คาดน้ำล้นเขื่อนแก่งกระจานสี่ทุ่มคืนนี้

กรุงเทพฯ 5ส.ค.-
กรมชลประทานคาดน้ำล้นเขื่อนแก่งกระจานสี่ทุ่มคืนนี้ มวลน้ำก้อนนี้จะถึง อ.เมือง
จ.เพชรบุรี เช้าวันที่ 7 ส.ค.รับมือประสานป้องกันภัยเต็มที่ ย้ำเขื่อนแข็งแรง ด้าน
รมว.เกษตรกรฯ สั่งเฝ้าประสาน ระวังภัยรับมือ ฝนลูกใหม่ 5-9 ส.ค.นี้


นายกฤษฎา​
บุญ​ราช​ รัฐมนตรี​ว่าการกระทรวง​เกษตร​และสหกรณ์​จากเหตุอุทกภัย​ในหลายพื้นที่  ขอให้สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดในพื้นที่ประสบภัยได้เรียกประชุมคุณะอนุกรรมการพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์
(อพก.)
เพื่อจัดทำแผนการช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบภัยน้ำท่วมอย่างเป็นระบบโดยกำหนดพื้นที่และหน่วยงานรับผิดชอบประจำพื้นที่ให้ชัดเจนรวมทั้งการส่งเจ้าหน้าที่ไปให้ความช่วยเหลือตามลำดับความจำเป็นเร่งด่วนและสถานการณ์ในพื้นที่ตามแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดด้วย


กระทรวงเกษตรฯมีความห่วงใยเกษตรกรทั่วประเทศเนื่องจากมีพื้นที่ประสบอุทกภัยหลายจังหวัดแล้ว
อีกทั้งกรมอุตุนิยมวิทยาได้คาดหมายลักษณะ​อากาศ​ว่า​ ตั้งแต่​​5-9​ ส.ค.​จะมีฝนตกชุกและตกหนักในหลายพื้นที่
อาจเกิดน้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมฉับพลัน และดินโคลนถล่มได้ หน่วยงานกระทรวงเกษตรฯ
ในทุกพื้นที่จึงต้องประสานงานกับทางอำเภอและจังหวัด อีกทั้งศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ
(ปภ.) และในพื้นที่อย่างใกล้ชิดเพื่อป้องกัน บรรเทา
และเยียวยาเกษตรกรที่อาจได้รับความเดือดร้อน
” นายกฤษฎา กล่าว


นายกฤษฎา
กล่าวด้วยว่าเมื่อเช้าที่ผ่านมาได้สั่งการด่วนที่สุดนื่องให้กรมชลประทานแจ้งเตือนล่วงหน้าให้ทราบสถานการณ์การระบายน้ำจากเขื่อนแก่งกระจาน
ตลอดจนเขื่อนต่างๆ ในเส้นทางแม่น้ำเพชรบุรีไปจนถึงออกทะเล
ให้ประชาชนทราบผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นและเตรียมพร้อมเฝ้าระวัง
เนื่องจากขณะนี้มีการเร่งระบายน้ำจากเขื่อนแก่งกระจานที่มีปริมาณใกล้เต็มความจุและคาดการณ์ว่า
น้ำจะล้นทางระบายน้ำล้นของเขื่อน (
Spill Way)ในวันนี้ (5 สิงหาคม)
รวมทั้งเขื่อนในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อีกทั้งสถานการณ์น้ำในจังหวัดใกล้แม่น้ำโขง

