กรุงเทพฯ 29 ส.ค. – สงครามการค้ายังไม่กระทบโดยตรงต่อเอสเอ็มอีกลุ่มส่งออก 56,693 ราย สสว.เสริมการช่วยเหลือ เตรียมจัดใหญ่ “SME ONE FEST 2018” รวมเอสเอ็มอีทั่วไทยกว่า 1,100 บูธ คาดเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท พร้อมจับคู่ธุรกิจดันเอสเอ็มเจาะ CLMV และตุรกี
นายสุวรรณชัย โลหะวัฒนกุล ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยว่า สงครามการค้าในตลาดโลกที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ล่าสุดยังไม่ส่งผลกระทบโดยตรงกับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ส่งออกสินค้าไปขายต่างประเทศ ที่ปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 56,693 ราย เนื่องจากการส่งออก-นำเข้ามีระยะเวลาในการสั่งซื้อสินค้าและการผลิตสินค้าเพื่อส่งลูกค้าหรือ time lag ดังนั้นจะต้องรอประเมินผลในช่วงเดือนต่อไป
สำหรับยอดการส่งออกของเอสเอ็มอี ล่าสุดจนถึงเดือนมิถุนายนปี 2561 มีมูลค่า 170,813.4 ล้านบาท ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 0.4 และเมื่ออยู่ในรูปดอลลาร์สหรัฐ มีมูลค่า 5,359.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 7.7 โดยสัดส่วนของการส่งออกของเอสเอ็มอีต่อการส่งออกรวมเท่ากับร้อยละ 24.6 ทั้งนี้ ภาพรวม 5 ปีที่ผ่านมาการส่งออกขยายตัวเป็นบวกเกือบทุกปี ยกเว้นปี 2556 และปี 2560 จากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งแนวโน้มคาดว่าจะยังขยายตัว เพราะในช่วง 6 เดือนยังขยายตัวร้อยละ 7.7 ในรูปดอลลาร์สหรัฐ
นายสุวรรณชัย กล่าวว่า ผลกระทบที่เกิดขึ้นขณะนี้ คือ การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีที่ผู้ประกอบการต้องปรับตัวและนำเทคโนโลยีมาใช้ พร้อมกับก้าวเข้าสู่การค้าออนไลน์ที่เป็นการค้าที่เปิดเสรี อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีจำเป็นต้องพัฒนาสินค้าให้ตรงความต้องการลูกค้า เพื่อบุกตลาดสากลให้ได้ เพราะท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรงทั้งตลาดภายในประเทศและต่างประเทศ จึงเป็นแรงกดดันสำคัญส่งผลกระทบต่อการเติบโตของเอสเอ็มอีไทย ดังนั้น สสว.จึงตั้งโครงการพัฒนาช่องทางการตลาดสำหรับ ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ซึ่งปี 2561 ตั้งเป้าจะพัฒนาผู้ประกอบการเอสเอ็มอีได้รับความรู้ด้านการตลาดต่างประเทศไม่ต่ำกว่า 2,000 ราย สนับสนุนด้านการตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศไม่น้อยกว่า 2,000 กิจการ และส่งเสริมให้เกิดการจับคู่ธุรกิจไม่น้อยกว่า 2,000 คู่ และเกิดมูลค่าการเจรจาการค้าของผู้ประกอบการไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านบาท
ผอ.สสว. กล่าวว่า เพื่อที่จะผลักดันให้เป็นไปตามเป้าหมายดังกล่าว สสว.จึงเตรียมจัดงาน “SME ONE FEST 2018” ระหว่างวันที่ 6-9 กันยายน 2561 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยเชิญผู้ประกอบการที่เป็นสมาชิกของ สสว.ทั่วประเทศมาร่วมจัดแสดงสินค้ากว่า 1,100 บูธ อาทิ สินค้าออร์แกนิค ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงาม อาหารและเครื่องดื่ม ทั้งแบบสำเร็จรูปและพร้อมรับประทาน สินค้าไลฟ์สไตล์ สินค้าแฟชั่น เครื่องประดับจากดีไซเนอร์รุ่นใหม่ และปลาสวยงาม คาดว่าจะเกิดมูลค่าการซื้อขายในงานนี้ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท และจะมีผู้เข้าร่วมชมงานครั้งนี้ประมาณ 50,000 คน
“ในงานยังมีการจัดกิจกรรมจับคู่ธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยกับเอสเอ็มอีประเทศเพื่อนบ้านในกลุ่ม CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม) และตุรกี คาดว่าจะเกิดการจับคู่ธุรกิจไม่ต่ำกว่า 250 ราย ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันไปสู่เป้าหมายการจับคู่ธุรกิจปีนี้ไม่ต่ำกว่า 2,000 คู่” นายสุวรรณชัย กล่าว
พร้อมกันนี้ภายในงาน “SME ONE FEST 2018” ยังได้จัดกิจกรรมการสัมมนาให้ความรู้จากผู้เชี่ยวชาญด้านต่าง ๆ อาทิ หัวข้อ “ปรับตัวอย่างไรในยุคออนไลน์” โดยนายปฤณ จำเริญพานิช หัวข้อ “พูดอย่างไรให้รวย” โดย อ.ธันยวัชร์ ไชยตระกูลชัย เป็นต้น รวมทั้งยังมีบล็อกเกอร์ชื่อดังมาแชร์ประสบการณ์แนะนำเคล็ดลับดี ๆ อาทิ นางพญาปลวก by miss rain เทคนิคการแต่งหน้าในโอกาสต่าง ๆ, ป้าพิม Misspimpaka แนะนำด้านความงามและการดูแลสุขภาพ, เชฟบุ๊ค บุญสมิทธิ์ รายการ Foodwork จากร้าน “ราดหน้าขั้นเทพ” กับการสาธิตการทำอาหารสไตล์ฟิวชั่น เพื่อนำไปต่อยอดเป็นอาชีพ การสาธิตการทำเครื่องประดับ แฮนเมด จากร้าน Nunya Design, สาธิตการทำผลิตภัณฑ์แปรรูปจากดิน จากร้าน CC&C Product, สาธิตผ้าเขียนลายบ้านหัตถศิลป์, สาธิตการทำดอกไม้ประดิษฐ์ทำมือจากวัสดุธรรมชาติ จากบริษัท เทียร่า เด เต้ จำกัด เป็นต้น
สำหรับการจัดงานในครั้งนี้เป็นการดำเนินภายใต้โครงการส่งเสริมผู้ประกอบเอ็สเอ็มอี ตลอดปี 2561 ของ สสว. และเป็นการติดอาวุธทางการตลาด รวมถึงการเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าให้ผู้ประกอบการสตาร์ทอัพไทย สามารถต่อยอดสู่ระดับประเทศและนำไปสู่การต่อยอดในระดับสากล.-สำนักข่าวไทย