ประมวลเหตุโศกนาฏกรรมเรือล่มอยุธยา


พระนครศรีอยุธยา 19 ก.ย. – ย้อนดูเหตุการณ์โศกนาฏกรรมเรือล่มที่อยุธยา ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (18 ก.ย.59) และนักประดาน้ำทุกหน่วยเร่งระดมปฏิบัติการค้นหาผู้สูญหาย ก่อนยุติการค้นหาช่วงกลางดึกและมาปฏิบัติการค้นหาต่อในวันนี้ ยอดผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการล่าสุดอยู่ที่ 18 คน


19-9-2559 18-52-02 19-9-2559 18-52-30

ตั้งแต่ช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา นักประดาน้ำเริ่มปฏิบัติการค้นหาผู้สูญหายที่คาดว่าติดอยู่ภายในเรือต่อเป็นวันที่ 2 อุปสรรคสำคัญคือกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยว และปริมาณน้ำที่เพิ่มสูงขึ้น ขณะที่บริเวณศาลาภายในวัดสนามไชย เจ้าหน้าที่ได้ตั้งบอร์ดรายชื่อผู้ที่บาดเจ็บและเสียชีวิตให้ญาติที่มาติดตามได้รู้ข้อมูลล่าสุด ซึ่งตั้งแต่เมื่อคืนมีนับสิบครอบครัวเข้ามาแจ้งว่า มีญาติสูญหาย


19-9-2559 18-53-20 19-9-2559 18-53-31

ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้วางแผนดำน้ำลงไปตรวจสอบห้องน้ำภายในเรือ เนื่องจากมีครอบครัวผู้สูญหายแจ้งว่าขณะเกิดเหตุมีญาติคนหนึ่งมาเข้าห้องน้ำ ทำให้คาดว่าอาจติดอยู่ภายใน แต่ผลตรวจสอบไม่พบร่างผู้เสียชีวิต

19-9-2559 18-46-25 19-9-2559 18-53-55


ขณะที่ช่วงบ่าย ชุดค้นหาได้รับแจ้งพบผู้เสียชีวิตเป็นเด็กชายบริเวณริมสะพานวัดไก่เตี้ย ห่างจุดเกิดเหตุประมาณ 4 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่จึงนำเจ็ตสกีเข้าไปนำร่างกลับมาที่ท่าน้ำวัดสนามไชย ทราบชื่อคือ ด.ช.นวพรรษ กระจ่างแสง อายุ 8 ขวบ โดยมีพ่อและแม่ของเด็กที่มาเฝ้าติดตามสถานการณ์ตั้งแต่ช่วงเช้ามารอรับศพ บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า

19-9-2559 18-54-05 19-9-2559 18-54-46

ถัดมาอีกเพียง 1 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่พบร่างเด็กหญิง 1 คน บริเวณท่าน้ำวัดพนัญเชิง ทราบชื่อคือ ด.ญ.พัสริน บุญรัก อายุ 13 ปี และเวลาประมาณบ่าย 14.30 น. พบร่างผู้เสียชีวิตเป็นหญิงอีก 1 คน ทราบชื่อคือ มัธรีณ์ รักพงษ์ อายุ 48 ปี พบบริเวณสะพานวัดไก่เตี้ย

ขณะที่ช่วงเย็นมีฝนกระหน่ำลงมา ทำให้นักประดาน้ำต้องหยุดการดำค้นหาชั่วคราว แต่ชุดเรือที่ออกลาดตระเวนยังคงออกหาผู้เสียชีวิตอย่างต่อเนื่อง ทำให้ยอดรวมผู้เสียชีวิตขณะนี้อยู่ที่ 18 คน แบ่งเป็นเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 7 คน เป็นหญิง 3 คน ชาย 2 คน และเด็กอายุ 15 ปี 1 คน อายุ 3 ปี 1 คน เสียชีวิตที่โรงพยาบาล 8 คน แบ่งเป็นหญิง 6 คน ชาย 1 คน และเด็กหญิงอายุ 13 ปี 1 คน

นอกจากนี้ มีผู้เสียชีวิตที่เพิ่งพบศพเพิ่มในวันนี้ 3 คน ขณะที่ตัวเลขผู้สูญหายอยู่ที่ 11 คน แบ่งเป็นหญิง 6 คน ในจำนวนนี้มีหญิงอายุ 89 ปี 1 คน เด็กชายและเด็กหญิงอายุระหว่าง 2 ปี ถึง 12 ปี รวม 5 คน

19-9-2559 18-55-00 19-9-2559 18-55-20

ส่วนการให้ความช่วยเหลือจากทางการวันนี้ ผู้ว่าฯ พระนครศรีอยุธยา มอบหมายปลัดจังหวัดไปที่กุโบร์ คลองกรูจาม ต.สำเภาล่ม อ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อแสดงความเสียใจ และมอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้นกับครอบครัวผู้เสียชีวิต ครอบครัวละ 5,000 บาท. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พปชร.เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา

พปชร. เปิดตัวทัพใหญ่ ว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา เผยเลือดไหลเข้าพรรคพร้อมรับใช้ประชาชนอีกมาก

