สงครามการค้ายังไม่กระทบโดยตรงต่อเอสเอ็มอีส่งออก

กรุงเทพฯ 29 ส.ค. – สงครามการค้ายังไม่กระทบโดยตรงต่อเอสเอ็มอีกลุ่มส่งออก 56,693  ราย  สสว.เสริมการช่วยเหลือ เตรียมจัดใหญ่   “SME ONE FEST 2018”  รวมเอสเอ็มอีทั่วไทยกว่า 1,100 บูธ คาดเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท พร้อมจับคู่ธุรกิจดันเอสเอ็มเจาะ CLMV และตุรกี


นายสุวรรณชัย โลหะวัฒนกุล ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยว่า สงครามการค้าในตลาดโลกที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ล่าสุดยังไม่ส่งผลกระทบโดยตรงกับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ส่งออกสินค้าไปขายต่างประเทศ ที่ปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 56,693 ราย เนื่องจากการส่งออก-นำเข้ามีระยะเวลาในการสั่งซื้อสินค้าและการผลิตสินค้าเพื่อส่งลูกค้าหรือ time lag  ดังนั้นจะต้องรอประเมินผลในช่วงเดือนต่อไป

สำหรับยอดการส่งออกของเอสเอ็มอี ล่าสุดจนถึงเดือนมิถุนายนปี 2561 มีมูลค่า 170,813.4 ล้านบาท ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 0.4 และเมื่ออยู่ในรูปดอลลาร์สหรัฐ มีมูลค่า 5,359.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 7.7 โดยสัดส่วนของการส่งออกของเอสเอ็มอีต่อการส่งออกรวมเท่ากับร้อยละ 24.6  ทั้งนี้ ภาพรวม 5 ปีที่ผ่านมาการส่งออกขยายตัวเป็นบวกเกือบทุกปี ยกเว้นปี 2556 และปี 2560 จากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งแนวโน้มคาดว่าจะยังขยายตัว เพราะในช่วง 6 เดือนยังขยายตัวร้อยละ 7.7 ในรูปดอลลาร์สหรัฐ


นายสุวรรณชัย กล่าวว่า ผลกระทบที่เกิดขึ้นขณะนี้ คือ การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีที่ผู้ประกอบการต้องปรับตัวและนำเทคโนโลยีมาใช้ พร้อมกับก้าวเข้าสู่การค้าออนไลน์ที่เป็นการค้าที่เปิดเสรี อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีจำเป็นต้องพัฒนาสินค้าให้ตรงความต้องการลูกค้า เพื่อบุกตลาดสากลให้ได้ เพราะท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรงทั้งตลาดภายในประเทศและต่างประเทศ จึงเป็นแรงกดดันสำคัญส่งผลกระทบต่อการเติบโตของเอสเอ็มอีไทย ดังนั้น  สสว.จึงตั้งโครงการพัฒนาช่องทางการตลาดสำหรับ ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ซึ่งปี 2561 ตั้งเป้าจะพัฒนาผู้ประกอบการเอสเอ็มอีได้รับความรู้ด้านการตลาดต่างประเทศไม่ต่ำกว่า 2,000 ราย สนับสนุนด้านการตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศไม่น้อยกว่า 2,000 กิจการ และส่งเสริมให้เกิดการจับคู่ธุรกิจไม่น้อยกว่า 2,000 คู่ และเกิดมูลค่าการเจรจาการค้าของผู้ประกอบการไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านบาท

ผอ.สสว. กล่าวว่า เพื่อที่จะผลักดันให้เป็นไปตามเป้าหมายดังกล่าว สสว.จึงเตรียมจัดงาน  “SME ONE FEST 2018” ระหว่างวันที่ 6-9 กันยายน 2561 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยเชิญผู้ประกอบการที่เป็นสมาชิกของ สสว.ทั่วประเทศมาร่วมจัดแสดงสินค้ากว่า 1,100 บูธ อาทิ สินค้าออร์แกนิค ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงาม อาหารและเครื่องดื่ม ทั้งแบบสำเร็จรูปและพร้อมรับประทาน สินค้าไลฟ์สไตล์ สินค้าแฟชั่น เครื่องประดับจากดีไซเนอร์รุ่นใหม่ และปลาสวยงาม คาดว่าจะเกิดมูลค่าการซื้อขายในงานนี้ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท และจะมีผู้เข้าร่วมชมงานครั้งนี้ประมาณ 50,000 คน 


