ตะลึง ! เด็กไทยติดมือถือ เล่นโซเชียลวันละ 10-15 ชั่วโมง

หอศิลป์ 15 สค. มูลนิธิเด็กเผยเด็กติดมือถือ ใช้เวลาเล่นโซเชียลวันละ 10-15 ชั่วโมง พบเป็นโรคทางจิตเวชเพิ่มสูงขึ้นในรอบ 3 ปี ชี้พ่อเเม่ควรเลิกติดมือถือด้วย 


มูลนิธิเด็กร่วมกับองค์กรที่ทำงานด้านเด็ก จัดเเถลงข่าว “พิทักษ์เด็ก พิทักษ์อนาคตชาติ ด้วยสังคมก้มหน้าได้จริงหรือ” หลังมีงานวิจัยเรื่องความห่างเหินในครอบครัวไทยยุคโซเชียลมีเดียเข้มข้นหรือ Living together but APART ส่งผลให้ความสัมพันธ์ของคนในครอบครัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ยิ่งเฉพาะในยุคปัจจุบันที่เศรษฐกิจอาจไม่ค่อยดีนัก ทำให้มีเวลาอยู่ในบ้านน้อยลงอยู่เเล้ว เเต่โซเซียลมีเดียก็ยังทำให้คนในครอบครัวมีเวลาอยู่ด้วยกันน้อยลงไปอีก โดยพบว่าเด็กเเละเยาวชนอายุ 18 ปี ซึ่งมีประมาณ 13 ล้านคนใช้เวลาในการเล่นมือถือ โซเซียลมีเดีย อินเตอร์เน็ตเเละคอมพิวเตอร์กว่า 10-15 ชั่วโมงต่อวัน โดยใช้เพื่อความบันเทิงมากที่สุดเเละกำลังเผชิญภัยในโลกไซเบอร์ เพราะมือถืออยู่ใกล้ตัวตลอด 24 ชั่วโมงต่างจากเดิม เด็กจะเผชิญภัยอันตรายเมื่อออกไปเล่นนอกบ้าน

นายภูเบศร์ สมุทรจักร รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยเเละวิเทศสัมพันธ์ สถาบันวิจัยประชากรเเละสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า สถิติปี 60 พบประชากรอายุ 6 ปีขึ้นไปใช้มือถือร้อยละ 88.2 คอมพิวเตอร์ 52.9 และอินเตอร์เน็ต 30.3 / กลุ่มอายุ 6-14 ปีใช้ร้อยละ 60 / อายุ15-24 ปี ใช้ร้อยละ 80 / อายุ 25-34 ปีใช้ร้อยละ 60 ปี / อายุ 35-49 ใช้ร้อยละ 30 เเละกลุ่มอายุ 50 ปีใช้น้อยสุดร้อยละ 20 ซึ่งหากย้อนไปเมื่อ 10 ปีก่อนเราจะกังวลว่าเด็กจะเป็นกลุ่มที่ติดมือถือมากที่สุด เเต่ขณะนี้เองปัจจุบันพ่อเเม่ผู้ปกครองก็ติดมากขึ้น ทำให้ไม่สามารถดูเเลลูกได้ไม่ดี เด็กขาดความอบอุ่น บ้างครอบครัวเเตกเเยก จนเป็นสาเหตุหลักๆทำให้เด็กกระทำความผิด โดยเฉพาะยาเสพติด ที่เด็กกว่าร้อยละ 58 กระทำความผิดเพราะขาดความอบอุ่นจากครอบครัว ทั้งนี้ยังพบว่าเด็กยังใช้โซเซียลที่ในทางที่ผิด จำลองตัวเองให้เกิดการยอมรับเเละทำให้มีความหมิ่นเหม่ทางเพศ เเละมีโรคร่วมทางจิตเวชเช่นภาวะซึมเศร้า สมาธิสั้น ชอบโกหก โดยสถิติล่าสุดในช่วง 3 เดือนเเรกในปี 60 เด็กที่ติดเกมรุนแรงต้องเข้ารับการบำบัดทางจิตเวชถึง 53 คนซึ่งเพิ่มสูงขึ้น 1.5 เท่าในรอบ 3 ปี ขณะเดียวกันสภาวะที่ครอบครัวอยู่ด้วยกันเเต่ต่างคนต่างอยู่ เพราะสังคมก้มหน้า จะทำให้เกิดปัญหาสังคมตามมาหลายด้าน เเม้โซเซียลมีเดียจะมีข้อดี เเต่หากไม่ใช้อย่างพอดี เเละพ่อแม่ ครอบครัวไม่ดูเเลเด็กก็จะทำให้เกิดปัญหาตามมาอย่างแน่นอน