นายทองเปลว
กองจันทร์
อธิบดีกรมชลประทานสั่งการเจ้าหน้าที่ทุกสำนักโครงการชลประทานในพื้นที่ที่จะเร่งพร่องน้ำออกจากเขื่อนรายงานสถานการณ์น้ำไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดและป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
(ปภ.) เพื่อเตรียมแผนช่วยเหลือประชาชนที่จะได้รับผลกระทบ
โดยเฉพาะที่เขื่อนแก่งกระจานซึ่งน้ำมากกว่า 97% ของความจุอ่างแล้ว
ขณะที่ยังมีน้ำไหลเข้าเขื่อนมากจากฝนที่ตกหนักต่อเนื่อง คาดว่า
น้ำจะล้นอาคารระบายน้ำล้น (
Spill Way) ลงสู่แม่น้ำเพชรบุรีและจะทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำสูงขึ้น
กรมชลประทานจึงเร่งพร่องน้ำหน้าเขื่อนเพชรบุรีและผันน้ำเข้าระบบคลองชลประทานให้เต็มศักยภาพ
พร้อมกับเปิดทางน้ำระบายจากคลองส่งน้ำลงคลองระบายน้ำ คลองธรรมชาติ
ลงอ่าวไทยให้เร็วที่สุดโดยเร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 30​ เครื่อง
และเครื่องผลักดันน้ำจำนวน 44 เครื่อง
ตลอดแม่น้ำเพชรบุรีจนออกทะเลให้เสร็จภายในวันนี้​อีกทั้งยังเพิ่ม​เส้นทาง​การระบายน้ำลงสู่อ่าวไทย​โดยใช้คลอง
RMC3 ระบายน้ำผ่านคลอง D9
ซึ่งจะช่วยลดระดับน้ำ​แม่น้ำเพชรบุรี​ นอกจากนี้​ ยังได้เตรียมพร้อมรถขุดตัก หรือ แบคโฮประจำไว้ในพื้นที่
7คัน
กรณีมีความจำเป็นต้องขุดเปิดเส้นทางน้ำซึ่งจะช่วยลดปริมาณน้ำที่อาจล้นตลิ่งลงสู่พื้นที่ชุมชนและพื้นที่การเกษตรด้านท้ายน้ำได้มาก

สถานการณ์​น้ำเขื่อนแก่งกระจานที่มีน้ำเต็มความจุ​
ศูนย์​ปฏิบัติการ​น้ำ​อัจฉริยะ​ (
SWOC) ได้คำนวณปริมาตรน้ำที่ไหลเข้าอ่างที่ยังมากกว่าการระบายน้ำออกจึงคาดว่าน้ำจะเริ่มล้น
Spillway เขื่อนแก่งกระจานในวันที่ 5 ส.ค. 61 เวลา 22.00 
น.​
การไหลของน้ำที่ล้น Spillway จะไม่ทำให้เขื่อนเสียหายแน่นอน
อีกทั้งปริมาณที่ไหลผ่าน Spillway ไม่ได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จะค่อยๆ
ปรับขึ้น คล้ายกับการเอียงขันน้ำแต่น้อย เพื่อเทน้ำออกจากขัน ดังนั้น
ต้องใช้ช่วงเวลาเวลาระยะหนึ่งกว่าน้ำจะไหลผ่าน
Spillway เต็มที่


“​น้ำที่ล้น
Spillway เขื่อนแก่งกระจานต้องใช้เวลา 24 ชั่วโมง​จึงจะไหล ​ไปถึงเขื่อนเพชรบุรี  ซึ่ง​เขื่อนเพชรบุรีจะสามารถหน่วงน้ำส่วนนี้
ได้ช่วงเวลาหนึ่ง

 ส่วนน้ำที่เกินจากเขื่อนเพชรบุรีต้องใช้เวลา 12 ชั่วโมงกว่าจะถึงอำเภอ​เมืองเพชรบุรี  นับว่าเป็นสถานการณ์ที่ดีที่พื้นที่ใต้เขื่อนแก่งกระจานไม่มีฝนตกและ
ไม่มีน้ำท่าสะสม ปริมาณน้ำในแม่น้ำเพชรบุรีจึงมีน้อยมาก สามารถรับน้ำได้อีก
150 ลูก​บาศก์​เมตรวินาที หรือวันละ​13 ล้านลูกบาศก์เมตร​”อธิบดีกรมชลประทานกล่าว

