สำนักข่าวไทย 20 ส.ค.–แพทย์เผยสถานการณ์ผู้ป่วยไบโพลาร์ของไทย พบผู้ป่วยร้อยละ 1-2 ชี้พฤติกรรมของโรคอารมณ์ 2 ขั้วจะมีวิถีชีวิตเปลี่ยนไปจากเดิม ครื้นเครงสุดขั้วหรือเศร้าสุดขีด ต้องรับประทานยา ปรับพฤติกรรม ขณะเดียวกันต้องให้กำลังใจต้องผู้ป่วยและญาติเพราะอาจท้อหมดกำลังใจดูแล
นพ.สมัย ศิริทองถาวร รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวถึงสถานการณ์ผู้ป่วยไบโพลาร์ในประเทศไทย ว่า ขณะนี้คาดว่ามีผู้ป่วยไบโพลาร์อยู่ประมาณร้อยะ 1-2 ของจำนวนประชากร โดยครึ่งหนึ่งของผู้ป่วยอยู่ในระบบได้รับการรักษาและรับประทานยาอย่างต่อเนื่อง แต่อีกส่วนอาจไม่ได้พบแพทย์ และอยู่ระหว่างการค้นหา วิธีสังเกตอาการของผู้ป่วยไบโพล่าร์ หรือโรคอารมณ์ 2 ขั้ว จะมีวิถีชีวิตเปลี่ยนไป จากเดิมช่วงที่แสดงอาการ อาจมีอารมณ์ครื้นเครงมากๆ หรือสนุกแบบสุดๆ ทำกิจกรรมแบบตลอด เวลา รู้สึกดีใจก็แบบชอบช็อปปิ้งซื้อของได้ตลอด หากอยู่ในขั้วซึมเศร้าก็เศร้าแบบสุดๆ และอาจมีบางช่วงขณะมีความคิดจะฆ่าตัวตายได้ แบบหุนหันพลันแล่น นอนไม่หลับ กลัวแดด
นพ.สมัย กล่าวต่อว่า อาการเหล่านี้ เกิดจากความผิดปกติของสารเคมีในสมอง วิธีการรักษา เริ่มจากการรับประทานยาและรับพฤติกรรมร่วมขจัดความคิด ที่คิดไม่ถูกต้อง เพื่อควบคุมพฤติกรรมและต้องร่วมกับการออกกำลังกาย และยังต้องอาศัยกำลังใจจากญาติ โดยความคิดของผู้ป่วยไบโพลาร์ มักคิดว่าตนเองมีความพิเศษแตกต่างจากคนทั่วไป มีอำนาจ มีพลัง เคยมีผู้ป่วยบางคนคิดว่าตัวเองแข็งแรง จนไปนอนให้รถไฟทับ ท้ายสุดเสียขาไปข้างหนึ่งซึ่งเป็นความคิดความเชื่อของเขา ต้องปรับทำความเข้าใจ การรักษาต้องอาศัยพลังใจ ซึ่งผู้ดูแลเองก็ต้องอาศัยพลังใจเช่นกัน บางคนก็อาจเกิดภาวะเหนื่อยท้อขึ้นได้ จนพาลพูดข่มขู่ผู้ป่วยได้ เช่น จะไม่ดูแลแล้ว เป็นต้น.-สำนักข่าวไทย