“ในงานยังมีการจัดกิจกรรมจับคู่ธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยกับเอสเอ็มอีประเทศเพื่อนบ้านในกลุ่ม CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม) และตุรกี คาดว่าจะเกิดการจับคู่ธุรกิจไม่ต่ำกว่า 250 ราย ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันไปสู่เป้าหมายการจับคู่ธุรกิจปีนี้ไม่ต่ำกว่า 2,000 คู่” นายสุวรรณชัย กล่าว 

พร้อมกันนี้ภายในงาน  “SME ONE FEST 2018”  ยังได้จัดกิจกรรมการสัมมนาให้ความรู้จากผู้เชี่ยวชาญด้านต่าง ๆ อาทิ หัวข้อ “ปรับตัวอย่างไรในยุคออนไลน์” โดยนายปฤณ จำเริญพานิช หัวข้อ “พูดอย่างไรให้รวย”  โดย อ.ธันยวัชร์ ไชยตระกูลชัย เป็นต้น รวมทั้งยังมีบล็อกเกอร์ชื่อดังมาแชร์ประสบการณ์แนะนำเคล็ดลับดี ๆ อาทิ นางพญาปลวก by miss rain เทคนิคการแต่งหน้าในโอกาสต่าง ๆ, ป้าพิม Misspimpaka แนะนำด้านความงามและการดูแลสุขภาพ,  เชฟบุ๊ค บุญสมิทธิ์ รายการ Foodwork จากร้าน “ราดหน้าขั้นเทพ” กับการสาธิตการทำอาหารสไตล์ฟิวชั่น เพื่อนำไปต่อยอดเป็นอาชีพ การสาธิตการทำเครื่องประดับ แฮนเมด จากร้าน Nunya Design, สาธิตการทำผลิตภัณฑ์แปรรูปจากดิน จากร้าน CC&C Product, สาธิตผ้าเขียนลายบ้านหัตถศิลป์, สาธิตการทำดอกไม้ประดิษฐ์ทำมือจากวัสดุธรรมชาติ จากบริษัท เทียร่า เด เต้ จำกัด เป็นต้น

สำหรับการจัดงานในครั้งนี้เป็นการดำเนินภายใต้โครงการส่งเสริมผู้ประกอบเอ็สเอ็มอี ตลอดปี 2561 ของ สสว. และเป็นการติดอาวุธทางการตลาด รวมถึงการเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าให้ผู้ประกอบการสตาร์ทอัพไทย สามารถต่อยอดสู่ระดับประเทศและนำไปสู่การต่อยอดในระดับสากล.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พระขโมยรถยนต์โยมวันเข้าพรรษา

กาฬสินธุ์ 12 ก.ค.-วงการผ้าเหลืองไม่แผ่ว พระหนุ่มขโมยรถยนต์ญาติโยมที่มาทำบุญวันเข้าพรรษา ถูกตำรวจสกัดจับได้ทันควัน ตำรวจ สภ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ สกัดจับรถเก๋งสีดำคันบริเวณสี่แยกไฟแดง อ.สมเด็จ หลังรับแจ้งว่าพระสงฆ์หนุ่มแอบขโมยรถจากญาติโยมที่มาทำบุญในวันเข้าพรรษา แล้วขับหนีมาทาง อำเภอสมเด็จ ตำรวจจึงออกสกัดจับจนเจอ ส่วนพระสงฆ์ที่ก่อเหตุมีอาการพูดจาวกไปวนมา ตำรวจจึงนำตัวมาสงบสติอารมณ์ที่โรงพัก และแจ้งให้เจ้าของรถมารับรถคืน เตรียมดำเนินคดีกับพระรูปนี้ต่อไป หลังสึกจากการเป็นพระ.-สำนักข่าวไทย

