กรุงเทพฯ 14 ส.ค. – ธปท.เผยรายได้ค่าธรรมเนียมแบงก์ลดวูบร้อยละ 11.2 หลังฟรีค่าธรรมเนียมการโอน พร้อมติดตามเอ็นพีแอลที่อยู่อาศัยและเอสเอ็มอี
นางสาวดารณี แซ่จู ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์สถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ผลการดำเนินงานของธนาคารพาณิชย์ไตรมาส 2 ปี 2561 ธนาคารพาณิชย์มีกำไรสุทธิ 57,000 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 15.9 มาจากรายได้ดอกเบี้ยสินเชื่อเพิ่มขึ้น และค่าใช้จ่ายกันสำรองที่ลดลง แม้รายได้ค่าธรรมเนียมลดลงเป็นครั้งแรกที่ร้อยละ 11.2 เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการยกเว้นค่าธรรมเนียมการโอน เนื่องจากมีผู้ใช้บริการโอนเงินทางอินเทอร์เน็ตแบงก์กิ้งและโมบายแบงก์กิ้งถึงร้อยละ 90 หรือ 224 ล้านรายการสิ้นไตรมาส 2 ปี 2561 ขณะที่อัตราการโอนเงินผ่านสาขา 170,000 รายการ ถือว่าน้อยมาก
ส่วนสินเชื่อขยายตัวร้อยละ 5.4 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 4.7 ในไตรมาสก่อน โดยขยายตัวตามภาวะเศรษฐกิจที่ดีขึ้น ยกเว้นสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ที่หดตัวร้อยละ 1.8 เนื่องจากธุรกิจขนาดใหญ่ระดมทุนผ่านตราสารหนี้และหุ้น ซึ่ง ธปท.คาดว่าสินเชื่อในปีนี้ขยายตัวร้อยละ 4-6 ตามที่คาดการณ์ไว้ ขณะที่คุณภาพสินเชื่อดีขึ้น โดยหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือเอ็นพีแอล อยู่ที่ร้อยละ 2.93 ใกล้เคียงไตรมาสก่อนที่ร้อยละ 2.92 หากเศรษฐกิจขยายตัวได้ต่อเนื่อง คาดว่าต้นปี 2562 เอ็นพีแอลมีทิศทางดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ยังต้องติดตามเอ็นพีแอลสินเชื่อที่อยู่อาศัยและธุรกิจเอสเอ็มอีที่ยังเพิ่มขึ้น เนื่องจากดอกเบี้ยสินเชื่อที่อยู่อาศัยปรับขึ้น หลังหมดโปรโมชั่น 3 ปี และยังพบว่าเอ็นพีแอลที่อยู่อาศัยระดับ 3-5 ล้านบาท เพิ่มขึ้นซึ่งเชื่อมโยงไปถึงสินเชื่อเอสเอ็มอี
นางสาวดารณี กล่าวว่า ต้นทุนดอกเบี้ยที่ปรับขึ้นเป็นปัจจัยที่ต้องติดตาม ซึ่งจะกระทบกับกลุ่มคนที่มีรายได้น้อย และกลุ่มที่มีหนี้ครัวเรือนสูง แต่เชื่อว่าธนาคารพาณิชย์จะค่อย ๆ ปรับขึ้นดอกเบี้ย จึงไม่น่ามีผลกระทบต่อผู้กู้มาก นอกจากนี้ ค่าธรรรมเนียมการโอนเงินที่จะลดลงได้อีก ขณะเดียวกันธนาคารพาณิชย์ยังต้องมีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับดิจิทัล แพลตฟอร์ม ซึ่งจะทำให้ต้นทุนของธนาคารพาณิชย์เพิ่มขึ้นได้.-สำนักข่าวไทย