 สิ่งสำคัญ​ที่สุด​คือ​ กรมชลประทาน​ได้เตรียมการป้องกันน้ำท่วม
อ.เมือง จ.เพชรบุรี โดยใช้บทเรียนจากปี
2559 และ ปี 2560 โดยก่อนเข้าฤดูฝนได้เสริมคันกั้นน้ำ แม่น้ำเพชรบุรี
ตรวจความแข็งแรงอย่างต่อเนื่อง ก่อนเกิดฝนตกหนัก ได้ขนย้ายเครื่องมือเครื่องสูบน้ำ​
เครื่องผลักดันน้ำ ไปยังจุดเสี่ยง โดยเฉพาะจุดที่เคยเกิดน้ำท่วม
 อีกทั้งพร่องน้ำโดยเร่งระบายน้ำแม่น้ำเพชรบุรี
โดยเครื่องผลักดันน้ำ และ เครื่องสูบน้ำ จากทุกหน่วยงาน​
รวมทั้ง​ตรวจการขึ้นลงน้ำทะเล ประกอบการวางแผนการเร่งระบายน้ำโดยติดตามสถานการณ์
24 ชั่วโมง​ จึงมั่นใจว่า​ จากความร่วมมือของทุกหน่วยงานครั้งนี้จะทำให้​การร่วมกันแก้ไขและบรรเทาความเดือดร้อน​ของ​ประชาชน​ได้มาก​
-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

แม่น้ำยมล้นพนังกั้นน้ำ ชาวบ้าน-พระ เดือดร้อน

สุโขทัย 28 ส.ค. – หลายพื้นที่เมืองสุโขทัย จมอยู่ใต้น้ำและขยายวงกว้าง แม่น้ำยมล้นพนังกั้นน้ำ ด้านหลังวัดปากแคว พระและชาวบ้าน ช่วยกันขนสิ่งของหนีน้ำ ภาพมุมสูง เผยให้เห็นสภาพน้ำท่วมสูงภายในวัดปากแคว และบริเวณโดยรอบ ทหารนำกำลังพล 22 นาย ลงพื้นที่ช่วยเหลือ พระวัดปากแคว ชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 2 หมู่ 4 ต.ปากแคว 4 ชุมชน ในเขตเทศบาลเมืองสุโขทัยธานี ถูกน้ำท่วมขยายวงกว้าง รถยนต์จมน้ำหลายคัน ด้านหลังวัดปากแคว อำเภอเมือง แม่น้ำยมผนังกั้นน้ำล้นตลิ่ง มวลน้ำมหาศาล ทะลักเข้าท่วมเต็มพื้นที่ ระดับน้ำสูงรอบวัดเกือบ 2 เมตร ทะลักเข้าท่วม ไหลข้ามถนนจรดวิถีถ่อง ระยะทางกว่า 500 เมตร ต้องปิดกั้นถนนห้ามสัญจรไปมา พระครูปลัดสุวัฒนสาธุคุณ (พระอาจารย์นาค) เจ้าคณะตำบลบ้านกล้วย เจ้าอาวาสวัดพายชุมพล หลังทราบข่าว ระดับน้ำท่วม ในวัดปากแคว รีบนำอาหารกล่องพร้อมทั้งถุงยังชีพ เข้าไปถวายพระสงฆ์ 18 รูป ที่จำพรรษาอยู่ในวัดปากแคว เร่งหาผู้สูญหายที่แม่ฮ่องสอน […]

เร่งค้นหาอีก 3 ผู้สูญหายดินถล่มปางอุ๋ง ท่ามกลางความหวังของญาติ

28 ส.ค. – เข้าสู่วันที่ 2 ของเหตุดินโคลนถล่มบ้านปางอุ๋ง หมู่บ้านกลางหุบเขา อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ยังคงปฏิบัติการค้นหาผู้สูญหายอีก 3 ราย โดยระดมกำลังนับร้อยนายพร้อมเครื่องจักรเดินหน้าค้นหา ท่ามกลางบรรดาญาติที่เฝ้ารอด้วยความหวัง ล่าสุดวันนี้พบร่างผู้เสียชีวิตอีก 2 ราย ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้เพิ่มเป็น 6 ราย และยังสูญหายอีก 3 คน ขณะที่หลายครอบครัวต้องสูญเสียบ้านที่อยู่มาหลายสิบปีและยังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นสร้างขึ้นใหม่ได้อย่างไร.-สำนักข่าวไทย

