พบเบาะแสสุดท้าย “นักไวโอลินเมียนมา” ที่หน้าโรงแรมย่านรัชดาฯ

สน.สุทธิสาร 12 ส.ค.- ตำรวจพบเบาะแสสุดท้าย! นักไวโอลินชื่อดังชาวเมียนมา อยู่ที่หน้าโรงแรมชื่อดังริมถนนรัชดาภิเษก ห่างจุดคอนโดฯ หรูที่พัก 800 เมตร มุ่งปมอุบัติเหตุ หรือโรคประจำตัวกำเริบกะทันหัน เป็นสาเหตุให้หายตัวไป


กรณีนายเนียน จัน อู อายุ 39 ปี นักไวโอลินระดับมาสเตอร์ของประเทศเมียนมา และเป็นหลานชายของสมาชิกสภาชาติพันธุ์แห่งเมียนมา หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยจากย่านห้วยขวาง หลังใช้ประเทศไทยเป็นที่นัดพบกับนางสาวมินต์ ออน มาร์ อายุ 39 ปี คู่หมั้นชาวเมียนมา สัญชาติออสเตรเลีย  โดยหายตัวไปตั้งแต่วันที่  2 สิงหาคมที่ผ่านมา ในช่วงหัวค่ำโดยนายเนียน จัน อู  ออกไปซื้อของร้านสะดวกซื้อ แต่ไม่ได้นำเอาหนังสือเดินทาง หรือพาสปอร์ตติดตัวไปด้วย จากนั้นได้ขาดการติดต่อไป ซึ่งคู่หมั้นสาวได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ สน.สุทธิสาร เมื่อวันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา 

ความคืบหน้า วันนี้ (12 ส.ค.)  พล.ต.ต.สมพงษ์  ชิงดวง รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(รอง ผบช.น.) เดินทางมาติดตามคดีที่ สน.สุทธิสาร พร้อมประชุมชุดสืบสวนเพื่อเร่งรัดติดตามหาตัวนายเนียน จัน อู  


พล.ต.ต.สมพงษ์  เปิดเผยกับสำนักข่าวไทยว่า หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ตรวจสอบวงจรปิด พบเบาะแสเป็นภาพสุดท้ายของนายเนียน จัน อู  อยู่ที่บริเวณใกล้กับโรงแรมชื่อดังริมถนนรัชดาภิเษก ซึ่งห่างจากคอนโดมิเนียมหรูที่นายเนียน จัน อู  เช่าพักอาศัยที่ย่านห้วยขวางประมาณ 800 เมตร จากการที่ตำรวจไปสอบปากคำเจ้าหน้าที่ รปภ.ของโรงแรม ให้การเบื้องต้นว่านายเนียน จัน อู อยู่ในสภาพเดินโซเซ คล้ายคนเมา รปภ.จึงประคองไปนั่งพักตรงป้ายรถโดยสารประจำทางด้านหน้าโรงแรม ซึ่งเป็นมุมอับ

รอง ผบช.น.ให้น้ำหนักประเด็นการหายตัวอาจเกิดจากประสบอุบัติเหตุ หรือโรคประจำตัวกำเริบกะทันหัน  จึงมีพลเมืองดีช่วยนำตัวส่งโรงพยาบาล  ส่วนประเด็นอื่นๆ ที่อาจเป็นไปได้ คือถูกเจ้าหน้าที่หน่วยงานอื่นควบคุมตัวไว้ เนื่องจากเจ้าตัวไม่มีเอกสารหลักฐานใดๆ ติดตัว ขณะนี้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนขอข้อมูลกับทางโรงพยาบาลและตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ว่าได้มีการคุมตัวนายเนียน จัน อู ไว้หรือไม่


ส่วนประเด็นถูกจับตัวไปประทุษร้ายหรือเจ้าตัวต้องการหลบหน้าเพื่อหนีปัญหาส่วนตัวนั้น จะต้องรอประสานขอข้อมูลกับทางครอบครัวก่อน พร้อมยอมรับว่า นายเนียน จัน อู  พูดภาษาไทยไม่ได้ หากการหายตัวไปครั้งนี้เป็นแค่การพลัดหลง ก็จะหาทางกลับมายังที่พักได้ลำบาก

วันนี้ ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทย ลงพื้นที่โรงแรมชื่อดังริมถนนรัชดาภิเษก สถานที่สุดท้ายที่พบเบาะแสของนายเนียน จัน อู ก่อนจะหายตัวไป จากการที่ผู้สื่อข่าวได้ไปสอบถามข้อมูลจากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (รปภ.) ของโรงแรม ได้ให้ข้อมูลว่าเมื่อวันที่ 2 สิงหาคมซึ่งเป็นวันเกิดเหตุ เห็นนายเนียน จัน อู เดินโซเซคล้ายกับคนมึนเมา อยู่ในซอยข้างโรงแรม และมีอาการเหม่อลอยเป็นบางครั้ง รวมทั้งทำโทรศัพท์มือถือตกลงพื้น จึงเก็บส่งคืนและพยายามพูดคุยสอบถามข้อมูลส่วนตัว แต่สื่อสารกันไม่รู้เรื่อง เนื่องจากชายคนดังกล่าวพูดภาษาไทยไม่ได้ จึงพาไปนั่งพักบริเวณป้ายรถโดยสารประจำทางที่หน้าโรงแรม หวังให้เจ้าตัวเรียกรถรับจ้างพาไปส่งที่พัก ส่วน รปภ.กลับไปทำหน้าที่ตามปกติ จึงไม่เห็นว่านายเนียน จัน อู ไปทางไหน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก