ราชทัณฑ์แจงปมผู้ต้องขังเรือนจำกลางเขาบินร้องถูกทำร้าย

14 มี.ค.- ราชทัณฑ์ แจงกรณีญาติผู้ต้องขังเรือนจำกลางเขาบิน ร้องเรียนถูกเจ้าหน้าที่ทำร้ายร่างกาย พบเป็นการระงับเหตุทะเลาะวิวาทของผู้ต้องขัง 2 กลุ่ม ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง


ตามที่สื่อมวลชนและสื่อออนไลน์ต่างๆ ได้เผยแพร่ข่าว กรณีญาติของผู้ต้องขังเรือนจำกลางเขาบิน ได้นําหลักฐานเอกสารเข้าร้องเรียนกับนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เพื่อขอให้ช่วยเหลือ โดยอ้างว่า นายธัช ลูกชาย ถูกผู้คุมในเรือนจำ 6 คน ทำร้ายร่างกายในระหว่างเข้าระงับเหตุการทะเลาะวิวาท ของผู้ต้องขัง 2 กลุ่ม ในเรือนจำ นั้น

กรมราชทัณฑ์ได้รับรายงานจากเรือนจำกลางเขาบินว่า เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2567 เกิดเหตุผู้ต้องขัง กลุ่มภาคใต้และกลุ่มภาคกลาง ได้ทะเลาะวิวาทกันภายในแดน 3 เจ้าพนักงานเรือนจำจึงได้เข้าระงับเหตุ เมื่อควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ จึงได้สอบสวนผู้ต้องขังที่ก่อการทะเลาะวิวาท ปรากฏว่าสาเหตุเกิดจาก น.ช.ธีธัช (คาดว่าเป็นบุคคลเดียวกับ นายธัช ตามที่เป็นข่าว) ในขณะออกไปตรวจรักษาอาการป่วยยังโรงพยาบาลภายนอก อ้างว่า น.ช.สิทธิพงศ์ ผู้ต้องขังกลุ่มภาคใต้ ขอให้ลักลอบนำยาโคลนาซีแพม (Clonazepam) ซึ่งเป็นยาควบคุมเพื่อใช้รักษาอาการชักและคลายกังวลที่แพทย์จะต้องสั่งจ่ายโดยเฉพาะเข้าไปภายในแดน 3 แต่ น.ช.ธีธัช ไม่ได้นำยาดังกล่าวกลับเข้ามา จึงเกิดมีปากเสียงกัน ขณะนั้นมีผู้ต้องขังกลุ่มภาคใต้และภาคกลางอยู่ในเหตุการณ์ด้วย จึงลุกลามบานปลายถึงขั้นทะเลาะวิวาทกัน จนนำไปสู่การเข้าระงับเหตุดังกล่าว ทั้งนี้เรือนจำพิจารณาและประเมินสถานการณ์แล้ว เพื่อให้สามารถระงับเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทดังกล่าวได้อย่างทันท่วงที และป้องกันมิให้เกิดเหตุการณ์ลุกลามและสร้างความเสียหายที่ยากต่อการควบคุม จึงมีความจำเป็นต้องดำเนินการระงับเหตุ เพื่อให้หยุดยั้งพฤติกรรมของผู้ต้องขังนั้น ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานการปฏิบัติงานด้านการควบคุมผู้ต้องขัง (SOPs) เรื่องมาตรฐานการใช้กำลังกับผู้ต้องขัง ทั้งนี้ ตามพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พ.ศ. 2560 มาตรา 22 (2), (3) และกฎกระทรวงกำหนดประเภทหรือชนิดของอาวุธอื่นนอกจากอาวุธปืนที่เจ้าพนักงานเรือนจำจะพึงมีไว้ในครอบครองหรือใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ พ.ศ. 2563 ข้อ 2 (1) โดยเจ้าพนักงานเรือนจำได้ปฏิบัติตามขั้นตอนวิธีการตามที่กฎหมายกำหนดมิได้ใช้กำลังเกินกว่าเหตุแต่อย่างใด


เรือนจำกลางเขาบินได้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง ผลปรากฏว่า จากการสอบพยานบุคคลผู้ต้องขัง จำนวน 22 คน ต่างให้การสอดคล้องและยืนยันว่า เจ้าพนักงานเรือนจำที่เข้าระงับเหตุการณ์ไม่มีผู้ใดใช้กำลังทำร้ายหรือกระทำการเกินกว่าเหตุ คงมีเพียงกลุ่มของ น.ช.ธีธัช และพวกรวม 6 คน ที่ให้การตรงข้ามกับพยานบุคคลรายอื่น เมื่อสอบข้อเท็จจริงแล้วเสร็จ เรือนจำฯ ได้มีคำสั่งลงโทษทางวินัยกับผู้ต้องขังที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์และดำเนินการย้ายผู้ต้องขังทั้ง 2 กลุ่มไปควบคุมยังแดนความมั่นคงสูงสุด (แดน 4) ตามระเบียบกรมราชทัณฑ์ที่กำหนด ซึ่งรวมถึง น.ช.ธีธัช ที่ถูกลงโทษทางวินัยด้วย

กรมราชทัณฑ์ขอเรียนว่า กรณีที่มีหนังสือร้องเรียนมายังกรมราชทัณฑ์ สำนักผู้ตรวจราชการกรม ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น และให้เรือนจำชี้แจงเรื่องดังกล่าว อนึ่ง การร้องเรียนของญาติในกรณีนี้ ในช่วงปลายเดือนมกราคม 2568 กรมราชทัณฑ์ได้สั่งการให้เรือนจำฯ รายงานชี้แจงข้อเท็จจริงแล้ว เรือนจำฯ ได้มีหนังสือรายงาน การตรวจสอบข้อเท็จจริงไปยังกรมราชทัณฑ์ เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2568 โดยสำนักผู้ตรวจราชการกรม ตรวจสอบรายงานดังกล่าวแล้ว เพื่อให้มีข้อมูลการพิจารณาที่ครอบคลุมทุกด้าน จึงมีหนังสือถึงเรือนจำฯ เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2568 ให้ตรวจสอบและชี้แจงข้อเท็จจริงในประเด็นที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม เช่น ภาพจากกล้องวงจรปิด ประวัติการรักษาพยาบาลกลุ่มผู้ต้องขังที่อ้างว่าถูกทำร้ายร่างกาย เป็นต้น ขณะนี้อยู่ระหว่างรอรายงานการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมจากเรือนจำฯ

ทั้งนี้กรมราชทัณฑ์ขอเรียนว่าเรือนจำกลางเขาบินเป็นเรือนจำความมั่นคงสูงสุดที่คุมขังผู้ต้องขังที่มีพฤติการณ์ดื้อด้านยากต่อการปกครองและกลุ่มผู้ต้องขังที่มีพฤติกรรมใช้เรือนจำเป็นแหล่งการซื้อขายยาเสพติดหรือมีพฤติกรรมอยู่เบื้องหลังการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดที่ถูกคัดย้ายมาจากเรือนจำอื่น แต่อย่างไรก็ตามกรมราชทัณฑ์ยังคงดำเนินการภายใต้มาตรฐานการปฏิบัติงานด้านการควบคุมผู้ต้องขัง (SOPs) และปฏิบัติตามข้อกำหนดมาตรฐานขั้นต่ำขององค์การสหประชาชาติในการปฏิบัติต่อผู้ต้องขัง (ข้อกำหนดแมนเดลา) เพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับผู้ต้องขังทุกคนเป็นสำคัญ .- สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]