น้ำป่าทะลักท่วมแพร่ บ้านเรือนเสียหายหนัก

แพร่ 12 ก.ค.-ฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่ จ.แพร่ น้ำป่าทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรช่วงกลางดึก เสียหาย 2 อำเภอ เกิดเหตุน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมพื้นที่ชุมชนในตำบลแดนชุมพล จังหวัดแพร่ และอำเภอร้องกวางบางส่วน เนื่องจากมีฝนตกลงมาอย่างหนักในช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา ส่งผลให้บ้านเรือนของประชาชนได้รับความเสียหายในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ลุ่มและแนวทางน้ำธรรมชาติที่รับน้ำจากภูเขาและป่าใกล้เคียง ปริมาณน้ำที่หลากเข้ามาเกิดจากฝนตกหนักต่อเนื่องตลอดช่วงคืนที่ผ่านมา ทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ชาวบ้านไม่ทันตั้งตัว ทรัพย์สินของประชาชนบางส่วนได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะบ้านโทกค่า อำเภอสอง จังหวัดแพร่ หลายหลังคาเรือนได้รับผลกระทบเนื่องจาก ไม่เคยเกิดเหตุแบบนี้มาก่อน ปีนี้น้ำมากกว่าทุกปี ทำให้เก็บข้าวของไม่ทัน ได้รับความเสียหาย ครั้งสุดท้ายที่เคยท่วม ตั้งแต่ปี 2538 .-สำนักข่าวไทย

สองสาวใหญ่ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกมือถือ

กทม. 12 ก.ค. – สองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกโทรศัพท์มือถือลอยนวล พบเคยเข้ามาขอเงินหลวงตาแล้วครั้งหนึ่ง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพขณะ ผู้หญิง 2 คนเข้าไปในกุฏิที่พระสงฆ์นอนอาพาธอยู่ คนหนึ่งนั่งพื้นส่วนอีกคนยืนอยู่แล้วเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือบนเตียงนอนไป เหตุการณ์นี้ นายมนูญ อายุ 29 ปี หลานชายของพระลูกวัดแห่งหนึ่ง ในซอยประชาอุทิศ 27 ถนนประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว ให้ช่วยตามหาสองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิ “หลวงตาสุข” อายุ 80 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคประจำตัว ประกอบกับอายุมากเดินได้ไม่ปกติ โดยหลวงตาสุข เป็นพระลูกวัด พักอยู่กุฏิด้านหลังโบสถ์ เมื่อวานนี้ (11 ก.ค.) ประมาณ 13.45 น. ขณะกำลังนอนพักผ่อนอยู่ มีหญิงร่างท้วม 2 คนเข้าไปในกุฏิ จากนั้นคนใส่เอี๊ยมสีเขียวผมสั้นลงมือค้นหาสิ่งของบนหัวเตียง ส่วนอีกคนที่มาด้วย คอยดูต้นทาง จนกระทั่งหญิงคนที่รื้อหาสิ่งของมองเห็นโทรศัพท์มือถือ ราคาประมาณ 4,000 บาท ของพระที่วางไว้หัวเตียง […]

มองเป็นการกระทำส่วนบุคคล ปมมีชื่อพระโผล่คลิปสีกา ก.

