เชียงราย ประกาศพื้นที่ภัยพิบัติใน อ.เทิง หลังดินถล่ม

เชียงราย 31 ก.ค.-ประกาศพื้นที่ภัยพิบัติหมู่บ้านร่มฟ้าไทย ต.ตับเต่า อ.เทิง จ.เชียงราย หลังเกิดดินถล่ม อาคารที่ตั้งอยู่ติดถนนทรุดและพังลงไปในหุบเขาลึก เนื่องจากฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน


เจ้าหน้าที่ได้เข้าสำรวจความเสียหายกรณีเกิดเหตุดินถล่ม ในพื้นที่หมู่บ้านร่มฟ้าไทย หมู่ 24 ต.ตับเต่า อ.เทิง จ.เชียงราย จนทำให้มีอาคารที่ตั้งอยู่ติดถนนทรุดและพังลงไปในหุบเขาลึก จากการตรวจสอบพบว่ามีอาคารคอนกรีตชั้นเดียวหลังคามุงกระเบื้องจำนวน 5 หลัง ทรุดลงไปในหุบเขาลึกจนเสียหายทั้งหมด โดยเจ้าของบ้านไม่สามารถขนย้ายทรัพย์สินออกมาได้ทัน นอกจากนี้ยังมีบ้านเรือนและอาคารพาณิชย์ข้างเคียงอีก 3-4 หลังที่อยู่ในภาวะเสี่ยงที่จะเกิดการทรุดตัวของหน้าดิน รวมไปถึงศูนย์บริการนักท่องเที่ยวที่เป็นอาคาร 2 ชั้น ที่ตั้งอยู่ห่างจากจุดดินทรุด เพียงแค่ 10 เมตรด้วย ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องปิดกั้นการจราจร ตรงจุดเกิดเหตุระยะทางประมาณ 100 เมตร เพื่อไม่ให้การสัญจรผ่านไปมาเพราะดินและผิวจราจรที่อยู่ด้านหน้าอาคารที่ทรุดตัวเกิดการทรุดตัวจนเหลือเพียงประมาณครึ่งช่องทางจราจร รวมทั้งให้ผู้อาศัยอยู่ในอาคารข้างเคียงได้ขนย้ายทรัพย์สินออกไป และห้ามไม่ให้อยู่อาศัยอยู่ในบ้านด้วย 

ส่วนสาเหตุเพราะมีฝนตกหนักติดต่อกันมากว่า 7 วัน โดยช่วง 3 วันที่ผ่านมามีปริมาณน้ำฝนมากถึงวันละ 99 มิลลิเมตร รวมทั้งใต้ดินเดิมเป็นทางไหลของน้ำที่มาจากเนินเขา โดยหลังเกิดเหตุยังพบมีน้ำผุดขึ้นมาอยู่ตลอดเวลาด้วย 


ขณะนี้ทางจังหวัดได้ประกาศให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นเขตภัยพิบัติดินถล่ม ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ปี 2550 และปิดกั้นพื้นที่เพื่อความปลอดภัยของประชาชน ส่วนความเสียหายอยู่ที่ประมาณ 1.2 ล้านบาท เบื้องต้นเคราะห์ดีที่ช่วงเกิดเหตุไม่มีคนอยู่ภายใน ทำให้ไม่มีความสูญเสีย ส่วนการจราจรนั้นให้ใช้ถนนสายเลี่ยงที่มีอยู่อีก 2 สายชั่วคราว จากนั้นทางแขวงทางหลวงเชียงรายที่ 2 จะเข้าไปแก้ไขปัญหาเบื้องต้น ด้วยการนำสะพานเหล็กชั่วคราวหรือสะพานแบริ่งไปติดตั้ง เพื่อให้สามารถใช้การได้ชั่วคราว จากนั้นอีก 1-2 วันก็จะดูสภาพพื้นที่ เพื่อทำการฟื้นฟูและซ่อมแซมถนนให้สามารถใช้การได้เหมือนเดิมต่อไป 

สำหรับพื้นที่ อ.เทิง ได้มีการแจ้งเตือนให้เฝ้าระวังมาก่อนหน้านี้แล้ว เพราะมีจุดเสี่ยงอีกจำนวน 9 จุด ที่อยู่ในพื้นที่ข้างเคียง สำหรับการฟื้นฟูจะไม่ให้ก่อสร้างใดๆ อีกเด็ดขาด


