กรุงเทพฯ 1 ส.ค. – สมาคมธนาคารไทยระบุกรณีแฮ็กเกอร์เจาะข้อมูลแบงก์พาณิชย์อาจเกิดขึ้นได้ ตั้ง TB-CERT เตรียมรับมือ ส่วนเหรียญเงินที่เปลี่ยนสีเข้มจนดำหากยังพิจารณาได้ว่าเป็นของจริงธนาคารก็ไม่ปฏิเสธรับ
นายปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวถึงกรณีภัยไซเบอร์ในวงการธนาคารไทย ล่าสุดบางธนาคารถูกแฮ็กข้อมูลลูกค้า ว่า เป็นเรื่องปกติที่ทางธนาคารพาณิชย์ต้องระมัดระวังในการทำธุรกิจ อย่างไรก็ตาม บางช่วงเวลาอาจเกิดเหตุการณ์ภัยไซเบอร์ ซึ่งศูนย์ประสานงานการรักษาความมั่นคงปลอดภัยเทคโนโลยีสารสนเทศภาคธนาคาร หรือ TB-CERT (Thailand Banking Sector Computer Emergency Respone ) ซึ่งตั้งขึ้นมาก่อนหน้านี้ได้ทำหน้าที่เตรียมพร้อมรับมือภัยคุกคามไซเบอร์ทางการเงินอยู่แล้ว โดยแต่ละธนาคารเมื่อเกิดการคุกคามต่อระบบก็จะนำข้อมูลมาแจ้งให้ธนาคารอื่น ๆ ทราบ เพื่อช่วยกันหาวิธีป้องกันภัยคุกคามต่อไป ซึ่งเป็นปกติของการประกอบธุรกิจทั่วโลกและสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดแต่เพียงในประเทศไทยเท่านั้น แต่เกิดขึ้นทั่วไป ซึ่งในส่วนของระบบการป้องกันแต่ละธนาคารก็ต้องมีการปรับปรุงพัฒนาให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว
ส่วนกรณีล่าสุดที่แฮกเกอร์สามารถนำข้อมูลลูกค้าของบางธนาคารออกไปได้นั้น นายปรีดี กล่าวว่า กรณีที่เกิดขึ้นเป็นการได้ข้อมูลส่วนที่ไม่มีผลต่อตัวเลขทางการเงิน ดังนั้น จึงถือว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะได้หาทางป้องกันต่อไป
นายปรีดี กล่าวกรณีปรากฏข่าวการแชร์ข้อมูลทางโซเชียลมีเดียว่า ธนาคารปฏิเสธไม่รับเหรียญเงินที่มีสารติดจนสีดำ ว่า ปกติแล้วเหรียญเงินต่าง ๆ แม้จะเปลี่ยนสีเข้มมากขึ้น หากทางธนาคารยังสามารถพิจารณาได้และเห็นเป็นเหรียญจริงที่ชำระเงินได้ตามกฎหมายก็ยังรับเหรียญดังกล่าว เว้นแต่ว่าเหรียญที่นำมามีลักษณะไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นเหรียญจริงหรือปลอมก็จะปฏิเสธรับ แต่กรณีที่แชร์กันในโซเชียลมีเดียยังไม่เห็นการแชร์กรณีนี้ จึงไม่ทราบระดับความเข้มสีของเหรียญที่ระบุว่าธนาคารปฏิเสธรับ.-สำนักข่าวไทย