คลังหนุนเอกชนระดมทุนผ่านตลาดตราสารหนี้

รร.แชงกรีลา  19 ก.ย. –  รมช.คลังระบุการระดมทุนผ่านตราสารหนี้ อสังหาริมทรัพย์ค้ำประกันมีแนวโน้มเติบโต ขณะที่ประธานตลาดตราสารหนี้เตือนระวังตราสารหนี้ไม่จัดอันดับความน่าเชื่อถือ 


บรรษัทตลาดรองที่อยู่อาศัย (บตท.) จัดงานสัมนาใหญ่ประจำปี  “Asean Fixed Income Summit” เพื่อระดมความเห็นระหว่างประเทศสมาชิก  นายวิสุทธิ์  ศรีสุพรรณ  รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวระหว่างเปิดงานประชุม ว่า ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยผลตอบของหลายประเทศพัฒนาแล้วมีแนวโน้มลดง จึงทำให้กระแสเงินทุนไหลไปหาแหล่งที่ให้ผลตอบแทนสูงในประเทศต่าง ๆ

สำหรับตลาดตราสารหนี้ไทยปัจจุบัน ประกอบด้วยพันธบัตรรัฐบาลร้อยละ 38  พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ร้อยละ 27 และพันธบัตรรัฐวิสาหกิจร้อยละ 7.3  ซึ่งพันธบัตรรัฐบาลกระจายในตลาดสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 73 ส่วนที่เหลือเป็นหุ้นกู้เอกชน ดังนั้น รัฐบาลจึงสนับสนุนการออกผลิตภัณฑ์หุ้นกู้ของภาคเอกชน เพื่อระดมทุนในตลาดมากขึ้น เพราะขณะนี้ภาคเอกชนเริ่มสนใจระดมทุนผ่านการแปลงสินทรัพย์ให้เป็นหลักทรัพย์ (ABS)  และตราสารหนี้  โดยมีสินเชื่อที่อยู่อาศัยค้ำประกัน (MBS)  ซึ่งทั้ง  2ผลิตภัณฑ์มีแนวโน้มเติบโตขึ้น เพราะมีสินทรัพย์หนุนหลังและมีอัตราผลตอบแทนจูงใจร้อยละ 2.8


อย่างไรก็ตาม  ยอมรับว่าการลงทุนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี ให้ผลตอบแทนร้อยละ 1.5 ขณะที่ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลในปัจจุบันร้อยละ 2.2 เฉลี่ยปีละร้อยละ 1.03  นอกจากนี้ รัฐบาลอยู่ระหว่างเตรียมระดมทุนผ่านกองทุนไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ วงเงิน 100,000 ล้านบาท  เพื่อลดภาระงบประมาณ  จึงระดมทุนผ่านนักลงทุนมาใช้ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เช่น มอเตอร์เวย์หมายเลข 7, 9 คาดว่าเริ่มได้ต้นปีหน้า

นายพิสิฐ ลี้อาธรรม ประธานกรรมการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย กล่าวว่า ยอมรับว่าขณะนี้เอกชนบางส่วนนิยมออกตราสารที่ไม่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจากสถาบันจัดอันดับเครดิตนับว่ามียอดสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์  และได้รับความสนใจจากนักลงทุนเฉพาะกลุ่ม นักลงทุนจึงต้องระมัดระวังในการตัดสินใจเลือกลงทุน เพราะแม้ให้ผลตอบแทนสูง แต่ก็มีความเสี่ยงด้วยเช่นกัน

สำหรับการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) วันที่ 22 กันยายนนี้ พิจารณาจากการออกมาพูดของกรรมการเฟดบางท่านกลับมีสัญญาณว่าอาจมีแนวโน้มปรับขึ้นเพียงร้อยละ 0.25 เพราะขณะนี้เศรษฐกิจสหรัฐดีขึ้นบ้างแล้ว และต้นปีหน้าเฟดคงไม่ตัดสินใจนโยบายทางการเงิน ซึ่งกระทบตลาดก่อนการเลือกตั้งใหม่ของสหรัฐ เพราะต้องรอให้รัฐบาลใหม่พิจารณา ดังนั้น กระแสเงินทุนไหลเข้าออกสหรัฐขณะนี้ได้ปรับตัวไปค่อนข้างมากแล้ว จึงไม่น่าส่งผลกระทบต่อเงินทุนไหลเข้าออกจากไทยมากนัก. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง