ยอดจดทะเบียนตั้งใหม่ 7 เดือนสูงขึ้น

นนทบุรี 17 ส.ค.-พาณิชย์เผยยอดจดทะเบียนตั้งบริษัทใหม่ช่วง 7 เดือนโตต่อเนื่อง ชี้หลายปัจจัยหนุน มั่นใจทั้งปีถึง 80,000 ราย


นางกุลณี  อิศดิศัย อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า ตัวเลขยอดจดทะเบียนนิติบุคคลตั้งใหม่ ประจำเดือน กรกฎาคม 2561 มีจำนวน 5,964 ราย เมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายน 2561 จำนวน 6,514 ราย ลดลงจำนวน 550 ราย  คิดเป็นร้อยละ 8  และเมื่อเทียบกับเดือนกรกฎาคม 2560 จำนวน  5,979 ราย ลดลงจำนวน 15 ราย คิดเป็นร้อยละ 0.3 โดยประเภทธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 516 ราย คิดเป็น  ร้อยละ 9 รองลงมา คือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 322 ราย คิดเป็นร้อยละ 5 และอันดับ 3 คือ ธุรกิจภัตตาคาร ร้านอาหาร จำนวน 204 ราย คิดเป็นร้อยละ 3 

ทั้งนี้ หากคิดมูลค่าทุนธุรกิจจัดตั้งใหม่ ในเดือนกรกฎาคม 2561 มีจำนวนทั้งสิ้น 26,354 ล้านบาท เมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายน 2561 จำนวน 24,589 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 1,765 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 7 และเมื่อเทียบกับเดือนกรกฎาคม 2560  จำนวน 21,258 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 5,096 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 24


ส่งผลให้ธุรกิจดำเนินกิจการอยู่ทั้งสิ้น  (ณ วันที่ 31ก.ค. 61)  ธุรกิจที่ยังคงดำเนินกิจการอยู่ทั่วประเทศ จำนวน706,192 ราย  มูลค่าทุน 17.85 ล้านล้านบาท  จำแนกเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล จำนวน 184,008 ราย คิดเป็นร้อยละ 26.06  บริษัทจำกัด จำนวน 520,977 ราย คิดเป็นร้อยละ 73.77  และบริษัทมหาชนจำกัด จำนวน 1,207 ราย คิดเป็นร้อยละ 0.17 

 

อย่างไรก็ตาม จำนวนธุรกิจเลิกประกอบกิจการ  มีจำนวน 1,688 ราย เมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายน 2561 จำนวน 1,392 ราย  เพิ่มขึ้นจำนวน  296 ราย คิดเป็นร้อยละ 21 และเมื่อเทียบกับเดือนกรกฎาคม 2560 จำนวน 1,626 ราย เพิ่มขึ้นจำนวน 62 ราย  คิดเป็นร้อยละ 4  ประเภทธุรกิจเลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก   ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป  จำนวน 148 ราย คิดเป็นร้อยละ 9 รองลงมาคือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์  จำนวน 115 ราย คิดเป็นร้อยละ 7  และธุรกิจให้คำปรึกษาด้านการจัดการ จำนวน 56 ราย คิดเป็นร้อยละ 3 ตามลำดับ                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                               


มูลค่าทุนธุรกิจเลิกประกอบกิจการ  ในเดือนกรกฎาคม 2561 มีจำนวนทั้งสิ้น 6,282 ล้านบาท เมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายน 2561 จำนวน 8,486 ล้านบาท ลดลงจำนวน 2,204 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 26 และเมื่อเทียบกับเดือนกรกฎาคม 2560  จำนวน 5,997 ล้านบาท  เพิ่มขึ้นจำนวน 285 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 5

