กรุงเทพฯ 11 ส.ค.-กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เร่งแก้ปัญหาหนี้สินเกษตรกร
ให้กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรเฉพาะกิจเจรจาปรับโครงสร้างหนี้และซื้อหนี้ที่เกษตรกรกู้ยืมจากสถาบันการเงินต่างๆ
ได้แล้ว 36,000 ราย
นายกฤษฏา บุญราช รมว.เกษตรและสหกรณ์
ได้เรียกประชุมคณะกรรมการเฉพาะกิจกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรเฉพาะกิจ เพื่อพิจารณาเห็นชอบผลการเจรจาตกลงระหว่างคณะอนุกรรมการฯ
ในการเจรจาไกล่เกลี่ยหนี้สินเกษตรกร ซึ่งคณะอนุกรรมการฯ
เสนอแนวทางแก้ไขและปรับโครงสร้างหนี้สินให้แก่เกษตรกรที่เป็นสมาชิกกองทุนฯที่สามารถเจรจาตกลงปรับโครงสร้างหนี้ใหม่และกองทุนฯสามารถเข้าซื้อหนี้เกษตรกรจากสถาบันการเงินเจ้าหนี้ได้รวมประมาณ36,000รายซึ่งเป็นกลุ่มเกษตรกรที่เป็นหนี้ค้างชำระธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์
(ธกส.)ตั้งแต่ปี 2543 ถึงปัจจุบันวงเงิน ประมาณ 6,000 ล้านบาท
ซึ่งเกษตรกรเหล่านี้ที่มีคุณสมบัติตามพระราชบัญญัติกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร
พ.ศ.2542 และเป็นหนี้ในระบบ โดยแนวทางมีการลดยอดหนี้เกษตรกรลง 50% และหยุดดอกเบี้ย
ระยะเวลาไม่เกิน 15 ปี
ซึ่งถือได้ว่าการเจรจาที่เป็นผลสำเร็จจำนวนมากที่สุดตั้งแต่จัดตั้งกองทุนฯ
ขึ้นในปี 2542 เป็นต้นมา
โดยปัจจุบันมีเกษตรกรที่เป็นสมาชิกกองทุนฯจำนวนประมาณ
6 ล้านคน และมีการลงทะบียนสมาชิกเกษตรกรที่มีหนี้สินกับสถาบันการเงินเช่น
ธกส.ธนาคารพาณิชย์ทั่วไปและสหกรณ์การเกษตรประมาณ 460,000 รายมูลค่าประมาณ 8
หมื่นล้านบาทตั้งแต่ปี 2549 ถึงปี 2557 กองทุนฟื้นฟูฯ
สามารถแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกรดังกล่าวได้เพียง 29,000 รายเท่านั้น
สำหรับคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจกองทุนฟื้นฟูและแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกรชุดนี้
นายกรัฐมนตรีมีคำสั่งคำแต่งตั้งไว้เมื่อเดือนพฤษภาคม 2560
โดยมอบหมายงานการแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกรและการพัฒนาอาชีพเกษตรกรสมาชิกกองทุนฯให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ทำหน้าที่เป็นผู้รับผิดชอบแทนสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
เพื่อทำหน้าที่แทนคณะกรรมการบริหารกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรตามพรบ.
กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร พ.ศ.2542
ซึ่งที่ผ่านมามีปัญหาการบริหารกองทุนฯไม่สามารถแก้ไขปัญหาหนี้สินและพัฒนาอาชีพเกษตรได้
แต่จากการดำเนินการเจรจากับเจ้าหนี้ใหม่สามารถปรับโครงสร้างหนี้และซื้อหนี้จากสถาบันการเงินมาบริหารจัดการช่วยเหลือเกษตรกรได้เป็นจำนวนมาก.-สำนักข่าวไทย