ด้านนางศิริพร สะโครบาเนด ประธานกรรมการมูลนิธิผู้หญิง กล่าวว่า การปัญหาสังคมก้มหน้า ต่อยอดไปสู่เรื่องความสัมพันธ์ในครอบครัว ปัจจุบันพ่อเเม่เลี้ยงเดี่ยวเเละคุณเเม่วัยใสเพิ่มมากขึ้นทั้งๆที่รัฐไทย ซึ่งมีกฎระเบียบบังคับในเรื่องดังกล่าวมาก ขณะเดียวกันเมื่อเปรียบเทียบกับในบางประเทศที่กฎหมายน้อย เเละเปิดอิสระในบางเรื่อง เเต่ปัญหากับเกิดขึ้นน้อยมากหรือเเทบจะไม่เกิด จึงมองว่าสังคมไทยต้องเปิดกว้างมากกว่านี้ เพื่อให้คนทุกคนรู้สึกมีคุณค่า ศักดิ์ศรีอยู่ร่วมกันได้ท่ามกลางความหลากหลาย เเต่ทั้งนี้จะไปหวังรัฐอย่างเดียวไม่ได้ เพราะมุมมองของรัฐบางครั้งไม่ยืดหยุ่นกับรูปแบบปัญหาที่เกิดขึ้นในสังคมอย่างหลากหลาย การเยียวยาจึงไม่ครอบคลุม หากรัฐเริ่มเเก้ปัญหาเรื่องนี้เเละปัจจัยอื่นๆที่จะส่งผลให้คนในครอบครัวมีเวลาอยู่ร่วมกันมากขึ้น

ขณะที่พญ.เบญจพร ตันตสูติ จิตเเพทย์เด็กเเละวัยรุ่น เจ้าของเพจเข็นเด็กขึ้นภูเขา กล่าวว่า ปัจจุบันคนไข้เด็กเเละวัยรุ่นที่มีปัญหาด้านสุขภาพจิตเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะมีผู้ปกครองติดต่อมาปรึกษาปัญหาเป็นจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่พบว่า พ่อเเม่ไม่มีเวลาดูเเลลูก ขาดปฏิสัมพันธ์ร่วมกัน พ่อเเม่ไม่เป็นเเบบอย่างที่ดีให้ลูกเพราะติดมือถือ เด็กก็ติดตาม พ่อเเม่จึงควรมีเวลาให้ลูก ดูเเลใกล้ชิด สร้างภูมิคุ้มกันให้เด็กเเยกเเยะได้ว่าอะไรดีหรือไม่ดี เป็นที่ปรึกษาหรือเพื่อนที่สามารถพูดคุย ถามไถ่สารทุกข์สุกดิบของลูก ไม่ใช่ละเลยเเละอ้างว่าทำงานเพื่อให้ลูกสบาย เเต่ก็ควรถามลูกด้วยว่าต้องการความอบอุ่นจากพ่อเเม่มากกว่าหรือไม่.- สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“พี สะเดิด” เปิดใจเป็นมะเร็งเต้านมนานเกือบ 20 ปี แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย

กรุงเทพฯ 13 ส.ค. – “พี สะเดิด” เจ้าของเพลงฮิต “จี่หอย” เผยเป็นมะเร็งเต้านมมานานเกือบ 20 ปี ตัดสินใจหยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเองแข็งแกร่งต่อสู้กับโรค จนค่ามะเร็งดีขึ้น แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย “พี สะเดิด” นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง อายุ 46 ปี เปิดใจว่าป่วยเป็นมะเร็งเต้านม มาเกือบ 20 ปีแล้ว รักษาโรคนี้โดยที่ไม่บอกใครเลย เพราะกลัวครอบครัวเป็นห่วง ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้าอก และพบว่าก้อนเนื้อมันขึ้นเรื่อยๆ ขนาดเท่าลูกมะนาว คิดว่าเป็นเพราะไม่ดูแลตัวเอง ทำงานหนัก กิน-นอนไม่เป็นเวลา แต่เพราะเป็นคนที่ตรวจสุขภาพตลอดทุก 6 เดือน พอเช็กดูเลยรู้ว่ามีเชื้อมะเร็งเต้านม หมอบอกว่าโอกาสน้อยที่จะเห็นผู้ชายเป็นมะเร็งเต้านม จะเป็นหนึ่งในล้าน หรือหนึ่งในสิบล้าน พี สะเดิด บอกว่าตอนแรกก็กลัว เลยตัดสินใจหันหน้าเข้าทางธรรม และปรับปรุงตัวเองควบคู่กันไป กินของที่มีประโยชน์ หยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเราแข็งแกร่งต่อสู้กับโรคมะเร็งของตัวเอง จนตอนนี้อยู่ทุกระยะค่ามะเร็งดีขึ้น ค่อยๆ ลดลงมา จนเหลือ 0 […]

“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ

รัฐสภา 13 ส.ค.-“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ ทั้งที่ตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชาแล้ว ด้าน “อนุสรณ์” แจงยัน กมธ.ไม่ได้ตีเช็คเปล่า แต่ตรวจเช็กความพร้อมให้ทหาร การอภิปรายมาตรา 8 กระทรวงกลาโหม วงเงิน 9.51 หมื่นล้านบาท นายชยพล สท้อนดี สส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) อภิปรายว่า ปีนี้ตัดงบกระทรวงกลาโหมยาก เมื่อถามหารายละเอียดจะมีคนพูดว่าปล่อยไปเถอะ ตอนนี้มีสถานการณ์ชายแดน ซึ่งตนเข้าใจถึงความจำเป็นที่ต้องใช้งบประมาณ เพราะเป็นห่วงทหารหน้างานเช่นกัน เลยต้องดูงบประมาณว่าใช้ถูกจุดหรือไม่ นายชยพล กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ตนเห็นงบเกี่ยวกับอุปกรณ์การแพทย์ คิดว่าเป็นอุปกรณ์ผ่าตัดแต่กลายเป็นว่าเป็นอุปกรณ์สำหรับม้า ตนหาอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อดูว่าใส่ใจทหารมากแค่ไหน แต่กลับไม่พบอุปกรณ์สำหรับขันชะเนาะห้ามเลือดที่ใช้ได้ด้วยมือข้างเดียว มีแค่สายยางไส้ไก่ ถ้าอยู่คนเดียวจะทำอย่างไร อยากถามว่าเราใส่ใจบุคลากรของเราจริงหรือไม่ และที่ข้องใจคือเราตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชา มีการเรียกทูตไทยประจำพนมเปญกลับ แต่ปรากฏว่ากองทัพบกสั่งอุปกรณ์ฟิตเนสไปเติมที่บ้านผู้ช่วยทูตทหารอยู่เลย จะมีใครได้อยู่ใช้หรือไม่ “นี่เป็นเหตุผลว่าแม้อยู่ในความขัดแย้งแต่ต้องตรวจสอบกองทัพอย่างเข้มข้น การที่รัฐบาลเซ็นเช็คเปล่าให้กองทัพโดยไม่ตรวจสอบ คือการทำให้กองทัพอ่อนแอ คนที่ชอบออกมาพูดเชียร์ทหารอยากให้คิดไว้ด้วยว่า หากรักชีวิตทหารจริง ก็อยากให้ฟังทหารชายแดนว่าเขาลำบากอย่างไร การทำงานของนายพลสะท้อนความต้องการคนเหล่านั้นจริงหรือไม่” ด้าน นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ กมธ.เสียงข้างมากชี้แจงว่า […]