กรุงเทพฯ 11 ก.ค. – เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ เผยกรณีปรากฏชื่อ “พระปริยัติธาดา” ในคลิปพัวพันสีกา ก. มองเป็นการกระทำส่วนบุคคล ส่วนตัวอยากเห็นคลิปเพื่อยืนยันว่าท่านเกี่ยวข้องอย่างไร จากกรณีปรากฏรายชื่อพระในคลิปมีความสัมพันธ์กับ “สีกา ก.” จนถึงขั้นปาราชิก หนึ่งในนั้นคือ พระปริยัติธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร และมีรายงานข่าวว่าท่านหายตัวจากวัดหลังจากตกเป็นข่าว ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังวัดกัลยาณมิตรฯ พบว่าพระของวัดทุกรูปลงโบสถ์เพื่อประกอบศาสนกิจเนื่องในวันเข้าพรรษา ภายในพระอุโบสถ ภายหลังประกอบศาสนกิจลงโบสถ์ของพระวัดกัลยาณมิตรฯ เสร็จสิ้น พระพรหมกวี เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ ได้ถ่ายรูปกับพระใหม่และพระสงฆ์ในวัด และให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปถ่ายภาพ พร้อมกับพูดคุยเบื้องต้น กรณีปรากฏชื่อของพระปริยัติธาดา เป็นหนึ่งในบุคคลในคลิปที่เกี่ยวข้องกับสีกา ก. ว่าส่วนตัวไม่ทราบ คนเราไม่ได้รู้เรื่องส่วนตัวของคนอื่น มองเป็นเรื่องธรรมชาติในสังคมที่มีทั้งคนดีและไม่ดี เรื่องนี้เป็นการกระทำส่วนบุคคล ส่วนตัวอยากเห็นคลิปเพื่อยืนยันว่าท่านเกี่ยวข้องอย่างไร และอยากถาม พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว เพื่อขอดูคลิปที่กล่าวอ้าง ถ้าภาพมันชัดเจนก็ต้องออกตามกฎ ซึ่งใครทำอะไรก็ได้อย่างนั้น เมื่อถามว่า พระปริยัติธาดา ออกไปจากวัดตั้งแต่เมื่อไร พระพรหมกวี บอกว่า ท่านออกไปจากวัด 6-7 วันแล้ว ก็ออกไปเฉยๆ ไม่ได้สึกออกไป และไม่รู้ว่าตอนนี้สึกหรือยัง แต่หากจะสึกต้องแจ้งมาที่วัด […]

ข่าวแนะนำ

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิกพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ตาวัย 71 ปี ขับรถพุ่งชนรถพ่วงเสียชีวิต

สมุทรสงคราม 13 ก.ค.-ตาวัย 71 ปี ขับเก๋งพุ่งชนกลางลำรถพ่วงบรรทุกเสาเข็มขณะกำลังกลับรถ เสียชีวิตบนถนนสมุทรสงครามบางแพ อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม กล้องวงจรปิดบันทึกภาพเหตุการณ์ขณะรถพ่วงบรรทุกเสาเข็มกำลังกลับรถทำให้ตัวรถขวางถนน จังหวะนั้นรถเก๋ง ขับมาด้วยความเร็ว พุ่งชนเข้ากลางลำรถพ่วง เหตุเกิดบนถนนสมุทรสงครามบางแพ บริเวณจุดกลับรถหน้าโรงบรรจุแก๊สหุงต้ม ฝั่งขาเข้าแม่กลอง ม.9 ต.บางช้าง อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม ช่วงเวลา 19.18 น.วานนี้ (12 ก.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อัมพวา รับแจ้ง จึงเข้าตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัย ที่เกิดเหตุพบนายชาญพินิต ส่งชัย อายุ 71 ปี ชาวกรุงเทพมหานคร คาดเข็มขัดนิรภัย นั่งหมดสติไม่รู้สึกตัวบนเบาะคนขับ เจ้าหน้าที่ต้องใช้อุปกรณ์ตัดถ่างประมาณ 5 นาที กว่าจะนำร่างนายชาญพินิต ออกมาและพยายามปั๊มหัวใจช่วยชีวิต แต่นายชาญพินิต เสียชีวิตแล้ว ใกล้กันพบรถพ่วง 22 ล้อ ลูกพ่วงไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จอดขวางถนนในลักษณะกำลังกลับรถ บริเวณล้อหลังรถพ่วงมี 3 เพลา รวม 12 ล้อ […]