กรุงเทพฯ 7 ส.ค.-ในเดือนสิงหาคมนี้ ผู้ต้องขังคดียาเสพติดในทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลางได้รับโอกาสให้แม่และพ่อแท้ๆ ได้เข้าไปเยี่ยมในเรือนจำอย่างใกล้ชิดตลอดเดือน ซึ่งกรมราชทัณฑ์คาดหวังว่า จะช่วยสร้างกำลังใจให้นักโทษ ปรับพฤตินิสัยและกลับตัวเป็นคนดีทดแทนพระคุณแม่เมื่อพ้นโทษ
ภาพบรรยากาศความรักระหว่างแม่และลูกของคนกลุ่มนี้ไม่ได้เกิดขึ้นมานานหลายปีแล้ว เพราะลูกชายตกเป็นนักโทษในคดียาเสพติดอยู่ในทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง
กรมราชทัณฑ์เปิดโอกาสให้แม่และพ่อได้กอดลูกอย่างใกล้ชิด ลูกๆ ได้ล้างเท้าขอขมา นำพวงมาลัยดอกมะลิมากราบและสวมกอดกันอย่างสุดซาบซึ้ง เพราะปกติผู้ต้องขังคดียาเสพติดที่มีความประพฤติไม่ดีถึงขั้นต้องปรับปรุงและต้องปรับปรุงมากกลุ่มนี้ จะไม่ได้รับอนุญาตให้ญาติเยี่ยมแบบใกล้ชิดถึงตัว
หลายครอบครัวมีทั้งน้ำตาและรอยยิ้มแห่งความดีใจ เช่น นักโทษคนนี้แม้จะมีอายุ 31 ปีแล้ว แต่ยังสวมกอดและหอมแก้มแม่ตลอดเวลาที่อยู่ในพิธี เขาบอกว่าได้กอดแม่เป็นครั้งแรกนับจากเข้ารับโทษในเรือนจำคดีค้าไอซ์มาแล้ว 13 เดือน ยอมรับว่าที่ตัดสินใจเดินเส้นทางผิดเพราะอยากมีเงินมาใช้จ่ายและเลี้ยงดูแม่ที่เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวและทำงานเหน็ดเหนื่อยส่งเสียจนเขาเรียนจบ ปวช. แม้แม่จะห้ามปรามมาตลอด หางานสุจริตให้ทำและให้บวชเรียน แต่ก็ไม่เป็นผล ตอนนี้รู้สึกสำนึกผิด ตั้งใจว่าหากโทษออกไปในอีก 6 ปีข้างหน้า จะกลับตัวเป็นคนดีเพื่อดูแลแม่
ปกติผู้ต้องขังชั้นนี้จะได้รับอนุญาตให้ญาติเยี่ยมผ่านห้องกระจกและไม่สามารถสัมผัสตัวกันได้ แต่ในโอกาสวันแม่แห่งชาติปีนี้ ทัณฑสถานพิเศษบำบัดกลางเปิดโอกาสให้พ่อแม่แท้ๆ เข้าเยี่ยมได้แบบใกล้ชิดตลอดทั้งเดือน หวังใช้สายใยในครอบครัวยึดโยงใจให้ผู้ต้องขังกลับตัวกลับใจ เมื่อออกไปสู่โลกภายนอก
ผู้ต้องขังคดียาเสพติดมักถูกตัดสินให้รับโทษจำคุกหลายปีจนถึงตลอดชีวิต มีไม่น้อยที่ได้ออกจากเรือนจำไปแล้ว แต่สถิติพบว่ามี 1 ใน 3 ได้กระทำความผิดซ้ำ และกลับเข้ามาในเรือนจำอีกในรอบ 3 ปี ปัจจุบันมีผู้ต้องขังคดียาเสพติดในทัณฑสถานพิเศษบำบัดกลางจำนวน 8,616 คน เฉลี่ยอายุไม่เกิน 40 ปี.-สำนักข่าวไทย