวังชายแดนอำเภอพบพระอย่างใกล้ชิด หลังเหตุปะทะในเมียนมาทวีความรุนแรง มีรายงานการโจมตีค่ายทหารเมียนมาด้วยโดรน กองกำลังกะเหรี่ยงเคเอ็นแอลเอ กลุ่มต่อต้านรัฐบาลเมียนมา ใช้โดรนทิ้งระเบิดโจมตีใส่ฐาน “ทีตาแหล่” ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามบ้านวาเล่ย์เหนือ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก หลายครั้ง ขณะที่ทหารเมียนมาก็ยิงปืนเล็กยาวตอบโต้ โดยยังไม่ทราบความเสียหายที่เกิดขึ้น และยังไม่มีรายงานผลกระทบต่อฝั่งประเทศไทย พลตรีไมตรี ชูปรีชา ผู้บัญชาการกองกำลังนเรศวร พร้อมคณะนายทหารระดับสูง และฝ่ายปกครองอำเภอพบพระ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์บริเวณบ้านวาเล่ย์ และบ้านมอเกอร์ไทย อำเภอพบพระ อย่างใกล้ชิด เพื่อประสานงานกับหน่วยงานความมั่นคงในการเตรียมแผนเผชิญเหตุจากผลกระทบของการสู้รบใกล้แนวชายแดนในด้านมนุษยธรรม โดยขณะนี้มีผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมาจำนวน 457 คน อาศัยอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว 2 แห่ง ในอำเภอพบพระ และได้รับการดูแลตามหลักมนุษยธรรมภายใต้ความร่วมมือของศูนย์สั่งการชายแดนประเทศเพื่อนบ้านด้านเมียนมา จังหวัดตาก และแนวทางของสภาความมั่นคงแห่งชาติ พลตรี ไมตรี เน้นย้ำให้หน่วยเฉพาะกิจราชมนู ร่วมกับฝ่ายปกครอง เพิ่มความเข้มงวดในการป้องกันการรุกล้ำอธิปไตยของกองกำลังติดอาวุธต่างชาติ และดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งกองกำลังนเรศวรยืนยันว่าประเทศไทยไม่ใช่คู่ขัดแย้ง และไม่สนับสนุนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในการใช้พื้นที่ประเทศไทยเพื่อประโยชน์ของตนเอง .-สำนักข่าวไทย

สองสาวใหญ่ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกมือถือ

กทม. 12 ก.ค. – สองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกโทรศัพท์มือถือลอยนวล พบเคยเข้ามาขอเงินหลวงตาแล้วครั้งหนึ่ง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพขณะ ผู้หญิง 2 คนเข้าไปในกุฏิที่พระสงฆ์นอนอาพาธอยู่ คนหนึ่งนั่งพื้นส่วนอีกคนยืนอยู่แล้วเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือบนเตียงนอนไป เหตุการณ์นี้ นายมนูญ อายุ 29 ปี หลานชายของพระลูกวัดแห่งหนึ่ง ในซอยประชาอุทิศ 27 ถนนประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว ให้ช่วยตามหาสองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิ “หลวงตาสุข” อายุ 80 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคประจำตัว ประกอบกับอายุมากเดินได้ไม่ปกติ โดยหลวงตาสุข เป็นพระลูกวัด พักอยู่กุฏิด้านหลังโบสถ์ เมื่อวานนี้ (11 ก.ค.) ประมาณ 13.45 น. ขณะกำลังนอนพักผ่อนอยู่ มีหญิงร่างท้วม 2 คนเข้าไปในกุฏิ จากนั้นคนใส่เอี๊ยมสีเขียวผมสั้นลงมือค้นหาสิ่งของบนหัวเตียง ส่วนอีกคนที่มาด้วย คอยดูต้นทาง จนกระทั่งหญิงคนที่รื้อหาสิ่งของมองเห็นโทรศัพท์มือถือ ราคาประมาณ 4,000 บาท ของพระที่วางไว้หัวเตียง […]