กรุงเทพฯ 15 ส.ค. – SPRC เผยผลประกอบการไตรมาส 2/61 กำไร 73 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ด้านตลาดน้ำมันกังวลวิกฤติค่าเงินตุรกี ส่งผลราคาน้ำมันลดลง
นายทิโมธี อลัน พอตเตอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการ บมจ.สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง (SPRC) เปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 2/2561 ว่า SPRC มีกำไรสุทธิ 73 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 2,323 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิครึ่งปีแรกของปี 2561 จำนวน 154 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 4,896 ล้านบาท เป็นผลจากบริษัทฯ มีความพร้อมของหน่วยการผลิตสูงสุด 100% ทำให้บริษัทฯ ประสบความสำเร็จด้านความเชื่อถือได้ (reliability) และการเพิ่มประสิทธิภาพของอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมัน (utilization) ส่งผลให้มีปริมาณการผลิตในหอกลั่นน้ำมันดิบ (CDU) และหน่วยแตกโมเลกุลด้วยตัวเร่งปฏิกิริยา (RFCCU) อยู่ในระดับที่สูงมาก และคณะกรรมการของบริษัทฯ มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลอัตรา 0.5928 บาทต่อหุ้น คิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผลร้อยละ 50 ของกำไรสุทธิในครึ่งปีแรกของปี 2561
ด้าน บมจ.ไทยออยล์ รายงานราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง โดยราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสลดลง 16 เซนต์สหรัฐ ปิดที่67.04 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เบรนท์ ลดลง 15 เซนต์ ปิด 72.46 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล น้ำมันดิบดูไบเพิ่มขึ้น 56 เซนต์ ปิดที่ 71.66 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล โดยราคาน้ำมันดิบลดลงเนื่องจากนักลงทุนทยอยเข้าซื้อเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ จากความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤติค่าเงินตุรกี และผลกระทบที่อาจลุกลามไปยังประเทศอื่น ๆ โดยค่าเงินตุรกีดิ่งลงอย่างหนักตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา หลังสหรัฐฯ ประกาศเพิ่มอัตราภาษีต่อเหล็กและอลูมิเนียมที่นำเข้าจากตุรกีขึ้น 2 เท่า เนื่องจากการเจรจาเพื่อคลี่คลายวิกฤติทางการเมืองระหว่างสหรัฐและตุรกีไม่ประสบผลสำเร็จ
ขณะที่สถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานสหรัฐ (API) ประกาศตัวเลขน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐสิ้นสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา (วันที่ 10 ส.ค.) ปรับตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 3.7 ล้านบาร์เรล ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะปรับตัวลดลง ขณะที่เศรษฐกิจจีนส่งสัญญาณชะลอตัวลงต่อเนื่อง หลังตัวเลขการลงทุนในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ลดลงถึงระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ โดยตัวเลขการลงทุนในทรัพย์สินถาวรเติบโตลดลงอยู่ที่ร้อยละ 5.5 ขณะที่ยอดขายปลีกเดือนกรกฎาคมชะลอตัวลง โดยเติบโตร้อยละ 8.8 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าที่เติบโตร้อยละ 9.0 แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นทางธุรกิจและอุปสงค์ในประเทศที่อ่อนแอลง
ด้านกลุ่มโอเปกปรับลดประมาณการอุปสงค์น้ำมันดิบทั่วโลกปี 2562 ลงเมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่านมา โดยคาดว่าอุปสงค์น้ำมันดิบจะเติบโตประมาณ 1.43 ล้านบาร์เรลต่อวัน ขณะที่ซาอุดิอาระเบียปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันดิบเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาประมาณ 200,000 บาร์เรลต่อวัน เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะอุปทานล้นตลาด.-สำนักข่าวไทย