ด้านเจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงเชียงรายที่ 2 แจ้งว่านำสะพานแบริ่งไปติดตั้งคาดว่าจะไปถึงพื้นที่ในวันพรุ่งนี้ (1 ส.ค.) โดยเป็นสะพานยาวประมาณ 75 เมตรและสามารถต่อเติมได้หากมีความจำเป็น ส่วนการก่อสร้างถนนใหม่นั้นจะต้องมีการปรับพื้นที่ คาดว่าใช้ระยะเวลาหลังได้รับงบประมาณ 180 วัน ใช้งบประมาณ 15 ล้านบาท.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พปชร.เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา

พปชร. เปิดตัวทัพใหญ่ ว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา เผยเลือดไหลเข้าพรรคพร้อมรับใช้ประชาชนอีกมาก

สาวถูกงูเห่ากัดใช้เบตาดีนทา สุดท้ายถูกหามเข้า ICU

อุทาหรณ์ สาวโพสต์โดนงูเห่ากัดตอนตี 5 ล้างแผล ทาเบตาดีนสู้พิษงู ลุกไปเข้าเวรเช้าต่อ ก่อนภาพตัด ถูกหามเข้าไอซียู

ตร.ไซเบอร์บุกค้น 9 จุด รวบรอบ 2 “มินนี่” เจ้าแม่เว็บพนัน

ตำรวจ บช.สอท. นำกำลังพร้อมหมายค้น ปูพรม 9 จุด ทั้งในกรุงเทพฯ จังหวัดเลย และจังหวัดใกล้เคียง จับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายพนันออนไลน์ “มินนี่” กว่า 30 หมายจับ

เตือนพายุฤดูร้อนไทยตอนบน ฉ.1 มีผล 6-8 มี.ค.นี้

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 1 มีผลกระทบช่วงวันที่ 6-8 มี.ค.68 เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง

ข่าวแนะนำ

สะพัด “4ผู้มีอิทธิพล” ทางการเมือง พบกันแล้ว

สะพัด “ทักษิณ-แพทองธาร-เนวิน-อนุทิน” ผู้มีอิทธิพลทางการเมือง 4 คน พบกันแล้ว แต่ไม่ได้รับการเปิดเผยว่าหารือกันในประเด็นใด

ขอหมายจับสามีภรรยาแจ้งความเท็จไฟไหม้บ้านเผาเงิน 10 ล้าน

ตำรวจขอศาลออกหมายจับสามีภรรยา แจ้งความบ้านถูกไฟไหม้เผาเงิน 10 ล้านบาท ด้าน พฐ. ตรวจบ้านไฟไหม้ไม่พบไฟฟ้าลัดวงจร ยืนยันน่าจะเป็นการจงใจวางเพลิง พบเงิน 10 ล้าน ไม่มีจริง พร้อมตรวจสอบเส้นเงินอีก 6.5 ล้าน ที่ยึดได้ในรถ ส่อฟอกเงิน-บัญชีม้า

พายุฤดูร้อนถล่มอีสาน

พายุฤดูร้อนถล่มอีสาน ลมแรง ต้นไม้ล้ม

ไทยเข้าสู่ฤดูร้อนไปเมื่อวันศุกร์ ที่ 28 ก.พ.68 หลายพื้นที่ถูกพายุฤดูร้อนพัดถล่ม โดยเฉพาะเมื่อวานฝนกระหน่ำ ลมแรง ต้นไม้ล้ม ต้นทุเรียนโค่น อุตุฯ เตือนช่วง 6-8 มีนาคมนี้ ระวังพายุฤดูร้อน

ระดมชุดสืบสวนเร่งไล่ล่าคนร้ายชิงทอง 102 บาท

ตำรวจภูธรภาค 6 ระดมชุดสืบสวนเร่งไล่ล่าโจรชิงทองกลางห้างดังแม่สอด พร้อมจำลองเหตุการณ์ถอดแผนประทุษกรรมคนร้าย คาดมีข่าวดีเร็วๆ นี้ ขณะที่ 5 อำเภอชายแดน ยังเข้มตั้งจุดตรวจ-จุดสกัด ป้องกันคนร้ายหนีข้ามแดน