สาวถูกงูเห่ากัดใช้เบตาดีนทา สุดท้ายถูกหามเข้า ICU

อุทาหรณ์ สาวโพสต์โดนงูเห่ากัดตอนตี 5 ล้างแผล ทาเบตาดีนสู้พิษงู ลุกไปเข้าเวรเช้าต่อ ก่อนภาพตัด ถูกหามเข้าไอซียู

ตร.ไซเบอร์บุกค้น 9 จุด รวบรอบ 2 “มินนี่” เจ้าแม่เว็บพนัน

ตำรวจ บช.สอท. นำกำลังพร้อมหมายค้น ปูพรม 9 จุด ทั้งในกรุงเทพฯ จังหวัดเลย และจังหวัดใกล้เคียง จับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายพนันออนไลน์ “มินนี่” กว่า 30 หมายจับ

เตือนพายุฤดูร้อนไทยตอนบน ฉ.1 มีผล 6-8 มี.ค.นี้

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 1 มีผลกระทบช่วงวันที่ 6-8 มี.ค.68 เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง

ข่าวแนะนำ

ครู-ผู้ปกครอง ห่วงยกเลิก “ทรงผมนักเรียน” กระทบระเบียบวินัย

ครูและผู้ปกครองใน จ.ขอนแก่น แสดงความกังวล หลังศาลปกครองสูงสุด สั่งยกเลิกกฎกระทรวง ข้อกำหนด “ผมทรงนักเรียน” ห่วงการปล่อยเสรีอาจกระทบต่อระเบียบวินัยและความเรียบร้อยของนักเรียน ขณะที่นักเรียนจำนวนมากพอใจคำตัดสินดังกล่าว

อากาศร้อนจัด หนุ่มขับเก๋งย่องขโมยแอร์ครบชุด

อากาศร้อนจัด หนุ่มขับเก๋งย่องขโมยแอร์ครบชุดจากร้านแอร์ กลางเมืองสมุทรสงคราม เชื่อคนร้ายมีความรู้เรื่องแอร์ เพราะเลือกหยิบชุดเดียวกัน

นายกฯ ชูซอฟต์พาวเวอร์ไทย บนเวที “ITB Berlin 2025”

นายกฯ ชู soft power ไทย บนเวทีท่องเที่ยวโลก “ITB Berlin 2025” ผลักดันเมืองน่าเที่ยว 18 จังหวัด มุ่งขับเคลื่อนให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวระดับโลก ตั้งเป้าสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว 3.5 ล้านล้านบาท

Trudeau tells Trump that tariffs are 'very dumb,' says Canada striking back

ประเทศคู่ค้าตอบโต้กำแพงภาษีสหรัฐ

ออตตาวา 5 มี.ค.- ประเทศคู่ค้าขนาดใหญ่ของสหรัฐ ทั้งแคนาดา เม็กซิโก และจีน ออกมาตรการด้านภาษีและมาตรการอื่น ๆ ตอบโต้มาตรการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ ทั้งนี้หลังจากมาตรการของสหรัฐที่เก็บภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโกเป็นร้อยละ 25 มีผลตั้งแต่วันที่ 4 มีนาคม นายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดาแถลงในอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมาว่า เป็นมาตรการที่โง่เขลาอย่างยิ่ง และแคนาดาได้มีมาตรการโต้กลับด้วยการเก็บภาษีในอัตราร้อยละ 25 ทันทีกับสินค้าของสหรัฐมูลค่า 30,000 ล้านดอลลาร์แคนาดา (ราว 701,115 ล้านบาท) และจะเก็บในอีก 21 วันกับสินค้าสหรัฐมูลค่า 125,000 ล้านดอลลาร์แคนาดา (ราว 2.9 ล้านล้านบาท)   ขณะที่ร้านจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขนาดใหญ่ในแคนาดาต่างพร้อมใจกันเก็บเหล้าและไวน์ที่นำเข้าจากสหรัฐออกจากชั้นวางและยังเชิญชวนให้ผู้บริโภคหันไปซื้อสินค้าที่ผลิตเองในประเทศแทน  ผู้ผลิตคราฟต์เบียร์รายหนึ่งเปิดเผยว่า จะเพิ่มการใช้วัตถุดิบในประเทศเป็นหลัก แทนวัตถุดิบที่เคยนำเข้าจากสหรัฐ  แต่วัตถุดิบจำเป็นบางอย่างต้องนำเข้าจากเยอรมนี ส่วนกระป๋องอลูมิเนียมสำหรับบรรจุเบียร์ที่เคยนำเข้าจากสหรัฐเพราะแคนาดาไม่ได้ผลิตนั้น จะเปลี่ยนไปซื้อจากจีนแทนซึ่งมีราคาถูกกว่า ด้านเม็กซิโก ประธานาธิบดีคลอเดีย เชนบามแถลงว่า การขึ้นภาษีของสหรัฐไม่มีความชอบธรรม เพราะที่ผ่านมาเม็กซิโกให้ความร่วมมือกับสหรัฐมาโดยตลอดในการแก้ปัญหาต่าง ๆ ทั้งเรื่องผู้อพยพและยาเสพติด ดังนั้นรัฐบาลเม็กซิโกจะมีมาตรการตอบโต้สหรัฐด้วยมาตรการด้านภาษีและมาตรการอื่น ๆ  โดยจะมีการแถลงรายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการตอบโต้อีกครั้งในวันที่ 9 […]