ทั้งนี้ ในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา (ม.ค.- ก.ค.61)  มีการจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบริษัท จำนวน 43,512 ราย  เพิ่มขึ้น จำนวน 1,591 ราย คิดเป็นร้อยละ 4 เมื่อเทียบกับในช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา (ม.ค.-ก.ค.60) จำนวน 41,921 ราย ซึ่งมีทิศทางสอดคล้องกับภาพรวมเศรษฐกิจไทยที่ขยายตัวอยู่ในเกณฑ์ที่ดีจากภาคการส่งออก ภาคการท่องเที่ยว รวมถึงการบริโภคภายในประเทศและการลงทุนภาครัฐในระบบโครงสร้างพื้นฐาน ตลอดจนถึงการวางแนวทางในการปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจโดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามามีส่วนช่วยในการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจมากยิ่งขึ้น  จะเป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทยให้มีการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง เป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศได้ต่อไป 

นอกจากนี้ การจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจในรูปแบบนิติบุคคลจะช่วยให้ธุรกิจมีโอกาสที่เพิ่มขึ้น จากการศึกษาของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย พบว่า SMEs ที่จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลจะสามารถขอสินเชื่อได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น  มีวงเงินกู้สูงขึ้น ได้รับการลดหย่อนภาษี เพิ่มความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า เป็นที่ยอมรับในระดับสากล เพิ่มโอกาสได้ลูกค้ารายใหม่ รวมถึงมีโอกาสเข้าถึงความช่วยเหลือของภาครัฐมากยิ่งขึ้น และจากการที่กรมได้ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการเข้ามาจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล โดยการปรับลดความยุ่งยากของขั้นตอนการจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล (Ease of Doing Business) โดยลดขั้นตอนการเริ่มต้นธุรกิจโดยการรวมขั้นตอนการจองชื่อและจดทะเบียนนิติบุคคลออนไลน์เป็นขั้นตอนเดียวกัน (จากเดิมมี 2 ขั้นตอน) และลดอัตราค่าธรรมเนียมสำหรับห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัดที่ยื่นผ่านทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ มีผลใช้บังคับในวันที่ 21 เมษายน 2561 จากเดิม 5,500 – 275,000 บาท เป็น 5,500 บาท   อัตราเดียว และการจดทะเบียนออนไลน์ e-Registration 3,850 บาท  กรมจึงได้คาดการณ์การจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจตลอดปี 2561 ไว้ที่ไม่น้อยกว่า 80,000 ราย .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

ตร.ทางหลวงไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าไทย

ระทึก! ตำรวจทางหลวงขับรถไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าว 2 คัน สุดท้ายไม่รอด จนมุมบริเวณ ต.หาดท่าเสา อ.เมือง จ.ชัยนาท ตรวจสอบพบแรงงานต่างด้าวจำนวนมาก จึงนำตัวทั้งหมด พร้อมกับคนขับรถทั้ง 2 คัน ส่งดำเนินคดีที่ สภ.เมืองชัยนาท

คุมพ่อชาวรัสเซียฝากขัง จับลูกชายวัย 13 โยนลงทะเลเสียชีวิต

ตำรวจคุมตัว “หนุ่มรัสเซีย” ฝากขัง หลังก่อเหตุโยนลูกวัย 13 ปี ออกจากเรือ บริเวณหมู่เกาะสุรินทร์ จ.พังงา จนถูกใบพัดเรือบาดเจ็บสาหัส ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา อ้างเสียความทรงจำ ไม่รู้ทำอะไรลงไป

ดีเอสไอจ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ สืบคดี “แตงโม”

ดีเอสไอ นำผู้เชี่ยวชาญหลายด้านเปิดประชุมนัดแรก ลุยสืบสวน “คดีแตงโม” จ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ หาพยานหลักฐานใหม่ และบินเก็บข้อมูลระบบ Cloud ในมือถือทุกคนบนเรือ-นอกเรือ

แก้ปัญหาฝุ่น

นายกฯ สั่งการด่วนคมนาคมออกมาตรการหยุด PM 2.5

นายกฯ สั่งการคมนาคมออกมาตรการเร่งด่วน หยุด PM 2.5 ให้ประชาชนนั่งรถไฟฟ้าทุกสาย-ขสมก.ฟรี 7 วัน 25-31 ม.ค.นี้ เตรียมใช้งบกลางกว่า 140 ล้านบาท ชดเชยผู้ประกอบการ เข้มตั้งจุดตรวจควันดำ 8 จุด รอบ กทม.-ปริมณฑล