ปตท.สผ.ห่วงประมูล “บงกช-เอราวัณ” เสี่ยงหากล่าช้า

กรุงเทพฯ 2 มี.ค. – ปตท.สผ.ห่วงประมูลเอราวัณ-บงกชล่าช้า กระทบวางแผนผลิตปิโตรเลียมไร้ความต่อเนื่อง เสี่ยงต่อความมั่นคงและเศรษฐกิจของประเทศ 


นายสมพร ว่องวุฒิพรชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. เปิดเผยว่า ปตท.สผ.ในฐานะบริษัทของรัฐที่ดูแลความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ มีความเป็นห่วงหากการเปิดประมูล 2 แหล่งก๊าซที่หมดอายุสัมปทาน คือ แหล่งเอราวัณและแหล่งบงกช ล่าช้าออกไป 6 เดือน ถึง 1 ปี เพราะจะส่งผลกระทบต่อกระบวนการวางแผนรักษาอัตราการผลิตก๊าซให้เกิดความต่อเนื่อง นับเป็นการเพิ่มความเสี่ยงให้กับประเทศ ซึ่งไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการรายเก่าหรือรายใหม่ที่จะเป็นผู้ชนะการประมูล จะต้องใช้เวลาเตรียมการวางแผนลงทุนสำรวจและผลิตเพิ่มประมาณ 4-5 ปีล่วงหน้าก่อนที่สัมปทานเดิมจะสิ้นสุดอายุลงและจะส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิต 

“หากเปิดประมูลล่าช้า 1-2 เดือน จากที่รัฐประกาศจะเปิดประมูลจะเป็นช่วง มี.ค.-เม.ย.นี้ ก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าหากล่าช้าเป็นปีจะทำให้ความยืดหยุ่นในขั้นตอนดำเนินการต่าง ๆ แคบลง เช่น การสร้างบ้านที่เดิมต้องใช้เวลา 2 ปี แต่เหลือเวลาแค่ 3 เดือน ก็จะมีต้นทุนแพงขึ้น เพราะต้องเร่งรีบให้เสร็จ ซึ่งตอนนี้ผู้รับสัมปทานทั้งรายเก่าและรายใหม่ ควรจะต้องรู้ระยะเวลาที่ชัดเจนแล้ว” นายสมพร กล่าว


นายสมพร กล่าวว่า ขั้นตอนของอุตสาหกรรมสำรวจและผลิตปิโตรเลียมต้องใช้เวลาวางแผน ซึ่งการก่อสร้างแท่นและขุดหลุมผลิตจะต้องใช้ระยะเวลาในการเปิดประมูลว่าจ้างผู้รับเหมาประมาณ 1-2 ปี และใช้เวลาอีก 1-2 ปีในการผลิต ซึ่งปัจจุบันบริษัทพยายามบริหารจัดการอัตราการผลิตก๊าซในแหล่งบงกชให้เกิดความต่อเนื่องประมาณ 800-900 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน แต่หากใกล้ระยะเวลาที่สัมปทานเดิมจะหมดอายุลงก็จำเป็นต้องชะลอการลงทุน 

ส่วนการที่มีผู้มองว่าประเทศไทยจะมีทางเลือกในการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) มาทดแทน แต่เรื่องนี้ก็ต้องดูทิศทางของราคาแอลเอ็นจีและผลประโยชน์ของประเทศ ซึ่งก็มีการคาดการณ์ว่าราคาแอลเอ็นจีใน 5-10 ปีข้างหน้าจะมีแนวโน้มสูงขึ้นส่งผลกระทบต่อค่าไฟฟ้า อีกทั้งแอลเอ็นจี ไม่มีคุณสมบัติที่จะนำไปใช้เป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมปิโตรเคมีได้ ซึ่งจะกระทบต่ออุตสาหกรรมต่อเนื่อง 

นอกจากนี้ การนำเข้าแอลเอ็นจีมาใช้ประโยชน์ยังเป็นการสูญเสียเงินออกนอกประเทศ เมื่อเปรียบเทียบกับการซื้อก๊าซฯ จากอ่าวไทยมาใช้ประโยชน์ ภาครัฐยังได้ภาษีและค่าภาคหลวง รวมถึงเกิดการจ้างงานในประเทศ ซึ่งปัจจุบันแหล่งบงกชมีการจ้างงานโดยตรงประมาณ 600 คน และหากร่วมธุรกิจต่อเนื่องจะเกิดการจ้างงานกว่า 1,000 คน โดยตลอดระยะเวลา 24 ปีที่แหล่งบงกชดำเนินการผลิตก๊าซ มีรายได้ส่งเข้ารัฐในรูปแบบภาษีและค่าภาคหลวง สะสมไม่ต่ำกว่า 240,000 ล้านบาท. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

หนุ่มอุดรฯ ดวงเฮง ถูกลอตเตอรี่เกาหลีใต้ 45 ล้านบาท

สุดเฮง! หนุ่มอุดรฯ ถูกลอตเตอรี่เกาหลีใต้ รับเงินรางวัล 45 ล้านบาท ลูกสาวเผยพ่อเป็นคนชอบทำบุญ ก่อนหน้านี้เพิ่งโทรมาบอกให้ใส่บาตร เชื่อผลบุญหนุนโชคลาภ

สามีภรรยาจากอยุธยารับ “เจ้าจอร์จ” ไปดูแล

สามีภรรยาใจบุญจาก จ.พระนครศรีอยุธยา ขอรับ “เจ้าจอร์จ” สุนัขพันธุ์อเมริกันบูลลี่ ไปอุปการะแล้ว หลังกัดแทะร่างพระเจ้าของที่มรณภาพในกุฏิด้วยโรคประจำตัว

ดีเอสไออนุมัติสืบสวนคดีแตงโม คาดตั้งชุดเริ่มสืบได้ 27 ม.ค.นี้

อธิบดีดีเอสไอ อนุมัติให้สืบสวนคดีแตงโม ว่ามีการบิดเบือนกระบวนการยุติธรรมทางอาญาหรือไม่ และมีบุคคลหรือเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องหรือไม่ คาดเริ่มได้ 27 ม.ค.นี้