ประชุม ก.ตร. ล่ม เลื่อนไป 31 ส.ค. โผนายพล 136 ตำแหน่งสะดุด

กทม. 28 ส.ค.-ประชุม ก.ตร. ล่ม เลื่อนไป 31 ส.ค. หลัง “ภูมิธรรม” ถกลับ ผบ.ตร. นานหลายชั่วโมง เหตุมีหนังสือร้องเรียนจำนวนมาก ทำโผนายพล 136 ตำแหน่งสะดุด ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. เป็นประธานการประชุม ก.ตร.ครั้งที่ 7/2568 ณ ห้องประชุมศรียานนท์ ชั้น 2 อาคาร 1 มีระเบียบวาระการประชุม 5 วาระ ประกอบด้วย วาระที่ 1 เรื่องที่ประธานแจ้งให้ที่ประชุมทราบ /วาระที่ 2 รับรองรายงานการประชุม ก.ตร.ครั้งที่ 6/2568 /วาระที่ 3 เรื่องที่เสนอเพื่อทราบ เรื่องที่ 1 รายงานการดำเนินการของ อ.ก.ตร.สืบสวนสอบสวน ที่ ก.ตร. มอบหมายให้ทำการแทน […]

กองทัพไทย เคาะสร้างรั้วชายแดนไทย-กัมพูชา เขต อ.อรัญประเทศ

สระแก้ว 23 ส.ค.-กองทัพไทย เคาะสร้างรั้วชายแดนไทย-กัมพูชา จุดแรกบริเวณหลักเขตที่ 50-51 เขต อ.อรัญประเทศ ระยะทาง 10 กม. เชื่อเริ่มดำเนินการได้เป็นรูปธรรมภายในปีนี้ พลเอกมนัส จันดี เสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทยพร้อมคณะลงพื้นที่เพื่อสำรวจแนวชายแดนตั้งแต่หลักเขตที่สี่ 48 ต่อเนื่องถึง 51 บริเวณพื้นที่บ้านป่าไร่ ถึงบ้านท่าข้าม ในเขต อ.อรัญประเทศ โดยการสำรวจดังกล่าวเพื่อเตรียมสร้างแนวกำแพงแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้ข้อสรุปเบื้องต้นบริเวณหลักเกณฑ์ที่ห้า 50 และ 51 ซึ่งไทยและกัมพูชาเห็นตรงกันแล้วในเรื่องเขตแดน จะสร้างเป็นรั้วถาวรเป็นจุดแรกระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร ขณะบริเวณอื่นๆ ซึ่งยังมีการอ้างสิทธิ และยังไม่มีข้อสรุปเรื่องเขตแดนที่ชัดเจน เบื้องต้นก็จะสร้างเป็นแนวรั้วชั่วคราวด้วยวิธีการตัดถนนเลียบตลอดแนวชายแดนและวางรั้วลวดหนามหีบเพลงสามชั้น พร้อมติดกล้องวงจรปิดในจุดที่สามารถดำเนินการได้ ทั้งนี้เชื่อว่าการดำเนินการดังกล่าวจะเกิดประโยชน์ในการเคลื่อนย้ายกำลัง รวมไปถึงการลาดตระเวนตรวจตรา นอกจากนี้การปรับพื้นที่ให้โล่งก็จะทำให้การลักลอบผ่านแดนตามช่องทางธรรมชาติยากขึ้น ซึ่งถือเป็นการสกัดกั้นทั้งแก๊งคอลเซ็นเตอร์และปัญหาสแกมเมอร์ ได้ โดยการดำเนินการจะเริ่มต้นทันทีที่นำเรื่องเข้าขออนุมัติจากสภาความมั่นคงแห่งชาติและไม่ได้ติดขัดในเรื่องงบประมาณแต่อย่างใด เชื่อว่าภายในปีนี้น่าจะเห็นแนวรั้วกำแพงชายแดนไทย-กัมพูชา เริ่มต้นเกิดขึ้นได้ ซึ่งขั้นตอนต่อจากนี้จะมีการลงในรายละเอียดพื้นที่ต่างๆ เพื่อทำความเข้าใจกับประชาชนตามแนวชายแดนที่บางส่วนอาจได้รับผลกระทบบ้าง แต่ก็เชื่อว่าประชาชนพร้อมที่จะเสียสละเพื่อความมั่นคงปลอดภัยของส่วนรวม พลตรี วันชนะ สวัสดี ผู้อำนวยการสำนักงานประสานภารกิจด้านความมั่นคงกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร กรมยุทธการทหาร กล่าวเพิ่มเติมว่า การทำรั้วตลอดแนวชายแดนไทยกัมพูชาเกิดขึ้นจากข้อเรียกร้องของประชาชน […]