“สืบพงษ์” ขึ้นศาลสืบพยานนัดแรก กรณียื่นฟ้องรักษาการอธิบดี ม.รามฯ ข้อหาเบิกความเท็จ

ศาลอาญา 13 ส.ค. – ศาลนัดสืบพยาน “สืบพงษ์” ยื่นฟ้อง รักษาการ อธ.รามคำแหง พร้อมพวก ข้อหาเบิกความเท็จถูกยื่นถอดถอนเมื่อปี 65 ชี้ “ฮุนเซน” ทิ้งใบปริญญาลงโถส้วมเป็นการไม่ให้เกียรติมหาวิทยาลัย วอนยุติพฤติกรรมไม่เหมาะสม ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดสืบพยานที่ นายสืบพงษ์ ปราบใหญ่ อดีตอธิการบดี ม.รามคำแหง เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ รักษาการอธิการบดี ม.รามคำแหง กับพวกรวม 2 คน ในความผิดฐาน “ฟ้องเท็จ / เบิกความเท็จ นายสืบพงษ์ เปิดเผยว่า ศาลนัดสืบพยานนัดแรกในคดีที่ตนได้ฟ้องผู้บริหารมหาวิทยาลัยรามคำแหงฟ้องตนที่ศาลแขวงพระนครเหนือโดยกล่าวหาตนว่ากระทำตนเป็นเจ้าพนักงานทั้ง ๆ ที่ไม่มีอำนาจ จากนั้นทางศาลได้ยกฟ้องคดีดังกล่าว ซึ่งได้ดำเนินคดีที่ศาลอาญาในข้อหาฟ้องเท็จและเบิกความเท็จ โดยวันนี้ตนเองเป็นพยานปากแรกที่ขึ้นเบิกความในวันนี้และจะมีพยานทั้งหมด 5 ปาก สืบพยานในวันนี้และวันที่ 14 ส.ค. ส่วนประเด็นที่ถูกถอดถอนอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหงเมื่อปี 2565 นั้น มีการถอดถอนตนเองทั้งหมด 2 ครั้ง หลังจากที่ดำรงตำแหน่งอธิการบดีได้ […]

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

ข่าวแนะนำ

พลทหารยิงชาวบ้านเจ็บ 2 ก่อนหนีเข้าป่า จบชีวิตตัวเอง

สุรินทร์ 15 ส.ค. – ตื่นตระหนก เหตุพลทหารที่ปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ชายแดน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ควงปืนอาวุธประจำกาย ออกมายิงชาวบ้าน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ก่อนจะหลบหนี และสุดท้ายปลิดชีพตนเอง ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนหาสาเหตุ ติดตามได้จากรายงานของศูนย์ข่าวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ.-สำนักข่าวไทย

ไล่ล่าโจรชิงทอง 123 บาท กลางห้างย่านบางบ่อ

สมุทรปราการ 15 ส.ค. – ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ เรียกประชุมตำรวจที่เกี่ยวข้อง แกะรอยหาเบาะแส ไล่ล่าโจรชิงทองห้างย่านบางบ่อ ยืนยันจำนวนทอง 123 บาท มูลค่ากว่า 6 ล้าน ขณะที่พนักงานยังผวาทุกครั้งที่เห็นคนใส่ชุดไรเดอร์เดินเข้าห้าง จากเหตุการณ์คนร้ายแต่งกายด้วยชุดไรเดอร์ สวมกางกางยีนขายาวสีดำ รองเท้าผ้าใบสีขาว เดินเท้าบุกเดี่ยวมาที่ร้านทอง แล้วชักอาวุธปืนพกแบบออโตเมติก สีบอร์นซ์ ขู่บังคับให้พนักงานขายทองซึ่งเป็นหญิง 3 คน หยิบทองรูปพรรณส่งให้คนร้าย แต่พนักงานขายทองไม่หยิบส่งให้ และหมอบลงกับพื้น คนร้ายจึงกระโดดข้ามตู้ทองด้านหน้าร้าน ไปเลื่อนกระจกตู้ทองด้านหลัง หยิบเอาทองคำรูปพรรณ มีสร้อยข้อมือ หนัก 5 บาท 5 เส้น น้ำหนัก 25 บาท น้ำหนัก 3 บาท 30 เส้น น้ำหนักรวม 90 บาท, หนัก 2 บาท 24 เส้น รวม 48 บาท […]

