การประชุม APDT เปิดอย่างเป็นทางการ

กรุงเทพฯ  27 ส.ค. – การประชุม APDT เปิดอย่างเป็นทางการ  30 ประเทศร่วมแลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์ เพิ่มประสิทธิภาพการเจาะสำรวจปิโตรเลียม


นายสมพร ว่องวุฒิพรชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ.ในฐานะประธานการจัดการประชุม  APDT เปิดเผยว่า จากการที่อุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซธรรมชาติเผชิญกับความท้าทายเกี่ยวกับความ ผันผวนของราคาน้ำมันในช่วงที่ผ่านมา รวมถึงการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ซึ่งเป็นผลมาจากเทคโนโลยีดิจิทัล (Digitalization) ปัจจุบัน ส่งผลให้อุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซฯ ต้องปรับตัวเพื่อก้าวไปข้างหน้าด้วยการแสวงหากระบวนการใหม่ ๆ เทคโนโลยีล้ำสมัย สร้างเครื่องมือและระบบต่าง ๆ เพื่อช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน 


“การประชุม APDT ที่ประเทศไทยครั้งนี้ ถือเป็นเวทีสำคัญทำให้บุคลากรในอุตสาหกรรมมีโอกาสแลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์ มุมมองใหม่ ๆ รวมทั้งความก้าวหน้าของเทคโนโลยีการเจาะสำรวจปิโตรเลียม เนื่องจากการเจาะสำรวจแหล่งน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติเป็นขั้นตอนสำคัญของธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียม เพราะเป็นวิธีเดียวที่จะพิสูจน์ว่ามีแหล่งน้ำมันหรือก๊าซฯ หรือไม่ และเป็นขั้นตอนที่ใช้เงินลงทุนสูง ดังนั้น การเพิ่มประสิทธิภาพการเจาะสำรวจโดยการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วย จึงเป็นสิ่งที่อุตสาหกรรมปิโตรเลียมให้ความสำคัญที่จะช่วยให้การดำเนินงานของแต่ละบริษัทบรรลุเป้าหมาย” นายสมพร กล่าว 

สำหรับการประชุม APDT ครั้งนี้มีการนำเสนอบทความทางวิชาการเกี่ยวกับการเจาะสำรวจมากกว่า 90 หัวข้อ จาก 22 ประเทศ มีการอภิปรายด้านการขยายความร่วมมือทางธุรกิจ อนาคตของแท่นเจาะน้ำมัน และเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในช่วงที่อุตสาหกรรมกำลังเข้าสู่ยุคดิจิทัล  โดย ปตท.สผ.ได้ส่งบทความทางวิชาการนำเสนอในงาน 8 หัวข้อ เช่น งานวิจัยที่เกี่ยวกับการปรับปรุงประสิทธิภาพการเจาะในโครงการซอติก้า และการเพิ่มประสิทธิและลดต้นทุนการเจาะในโครงการเอส 1 เป็นต้น


นอกจากนี้ ยังมีการจัดแสดงนิทรรศการจากเกือบ 30 บริษัท โดย ปตท.สผ.ร่วมแสดงนิทรรศการภายใต้แนวคิด “ความภาคภูมิใจของประเทศไทย” (Pride of Thailand) นำเสนอความสำคัญของแหล่งน้ำมันดิบสิริกิติ์ แหล่งบงกช และแหล่งอาทิตย์ ซึ่งเป็นแหล่งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติหลักของประเทศไทย รวมทั้งนำเทคโนโลยีที่ ปตท.สผ.คิดค้นขึ้น โดยร่วมกับสถาบันต่าง ๆ ในการพัฒนา เช่น หุ่นยนต์ใต้น้ำอัตโนมัติไร้สาย สามารถปฏิบัติภารกิจตรวจสอบอุปกรณ์การผลิตใต้ทะเล ทั้งโครงสร้างของฐานผลิตปิโตรเลียมและท่อส่งก๊าซธรรมชาติใต้ท้องทะเลลึก และหุ่นยนต์ตรวจสอบภายในท่อ ซึ่งเป็นหุ่นยนต์ขนาดเล็กที่ใช้สำหรับตรวจสอบภายในท่อปิโตรเลียม และโดรน MPIO ที่ติดตั้งกล้องซูม 30 เท่า ทำให้สามารถตรวจสอบอุปกรณ์บนที่สูงได้อย่างมีประสิทธิภาพ เทคโนโลยีต่าง ๆ เหล่านี้ นอกจากจะมีความคล่องตัวสูงและช่วยลดต้นทุน แล้วยังเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ปฏิบัติงาน และสนับสนุนการดำเนินการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมของ ปตท.สผ.ในการสร้างความมั่นคงด้านพลังงานให้กับประเทศอีกด้วย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ข่าวแนะนำ

ซุ้มไฟเฉลิมพระเกียรติฯ สุดตระการตา รับประเพณียี่เป็ง

ยามค่ำคืนในตัวเมืองเชียงใหม่ ประดับประดาด้วยแสงไฟรับประเพณียี่เป็ง หรือลอยกระทงเชียงใหม่ โดยเฉพาะบนถนนท่าแพ มีการสร้างซุ้มประดับไฟเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จำนวน 14 ซุ้ม ยาวกว่า 200 เมตร.

“ฟิล์ม รัฐภูมิ” ตั้งโต๊ะแจงปมรีดทรัพย์ รับอ้างชื่อ “หนุ่ม กรรชัย” เพื่อขายงาน

“ฟิล์ม รัฐภูมิ” ตั้งโต๊ะแจงปมเรียกรับเงิน 20 ล้านบาท จากดิไอคอน ยอมรับอ้างชื่อ “หนุ่ม กรรชัย” เพราะต้องการขายงาน

คุมตัว “ตี่ลี่ฮวงจุ้ย” ฝากขัง เจ้าตัวเงียบรีบเดินขึ้นรถตู้

ตำรวจกองปราบคุมตัว “ตี่ลี่ฮวงจุ้ย” ฝากขัง ผู้ต้องหาปัดตอบสื่อ ด้านพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว เพราะมีพฤติการณ์หลบหนี