เต็มถัง ..เชลล์นำร่องขึ้นก่อนแล้วเช้านี้

กรุงเทพฯ 31 สค . – เชลล์ขึ้นราคาน้ำมัน 40 สต.มีผลเช้านี้ คาดรายอื่นขึ้นตาม หลังต้นทุนน้ำมันดิบขยับต่อเนื่อง จับตา กบง.หนุนดีเซลเพิ่มหลังใกล้แตะ 30 บาท/ลิตร ส่วนเงินหนุนแอลพีจี พุ่งกว่า 3.1 พันล้านบาทแล้ว

สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน ( สนพ.) รายงานราคาน้ำมันในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลว่า เชลล์ปรับราคาน้ำมันขึ้น 40 สต./ลิตร ทุกผลิตภัณฑ์มีผลตั้งแต่เช้าวันนี้ (31 ส.ค.) โดยราคาดีเซลปรับขึ้นไปอยู่ที่29.99 บาท/ลิตร ซึ่งเป็นอัตราที่กระทรวงพลังงานประกาศไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะดูแลไม่ให้เกิน 30 บาท/ลิตรไปจนถึงสิ้นปีนี้ เพื่อป้องกันผลกระทบค่าครองชีพของประชาชน

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหากดูแลดีเซลเพิ่มเติมก็ต้องใช้กลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมาอุดหนุน ซึ่งขณะนี้มีวงเงินเหลือลดลง หลังจากเข้าไปอุดหนุนราคาแอลพีจี เกินกรอบราคาที่คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) กำหนดที่ 3,000 ล้านบาทไปแล้ว จากนโยบายดูแลราคาแอลพีจีถัง 15 กก.ที่ 363 บาท โดยฐานะกองทุนวันที่ 26 สิงหาคม 2561 ฐานะทางบัญชีน้ำมันอยู่ที่ 29,354 ล้านบาท บัญชีแอลพีจี 3,155 ล้านบาท เหลือสุทธิ 26,199 ล้านบาท

นายสมชัย เตชะวณิช ประธานเจ้าหน้าที่การตลาดและรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจการตลาด บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ขณะนี้ราคาน้ำมันปรับถี่ก็เป็นการปรับสะท้อนต้นทุนให้มากที่สุด หากราคาขึ้นหรือลงก็ปรับเร็วเช่นกัน โดยต้นทุนน้ำมันดิบที่ปรับขึ้นก็เป็นเพราะตลาดกังวลผลกระทบจากที่สหรัฐคว่ำบาตรอิหร่าน ทำให้ปริมาณน้ำมันดิบเข้าสู่ตลาดน้อยลง อย่างไรก็ตาม หากรัสเซียและซาอุดิอาระเบียผลิตเพิ่มทดแทน ก็จะทำให้สถานการณ์คลายตัว โดยคาดว่าราคาน้ำมันดิบดูไบจะทรงตัวระดับสูงจนถึงปีหน้าที่ 65-70 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

บมจ.ไทยออยล์รายงานราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังอุปทานน้ำมันดิบมีแนวโน้มตึงตัวต่อเนื่อง โดยล่าสุดสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐประจำสัปดาห์ สิ้นสุดวันที่ 24 สิงหาคม 2561 ปรับตัวลดลง 2.6 ล้านบาร์เรล มากกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 0.9 ล้านบาร์เรล นอกจากนี้ ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐคาดจะปรับลดลงต่อเนื่องในสัปดาห์หน้าจากปริมาณการส่งออกและการกลั่นน้ำมันดิบในสหรัฐที่อยู่ในระดับสูง

ด้านปริมาณการส่งน้ำมันดิบของอิหร่านเดือนสิงหาคม 2561 ปรับลดลงมาแตะระดับ 2.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากระดับสูงสุดที่ 3.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในเดือนเมษายน หลังเกาหลีใต้หยุดนำเข้าน้ำมันดิบจากอิหร่าน ขณะที่ญี่ปุ่นวางแผนที่จะหยุดนำเข้าน้ำมันดิบจากอิหร่านในช่วงกลางเดือนกันยายน 2561 เป็นต้นไป นอกจากนี้ ยุโรปได้เริ่มลดการนำเข้าลงแล้วกว่า 10 ล้านบาร์เรล ในเดือนสิงหาคม

ส่วนปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบจากประเทศเวเนซุเอลามีแนวโน้มจะปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง หลังเกิดอุบัติเหตุแถวท่าเรือขนส่งน้ำมันหลักของประเทศ ส่งผลให้ต้องปิดดำเนินการท่าเรือ โดยล่าสุดปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบจากเวเนซุเอลาคาดจะปรับลดลงมาอยู่ที่ประมาณ 1.0 ล้านบาร์เรลต่อวัน ลดลงจากเดิมที่ราว 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน. – สำนักข่าวไทย