ย้าย “ลุงพล” มาคุมขังต่อที่เรือนจำกลางนครพนม

15 ส.ค. – เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ย้ายตัว “ลุงพล” จำเลยคดีน้องชมพู่ ไปควบคุมต่อที่เรือนจำกลางนครพนม ด้าน “ป้าแต๋น” ตามมาเยี่ยมให้กำลังใจสามี บอกเอาหัวใจมาฝาก ยืนยันลุงพลสู้ต่อถึงฎีกา หลังเมื่อวันที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมา ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาแก้เพิ่มโทษ นายไชย์พล วิภา หรือ “ลุงพล” จำเลยที่ 1 จาก 20 ปี เป็น 26 ปี และยกฟ้อง นางสมพร หลาบโพธิ์ หรือ “ป้าแต๋น” ในคดีฆ่า เด็กหญิงอรวรรณ หรือน้องชมพู่ อายุ 3 ขวบ หลังหายตัวจากบ้านพัก ขณะนั่งเล่นกับพี่สาวที่บ้าน กกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร เหตุเกิดช่วงเช้าวันที่ 11 พ.ค.2563 ต่อมาจำเลย ได้ยื่นหลักทรัพย์ขอปล่อยตัวชั่วคราว และวานนี้ ศาลฎีกาไม่อนุญาตให้ประกันตัว […]

สส.เพื่อไทย ให้กำลังใจ “แพทองธาร” ผ่านอุปสรรคกลับมารับใช้ประชาชน

รัฐสภา 15 ส.ค.-สส.เพื่อไทย ให้กำลังใจ “แพทองธาร” ผ่านอุปสรรคกลับมารับใช้ประชาชน ด้านเจ้าตัวยิ้มสู้-ยังเข้มแข็ง กำชับ สส.ทำงานสภาเต็มที่ ลงพื้นที่ดูแลประชาชนใกล้ชิด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร​ เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 วาระที่สอง วันสุดท้าย ซึ่ง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้เดินทางเข้ามาติดตามการประชุม ตลอด 3 วันที่ผ่านมา โดยในช่วงเช้า สส.พรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะ สส.เขต ได้มีการเข้าพบหารือกับนางสาวแพทองธาร ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เพื่อปรึกษาปัญหาในพื้นที่ รวมถึงเรื่องการผลักดันนโยบายต่างๆ ที่จะลงในพื้นที่ เนื่องจากในหลายจังหวัดมีโครงสร้างพื้นฐานพร้อมทุกด้าน แต่ยังขาดเรื่องการประชาสัมพันธ์ จึงอยากให้นางสาวแพทองธาร ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมผลักดันเกี่ยวกับซอฟพาวเวอร์ และจัดกิจกรรมอีเวนท์ต่างๆเพื่อ ให้จังหวัดนั้นๆเป็นที่รู้จักมากขึ้น นอกจากนี้ บรรดา สส. ของพรรคยังได้ให้กำลังใจนางสาวแพทองธาร เนื่องจากกลัวว่า อาจมีความเครียดและกังวลเรื่องคดีความ พร้อมขอให้นายกฯสู้ๆ เข้มแข็ง ผ่านอุปสรรคไปได้และได้กลับมาทำงานเพื่อประชาชน ขณะที่นางสาวแพทองธาร ยังคงยิ้มแย้ม แสดงความเข้มแข็ง และขอให้ สส.ทุกคน เดินหน้าทำหน้าทำงานในสภาอย่างเข้มแข็งเช่นกัน […]