รร.แมริออท 24 ส.ค. – รัฐบาลดึงนักลงทุนจีนรายใหญ่ลงทุนในเขตอีอีซี หวังเชื่อมโยง One Belt One Road เพื่อสร้างความแข็งแกร่งภูมิภาค ผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางภูมิภาค
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาพิเศษ ภายในงานสัมมนา “Thailand-China Business Forum 2018: Comprehensive Strategic Partnership through the Belt and Road Initiative and the EEC” ว่า ขอต้อนรับนักลงทุนจีนมากกว่า 600 ราย ที่ให้ความสนใจมาศึกษาลู่ทางการลงทุนในประเทศไทย เพราะมองว่าไทยตั้งอยู่ใจกลางของภูมิภาคอาเซียน รัฐบาลได้กำหนดยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจเชื่อมโยงกับนโยบาย Belt and Road Initiative(BRI) เพราะจีนเป็นเสาหลักของเศรษฐกิจโลก หลังจากได้แก้ปัญหาความยากจน ลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมเป็นเป้าหมายของไทยที่จะดำเนินแผนดังกล่าว ขณะนี้ไทยได้เร่งรัดการพัฒนาโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) นับว่าคืบหน้าทุกด้าน ในช่วง 2 ปีครึ่งที่ผ่านมาคำขอส่งเสริมการลงทุนในเขตอีอีซี 822 โครงการ มูลค่า 700,000 ล้านบาท สัดส่วนร้อยละ 47 ของมูลค่าคำขอลงทุนทั้งหมด นักลงทุนจีนยื่นลงทุนสูงถึง 60,000 ล้านบาท
หลังจากกลุ่มประเทศอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ( ACMEC) ประกาศยุทธศาสตร์ การค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวร่วมกัน เพราะมีประชากรรวมกันกว่า 200 ล้านคน นับว่าเป็นกลุ่มมีศักยภาพ จึงต้องการสร้างเศรษฐกิจดิจิทัล การคมนาคมร่วมกัน จึงเหมาะอย่างมากต่อจีนเข้ามาลงทุน รวมทั้งกลุ่มประเทศ CLMVT นับเป็นหัวใจสำคัญต่อการพัฒนาในกลุ่มภูมิภาคโดยมีจีนเข้ามาร่วมพัฒนา ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง ต้องการมีความสัมพันธ์เชิงลึกแต่ละภูมิภาคของจีน เพื่อหารือระหว่างท้องถิ่นกับท้องถิ่น จึงมุ่งเพิ่มการค้าระหว่างกันสูงมากกว่า 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และยังต้องชวนมาเป็นหุ้นส่วนในการลงทุนพัฒนาภูมิภาคร่วมกัน
นายหวัง หย่ง มนตรีแห่งรัฐ สาธารณรัฐประชาชนจีน กล่าวว่า ไทย จีน ได้ลงนามความตกลงเชื่อมโยง One Belt One Road เพื่อให้ผู้นำทั้ง 2 ฝ่าย บุกเบิกการค้า การลงทุน แลกเปลี่ยนบุคลากร การค้า การลงทุนเพิ่ม นับว่าการส่งออกสินค้าระหว่างกันร้อยละ 90 ไทย-จีน ลดภาษีเหลือร้อยละ 0 เพื่ออำนวยความสะดวกการส่งออก รังนก ข้าว ยาวพารา และจีนยังเป็นนักลงทุนอันดับ 3 ในประเทศไทย จีนต้องการเข้ามาร่วมพัฒนาการค้าและการลงทุน เห็นได้จากนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาไทยนับ 10 ล้านคน ครึ่งปีแรกสูงถึง 6 ล้านคน ขณะที่จีดีพีของจีนปีก่อนขยายตัวร้อยละ 6.8 ยังต้องเดินหน้าขยายการลงทุนด้านต่าง ๆเพิ่ม การจัดการ EXPO ของจีนปลายปีตั้งเป้าหมายดึงการลงทุนไปจีน 140,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จึงต้องการเชิญนักลงทุนไทยเข้าไปขยายการลงทุนในประเทศจีน เพราะจีนได้ผ่อนปรนเงื่อนไขดึงดูดการค้าและการลงทุนให้กับนักลงทุนต่างชาติมากขึ้น
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า นับว่าเศรษฐกิจจีนมีขนาดใหญ่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลก จึงได้คัดเลือกเอกชนไทยเข้าไปร่วมงาน Chaina International Import Expo ในช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้ เพื่อนำแบรนด์สินค้าจากไทยออกไปสู่ตลาดจีน และยังจัดงานเจรจาจับคู่ธุรกิจ ทั้งด้านเกษตร อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องสำอาง โลจิสติกส์ และสินค้าเป้าหมาย เช่น หุ่นยนต์ เคมิคอล ไอที นวัตกรรม
นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวในเวทีสัมมนาว่า ไทยกำลังเร่งปฏิรูปประเทศครั้งใหญ่ตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0 จึงเดินหน้าส่งเสริมอุตสาหกรรมเป้าหมาย หวังพลิกโฉมการลงทุนของไทย ไทยจะขอเป็นบ้านที่ 2 ของจีนในการดูแลนักลงทุนจีนเข้ามาลงทุนในประเทศไทย รัฐบาลไทยให้ความสำคัญต่อการเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการลงทุนระหว่างไทยและจีน รองรับ นโยบาย Belt and Road ของจีน และนโยบายการสร้างศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของภูมิภาคอาเซียน ผ่าน EEC ของไทย นักลงทุนจีนถือเป็นกลุ่มเป้าหมายสำคัญ โดยบีโอไอมีสำนักงานในจีนถึง 3 แห่ง เพื่อเข้าถึงนักธุรกิจจีนทุกพื้นที่ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา จนถึงช่วงครึ่งปีแรก 2561 (ม.ค.59 – มิ.ย.61) โครงการลงทุนจีนที่ยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนมีมูลค่ากว่า 56,000 ล้านบาท ในปีนี้ บีโอไอได้จัดกิจกรรมเดินสายชักจูงการลงทุนในประเทศจีนไปแล้ว 7 ครั้ง ทั้งระดับรองนายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้าคณะ ผู้บริหารบีโอไอ หวังดึงนักลงทุนชั้นนำของจีนเข้ามาลงทุนในประเทศ.-สำนักข่าวไทย