กรุงเทพฯ 16 ส.ค. – ดัชนีคอร์รัปชั่นไทยครึ่งปีแรกปรับตัวดีขึ้นจากสิ้นปี 60 ขณะที่ดัชนีการสร้างจริยธรรมและจิตสำนึกดีที่สุดในรอบ 8 ปี นับจากปี 53
หอการค้าไทยร่วมกับมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย แถลงดัชนีสถานการณ์คอร์รัปชันไทย (Corruption Situation Index : CSI) ครึ่งปีแรกปี 2561 นางเสาวณีย์ ไทยรุ่งโรจน์ อธิการบดี มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า CSI ในช่วงครึ่งปีแรก หรือเดือนมิถุนายน 2561 พบว่า ดัชนีสถานการณ์คอร์รัปชั่นไทยปรับตัวดีขึ้น โดยค่าดัชนีปรับดีขึ้นจากเดือนธันวาคม 2560 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 52 ปรับดีขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 55
สำหรับผลสำรวจครั้งนี้อยู่ในช่วงของการแก้ไขปัญหาเงินทอนวัด การออกกฎหมายใหม่ คือ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 ทำให้ประชาชนรู้สึกดีขึ้น แต่ยังไม่รวมสถานการณ์คอร์รัปชั่นปัจจุบันที่มีปัญหาการจัดซื้อดาวเทียมสำรวจ เพื่อการพัฒนา (THEOS-2) วงเงิน 7,000 ล้านบาท ของสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (GISTDA) ซึ่งคณะผู้สังเกตการณ์อิสระ 6 ราย ที่องค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น (ประเทศไทย) ส่งเข้าไปร่วมสังเกตการณ์โครงการนี้ลาออกทั้งคณะ
ด้านดัชนีปัญหาและความรุนแรงของการคอร์รัปชั่น พบว่า ดีขึ้นกว่าปี 2560 เช่นกัน ค่าดัชนีปรับดีขึ้นจากเดือนธันวาคม 2560 อยู่ที่ระดับ 42 ขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 48 ด้านดัชนีปราบปรามการคอร์รัปชั่นก็ดีขึ้นเช่นกัน ค่าดัชนีปรับดีขึ้นจากเดือนธันวาคม 2560 อยู่ที่ระดับ 53 มาอยู่ที่ 55 ดัชนีการป้องกันการคอร์รัปชั่น ค่าดัชนีปรับดีขึ้นจากเดือนธันวาคม 2560 อยู่ที่ระดับ 53 ปรับขึ้นมาอยู่ที่ 54 แต่สิ่งที่ปรับขึ้นดีที่สุด คือ ดัชนีการสร้างจริยธรรมและจิตสำนึกดีที่สุดในรอบ 8 ปี นับจากปี 2553 โดยดัชนีปรับดีขึ้นจากเดือนธันวาคม 2560 อยู่ที่ระดับ 62 ปรับขึ้นมาอยู่ที่ 64 โดยเฉพาะแนวโน้มการสร้างจิตสำนึกเพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคม 2560 อยู่ที่ระดับ 66 มาอยู่ที่ 68 ส่วนสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดการคอร์รัปชั่น คือ ความล่าช้ายุ่งยากของขั้นตอนการดำเนินการของราชการ ทำให้ข้าราชการมีโอกาสและความไม่เข้มงวดในการบังคับใช้กฎหมาย
สำหรับรูปแบบของการคอร์รัปชั่น พบมากสุด คือ ให้สินบน ของกำนัล หรือรางวัลต่าง ๆ ด้านทัศนคติและจิตสำนึกต่อการทุจริตคอร์รัปชั่นพบว่าประชาชนร้อยละ 99 ไม่เห็นด้วยว่าการคอร์รัปชั่นเป็นเรื่องไกลตัวอีกต่อไป และยังพบว่าประชาชนร้อยละ 99 ไม่เห็นด้วยกับการที่รัฐบาลทุจริตคอร์รัปชั่น แต่มีผลงานและทำประโยชน์ให้สังคมเป็นเรื่องที่รับได้ ด้านความสามารถทานทนต่อการทุจริตคอร์รัปชั่น พบว่าความทานทนลดลง โดยค่าดัชนีลดลงจากอยู่ที่ระดับ 2.03 ในช่วงสำรวจเดือนธันวาคม 2560 ปรับลดลงมาอยู่ที่ 1.87 ด้านประสิทธิภาพการทำงานในการต่อต้านการคอร์รัปชั่นของ ป.ป.ช. มิ.ย.2561 พบว่า ร้อยละ 54 เห็นว่า มีประสิทธิภาพ ขณะที่ร้อยละ 31 เห็นว่ามีประสิทธิภาพปานกลาง
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการ ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า สถานการณ์คอร์รัปชั่นของไทยจะต้องได้รับการแก้ไข คาดว่าสถานการณ์ปีหน้าจะปรับตัวดีขึ้น
นายมานะ นิมิตรมงคล เลขาธิการ องค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น กล่าวว่า การที่รัฐบาลมีคำสั่งปรับปรุงองค์ประกอบของคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน และมีตัวแทนภาคเอกชน เช่น นายประมนต์ สุธีวงศ์ ตัวแทนเอกชนเข้าร่วมด้วยนั้น นับเป็นการแสดงเจตจำนงค์ของรัฐบาลที่ตั้งใจแก้ไขปัญหาคอร์รัปชั่น ซึ่งน่าจะปรับดีขึ้นในอนาคต.-สำนักข่าวไทย