กรุงเทพฯ 23 ส.ค.- “วิษณุ” ย้ำ ปัญหาการทุจริตเป็นภัยต่อประเทศ ตั้งเป้าค่าดัชนี CPI 50 คะแนน ในปี 2564 แจง การมียุทธศาสตร์ชาติ ไม่ใช่รัฐบาลอยู่ทำงาน 20 ปี แต่เพื่อวางกรอบการทำงาน
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวตอนหนึ่ง ในการเปิดงานสัมมนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระดับชาติ ภายใต้หัวข้อ “การผลักดันยุทธศาสตร์ชาติ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต สู่ประเทศไทยใสสะอาด ไทยทั้งชาติต้านทุจริต” ว่า ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่น ไม่ใช่เรื่องที่เป็นภัยเฉพาะในประเทศเท่านั้น แต่ทุกประเทศก็ประสบกับปัญหานี้ ดังนั้น จึงต้องอาศัยความร่วมมือจากประชาชนทุกคน
“รัฐบาล และ ป.ป.ช. ได้วางยุทธศาสตร์ชาติการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ระยะที่ 3 ตั้งเป้าว่า ในปี 2564 ดัชนีรับรู้การทุจริต (CPI) จะอยู่ 50 คะแนน ซึ่งการจะให้คะแนนสูงขึ้น จะต้องมีมาตรการเชิงรุก เด็ดขาด และต้องทำให้คนในชาติไม่ทนต่อการทุจริต” นายวิษณุ กล่าว และว่า ผลจากการใส่ใจป้องกันและปราบปรามการจริตในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ข่าวปรากฎว่ามีการทุจริตเพิ่มขึ้น ถึงแม้จะเป็นเรื่องที่ทำให้ขายหน้า แต่ก็ชี้วัดว่า ได้มีมาตรการปราบปรามอย่างจริงจัง
จากนั้น นายวิษณุ กล่าวปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “การผสานพลังสร้างประเทศไทยใสสะอาด” ว่า ปัญหาการทุจริตถือเป็นภัยต่อประเทศชาติทุกด้าน และยังทำให้เกิดระบบ 2 มาตรฐาน ประชาชนเกิดความคับแค้นใจ รู้สึกเกลียดชัง การทุจริตคอรัปชั่นเปรียบเสมือนสนิมที่กัดกินตัวเอง และศึกเหล่านี้ไม่ได้เกิดจากภายนอก แต่เกิดจากภายใน จึงเป็นที่มาที่รัฐบาลกำหนดให้มีแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ซึ่งไม่ใช่ว่ารัฐบาลจะอยู่ถึง 20 ปี แต่เพื่อให้รัฐบาลชุดอื่นมีแนวทางปฏิบัติ หลายประเทศก็มีการกำหนดยุทธศาตร์ชาติ เช่น ประเทศมาเลเซีย อีกทั้ง ยุทธศาตร์ชาติได้ถูกกำหนดให้สามารถปรับแก้ไขได้ทุก 5 ปีเพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์ และขณะนี้ร่าง พ.ร.บ.ยุทธศาตร์ชาติ อยู่ระหว่างรอประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษา .- สำนักข่าวไทย .- 236 (211)